แพทย์อายุรกรรมโรคติดเชื้อ
โรงพยาบาลพระรามเก้า
โรคภัยไข้เจ็บเป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใคร โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนแบบนี้ ทำเอาหลายคนปวดศีรษะ เป็นไข้ ไอ จามกันจนเกรงว่าจะเป็นโรคไข้หวัดใหญ่(Influenza) ซึ่งถือเป็นโรคระบบทางเดินหายใจที่พบว่ามีการระบาดมากในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูที่มีสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงฉับพลัน โดยเกิดจากการติดเชื้อไวรัสซึ่งส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจทั้งจมูก ลำคอ และปอด ซึ่งอาการเบื้องต้นอาจจะคล้ายไข้หวัดธรรมดา แต่มีความรุนแรงกว่า และมีโอกาสพัฒนาสู่ภาวะแทรกซ้อนจนอาจจะส่งผลถึงชีวิตได้
รศ.พญ.สิริอร วัชรานานันท์ แพทย์อายุรกรรมโรคติดเชื้อ โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า สถานการณ์ไข้หวัดใหญ่ในปี 2562 ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค สำนักโรคติดเชื้อทั่วไป กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 6 มิถุนายน 2562 มีรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศจำนวน 167,377 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 252.45 ต่อประชากรแสนคน เสียชีวิต 13 ราย คิดเป็นอัตราป่วยตายร้อยละ 0.01 จำนวนผู้ป่วยสะสมในภาพรวม พบว่าสูงกว่าค่ามัธยฐาน 5 ปีย้อนหลัง และสูงกว่าปีที่ผ่านมา เชื้อไวรัสที่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย สามารถแพร่ติดต่อไปยังคนอื่น ๆ ได้ง่าย เช่น การไอหรือจาม หากอยู่ใกล้ผู้ป่วย บางรายได้รับเชื้อทางอ้อมผ่านทางมือหรือสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น แก้วน้ำ โทรศัพท์ ผ้าเช็ดมือ เป็นต้น เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูก ตา ปาก ในผู้ใหญ่อาจแพร่เชื้อได้นานประมาณ 3-5 วัน นับจากวันที่เริ่มป่วย ในเด็กเล็กสามารถแพร่ได้นานกว่าผู้ใหญ่ อาจพบได้ 7-10 วัน และอาจนานขึ้นไปอีก ในผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องอย่างรุนแรง ความน่ากลัวของไข้หวัดใหญ่อย่างหนึ่งคือ การเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรค ได้แก่ โรคปอดอักเสบ และโรคสมองอักเสบ โดยวิธีการป้องกันการติดเชื้อและแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ สามารถทำได้เพียงดูแลตัวเองด้วย 1.การปิดปากปิดจมูกเมื่อป่วย ไอ จามโดยใช้กระดาษทิชชู่ สามหน้ากากอนามัย หรือไอใส่ต้นแขนตนเอง 2.ล้างมือบ่อยๆก่อนรับประทานอาหาร หลังไอจาม สั่งน้ำมูก จับต้องสิ่งของหรือพื้นผิวที่มีคนสัมผัส
3.เลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ที่มีอาการป่วย มีไข้ ไอ จาม เลี่ยงสถานที่ๆคนมาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก (โดยเฉพาะช่วงที่มีการระบาด) 4.หยุดงาน หยุดเรียน หยุดกิจกรรมกับผู้อื่นเมื่อป่วย เพื่อให้หายป่วยเร็วและไม่แพร่เชื้อให้คนอื่น 5.ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกปี เพื่อสร้างภูมิต้านทานและลดโอกาสเสี่ยง ซึ่งการได้รับวัคซีนเป็นหนึ่งวิธีการเพิ่มภูมิคุ้มกัน เนื่องจากเชื้อไข้หวัดใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงทุกปี โดยกลุ่มเสี่ยงที่ควรได้รับวัคซีนมี 7 กลุ่มเสี่ยงได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์มากกว่า 4 เดือน 2.เด็ก อายุ 6 เดือน - 2 ปี 3.ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค คือ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย เบาหวาน และผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด 4.ผู้สูงอายุ มากกว่า 65 ปี 5.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ 6.โรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ) และ 7.โรคอ้วน น้ำหนักตัวมากกว่า 100 กก./ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตรม.
ศูนย์อายุรกรรมโรงพยาบาลพระรามเก้า ขอร่วมรณรงค์เพื่อลดและป้องกันความเสี่ยงของการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ด้วยการฉีดวัคซีนป้องกัน หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เท่านี้ก็ช่วยให้สุขภาพของคุณและทุกคนในครอบครัวแข็งแรงสมบูรณ์พร้อมที่จะไปร่วมกิจกรรมต่างๆ นอกบ้านในช่วงฤดูฝนได้อย่างสบาย
รพ.พระรามเก้า จัดตั้ง "ศูนย์วัคซีนและเวชศาสตร์การเดินทาง" บริการสร้างภูมิคุ้มกัน ครอบคลุมทุกโรคติดต่อ เพื่อสุขภาพที่พร้อมออกเดินทางได้ทุกพื้นที่ ทุกช่วงวัย
โรงพยาบาลพระรามเก้า ขับเคลื่อนการสื่อสารแบรนด์ ด้วย AI ยกระดับศักยภาพของคนในองค์กร สู่การพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน
โรงพยาบาลพระรามเก้า "ส่งต่อการให้" นำกล้องผ่าตัดเคลื่อนที่สู่ รพ. ยะลา ยกระดับการรักษา ลดความเหลื่อมล้ำด้านสุขภาพ
รพ.พระรามเก้า ผนึกกำลัง รพ.พระมงกุฎเกล้า เปิดเวทีวิชาการยิ่งใหญ่ "Update in Common Neck Pain 2025"
เมื่อแรงขับชีวิตถูกดูด !!! "Burnout" ภาวะหมดไฟที่วัยทำงานและ Gen Z ต้องระวัง
โรงพยาบาลพระรามเก้า "ส่งต่อการให้" มอบกล้องผ่าตัดเคลื่อนที่สู่พื้นที่ห่างไกล เพื่อโอกาสการเข้าถึงการการรักษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีด้านสุขภาพ
โรงพยาบาลพระรามเก้า "ส่งต่อการให้" มอบกล้องผ่าตัดเคลื่อนที่สู่พื้นที่ห่างไกล เพื่อโอกาสการเข้าถึงการการรักษา เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีด้านสุขภาพ
โรงพยาบาลพระรามเก้า ชวน "ฟังเสียงหัวใจ" ผ่านกิจกรรม LISTEN TO YOUR HEART ตอกย้ำความสำคัญของการป้องกันโรคหัวใจ
โรงพยาบาลพระรามเก้า เปิดประสบการณ์ "LISTEN TO YOUR HEART" นิทรรศการสุขภาพผ่านศิลปะ และเวิร์กชอปเพื่อหัวใจที่อบอุ่น