ความน่าสนใจของโครงการดังกล่าวอยู่ที่เป็นครั้งแรกที่รัฐรับซื้อไฟที่เหลือจากการใช้เข้าระบบ ด้วยราคา1.68 บาทต่อหน่วย กำหนดเวลารับซื้อ10ปีซึ่งทำให้การติดตั้งโซลาร์บนหลังคาที่อยู่อาศัย (โซลาร์รูฟท็อป) เกิดความคุ้มทุนได้เร็วขึ้น และผลจากนโยบายดังกล่าวทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโซลาร์รูฟ ท็อปเริ่มเป็นกระแสที่มาแรง โดยล่าสุดมีการทยอยการเข้ามายื่นลงทะเบียนขอสิทธิ์ขายไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามผู้ที่ยื่นเสนอขายไฟที่มีความโดดเด่นคงจะหนีไม่พ้นบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ที่ระดับรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร "เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์" ได้ย้ำผ่านสื่ออย่างมั่นใจว่า เสนาจะเป็นผู้ยื่นสิทธิ์ให้กับลูกบ้าน 6 โครงการ ประกอบด้วย โครงการเสนา พาร์ค แกรนด์ รามอินทรา,โครงการเสนา พาร์ค วิลล์ รามอินทรา-วงแหวน ,โครงการเสนาวิลล์ บรมราชชนนี สาย 5 ,โครงการเสนาแกรนด์ โฮม รังสิต ติวานนท์,โครงการเสนาช้อปเฮ้าส์ พหลโยธิน คูคต และโครงการเสนาช้อปเฮ้าส์บางแคเฟส 1 และเฟส 2 โดยจะยื่นเข้าโครงการโซลาร์ภาคประชาชนปีนี้ด้วยจำนวนรายสูงสุด 164 ราย คิดเป็นจำนวน 394.40 กิโลวัตต์
สำหรับ "เสนา (SENA)" นับเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เจ้าแรกที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาบ้านที่อยู่อาศัย (โซลาร์รูฟท็อป) ทุกหลังทุกโครงการยกเว้นบ้านที่มีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2559 และยังเป็นการบริการแบบครบวงจรผ่านการดำเนินงานติดตั้งโดยบริษัท เสนา โซลาร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ที่เสนาถือหุ้น 100% ซึ่งหากมองกระแสของคนที่รักสิ่งแวดล้อมแล้วนับว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว
"ตอนนี้เราก้าวข้ามคำถามที่ว่า โซลาร์รูฟท็อปมันดีหรือไม่ดีแน่ เพราะดีอยู่แล้วและกำลังเป็นเรื่องปกติของทุกบ้านใหม่ต้องมีเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่จำเป็น ไม่ต่างจากเครื่องปรับอากาศหรือแอร์ ซึ่งปัจจุบันเสนาติดตั้งให้กับบ้านในโครงการรวม 400 หลังคิดเป็นปริมาณ 1,000 กิโลวัตต์" ผศ.ดร.เกษรากล่าวย้ำ
ทั้งนี้เสนายังชี้ให้เห็นว่า จากการเก็บข้อมูลและนำมาวิเคราะห์ถึงกลุ่มเป้าหมายที่จะติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปมี 3 กลุ่มได้แก่ 1. ครอบครัวใหญ่ที่มีทั้งคนทำงานนอกบ้าน คนสูงวัย เด็ก ซึ่งกลุ่มนี้จะมีผู้ที่อาศัยอยู่บ้านในช่วงกลางวันซึ่งสอดรับกับการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปที่จะผลิตไฟฟ้าได้ในช่วงกลางวัน 2.กลุ่มคนทำงานอิสระหรือฟรีแลนซ์ที่ทำงานในบ้านซึ่งก็จะอยู่บ้านในช่วงกลางวันและ 3.บ้านที่มีคนทำงานประจำ ช่วงกลางวันจะไม่อยู่บ้านและจะอยู่เฉพาะเสาร์-อาทิตย์
ดังนั้น กลุ่มที่มีความคุ้มค่าในการใช้โซลาร์จะเป็นกลุ่มที่ 1 และ 2 ทำให้ตอบโจทย์ของการติดตั้งแผงโซลาร์ที่สามารถผลิตไฟฟ้าใช้แล้วคุ้มค่าเพราะแสงอาทิตย์มีช่วงกลางวันทำให้เกิดการประหยัดค่าไฟ ส่วนกลุ่มที่ 3 จะเป็นกลุ่มที่คุ้มค่าในการขายไฟฟ้าให้กับรัฐเนื่องจากกลุ่มนี้ไม่ได้ใช้ไฟช่วงกลางวัน (วันธรรมดา) แต่เมื่อมีโซลาร์ภาคประชาชนที่รับซื้อไฟส่วนเกินเข้าระบบกลุ่มนี้จะได้รับผลประโยชน์ มากที่สุด
อย่างไรก็ตามหากผู้สนใจจะติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแล้วเน้นเพื่อขายไฟฟ้าให้กับภาครัฐเพื่อรับเงินค่าไฟ 1.68 บาทต่อหน่วยก็บอกเลยว่าไม่คุ้มทุนกับการติดตั้งเนื่องจากราคาค่าไฟดังกล่าวไม่ได้สูง ซึ่งปกติเฉลี่ยแต่ละครัวเรือนจะติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปขนาด 2-3 กิโลวัตต์ ค่าติดตั้งประมาณกิโลวัตต์ละ 5 หมื่นบาทโดยทางเสนาได้ชี้ให้เห็นว่าหากครัวเรือนที่ติดตั้งใช้เองและไม่ขายไฟเข้าระบบจะประหยัดเงินค่าไฟฟ้าได้ 1-3 แสนบาท ตลอดอายุแผงโซลาร์(25 ปี) แต่กรณีติดตั้งเพื่อใช้เองและขายไฟฟ้าส่วนเกินเข้าระบบซึ่งรัฐซื้อในระยะ 10 ปีนั้นจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้ 1-3 หมื่นบาท ดังนั้นการติดตั้งเพื่อใช้เองจึงมีความคุ้มค่าสูงกว่า ซึ่งกรณีดังกล่าว ดูเหมือนว่าหน่วยงานรัฐ ทั้ง กระทรวงพลังงานและคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ก็ได้ตอกย้ำถึงประเด็นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งสัญญาณเตือนไปยังภาคประชาชนว่าควรจะคิดให้รอบคอบก่อนที่จะติดตั้งเพราะหากติดตั้งการผลิตไว้จำนวนมากๆ แล้วไม่ได้ใช้ไฟกลางวัน การลงทุนแบบนี้เสี่ยงแน่นอน อย่างไรก็ตามภาคเอกชนเองยังคงคาดหวังว่าในอนาคตรัฐจะปรับอัตรารับซื้อไฟฟ้าให้สูงขึ้นเพื่อจูงใจหรือไม่ก็เพิ่มระยะเวลารับซื้อไฟฟ้าส่วนเกินจากที่กำหนดไว้ 10 ปีเป็น 25 ปีตามอายุของแผงโซลาร์ฯ
โครงการโซลาร์ภาคประชาชนในปีนี้ ซึ่งถือเป็นปีแรกของการนำร่องที่หลายคนมองว่าคงจะไม่ถึงเป้าหมาย 100 เมกะวัตต์ด้วยเหตุผลที่ชาวบ้านยังไม่รู้ถึงผลประโยชน์และความคุ้มค่าและบ้านแต่ละหลังก็ติดตั้งขนาดเล็กๆ แต่ด้วยโครงการนี้มีระยะยาว 10 ปีที่จะทยอยรับซื้อปีละ 100 เมกะวัตต์ไปเรื่อยๆก็น่าจะทำให้ตลาดโซลาร์ฯเกิดความคึกคักมากขึ้นเพราะในต่างประเทศโซลาร์เขามาแรงจริงๆ เพราะเห็นชัดแล้วว่าคุ้มค่าทั้งค่าใช้จ่ายแถมลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม
WHAID - WHAUP ผนึกกำลังลงนาม MOU ร่วมกับ กฟภ. - พีอีเอ เอ็นคอม พัฒนาระบบไฟฟ้า รองรับดีมานด์การใช้ไฟฟ้ากลุ่มลูกค้า Data Center
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค หนุน PEA จัดงานวิ่งมินิมาราธอน 2025 ชูแนวคิด "Digital green grid one step for the better energy"
โลตัส ภายใต้ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ผนึกกำลังหน่วยงานสาธารณูปโภค มอบคูปองส่วนลด 20 บาท ช่วยคนไทยประหยัดเมื่อจ่ายบิลค่าน้ำ-ค่าไฟ
เสริมศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเซ็นเตอร์ไทย ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ จัดเวิร์คช็อปเทคโนโลยีสถานีไฟฟ้าแรงสูง
กปภ. ร่วมกับ ธปท. เปิดตัวบริการขอประวัติการใช้น้ำออนไลน์ ช่วยประชาชนขอสินเชื่อสะดวกขึ้น
กฟภ. และ แกร็บ ประเทศไทย ร่วมลงนาม MOU ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเสริมประสิทธิภาพการทำงาน
Bolt Business ผนึกกำลัง กฟภ. ลงนาม MOU ใช้บริการ On-Demand เสริมประสิทธิภาพการเดินทางพนักงาน ดันภาครัฐสู่ระบบขนส่งอัจฉริยะ
แรบบิทแคช จับมือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดตัว "โครงการสร้างความยั่งยืนระดับองค์กรกับแรบบิทแคช" ต่อยอดแนวคิด ESG ยกระดับคุณภาพชีวิตพนักงานด้านการเงิน สู่องค์กรที่ยั่งยืน
กปภ. รวมพลัง "ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง" บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนทั่วประเทศ