สศก. จัด focus group เกษตรกร-พ่อค้าในพื้นที่ ถกแนวทางพัฒนาเกษตรอินทรีย์

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          นายฉันทานนท์ วรรณเขจร รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงสถานการณ์การผลิตสินค้าอินทรีย์โลกในปัจจุบัน พบว่า จากข้อมูลของสถาบันวิจัยเกษตรกรรมอินทรีย์ (The research institute of organic agriculture: FiBL) และสหพันธ์เกษตรอินทรีย์นานาชาติ (international federation of organic agriculture movements: IFOAM) ปี 2560 พบว่า พื้นที่เกษตรอินทรีย์ของโลกมีจำนวน 361.25 ล้านไร่ โดยพื้นที่ผลิตสินค้าส่วนใหญ่อยู่บริเวณโอเซเนียน (Oceania) (ออสเตรเลียและหมู่เกาะใกล้เคียง) มีพื้นที่ผลิตเกษตรอินทรีย์ 47% ของพื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมด รองลงมา คือ ยุโรป มีพื้นที่ผลิตเกษตรอินทรีย์ 23% ลาตินเอมริกา 12% เอเชีย 9% อเมริกาเหนือ 6% และแอฟริกา 3% ซึ่งผลผลิตเกษตรอินทรีย์ในตลาดโลกสร้างมูลค่าประมาณ 2.8 ล้านล้านบาท
          สำหรับประเทศไทย มีพื้นที่ผลิตเกษตรอินทรีย์อยู่ลำดับที่ 7 ของเอเชีย และมีการขยายพื้นที่ผลิตอินทรีย์อย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน ซึ่งจากการเก็บข้อมูลตั้งแต่ ปี 2543 พบว่าไทยมีพื้นที่ผลิตอินทรีย์ 10,524 ไร่ และเพิ่มขึ้นเรื่อยมาจนปี 2560 มีพื้นที่ผลิตอินทรีย์ 570,409ไร่ (เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 ต่อปี) โดยส่วนใหญ่เป็นการผลิตข้าวอินทรีย์ร้อยละ 59 พืชไร่ ร้อยละ 15 และผัก/ผลไม้ผสมผสาน ร้อยละ 13 ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าจากการส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์ได้ 1,817 ล้านบาท/ปี
          อย่างไรก็ตาม แม้เกษตรอินทรีย์จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่เมื่อเทียบกับพื้นที่เกษตรทั้งหมดของไทยยังคงเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก หรือมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.41 เท่านั้น เนื่องจากการทำเกษตรอินทรีย์จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการปรับเปลี่ยนจึงจะได้รับการรับรองมาตรฐาน การสร้างความรู้ความเข้าใจด้านเกษตรอินทรีย์ให้แก่เกษตรกร การสร้างแรงจูงใจที่ทำให้เกษตรกรหันมาทำเกษตรอินทรีย์ รวมทั้งอุปสรรคที่เกิดจากสภาพภูมิอากาศ สภาพแวดล้อม และภัยพิบัติต่างๆ ล้วนยังส่งผลให้เกษตรกรยังคงตัดสินใจผลิตสินค้าแบบทั่วไป
          ด้านนายชาญชัย ศศิธร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 จังหวัดสุราษฎร์ธานี (สศท.8) กล่าวเสริมว่าหากพิจารณาถึงทิศทางการผลิตเกษตรอินทรีย์ พบว่า ยังประสบปัญหาในด้านโลจิสติกส์เป็นปัญหาสำคัญ ซึ่งทำให้คุณภาพของสินค้า ไม่ตรงกับความต้องการของตลาดปลายทาง ดังนั้น สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1-12 ในส่วนภูมิภาค จึงได้จัดสนทนากลุ่ม (focus group) เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 โดยร่วมกับเกษตรกรผู้ผลิต ผู้แทนจากสถาบันเกษตรกร/ผู้รวบรวมผลผลิต พ่อค้าคนกลาง จำนวนกว่า 30 ราย เพื่อศึกษาแนวทางการจัดการโลจิสติกส์สินค้าอินทรีย์ในพื้นที่ โดย สศท. 8 ได้เน้นสินค้ามะพร้าวอินทรีย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้ พบว่า ด้านมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ เกษตรกรยังประสบปัญหาเรื่องระยะเวลาการขอมาตรฐานซึ่งต้องใช้ระยะเวลานาน ทั้งมาตรฐาน Organic Thailand รวมถึงการพัฒนาไปสู่มาตรฐานUSDA IFOAM ของต่างประเทศ และค่าใช้จ่ายในการขอรับรองมาตรฐาน นอกจากนี้ เกษตรกรบางส่วนยังขาดความรู้ความเข้าใจในการยื่นขออนุมัติมาตรฐานทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงมาตรฐาน ในการแปรรูปสินค้า ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องส่งเสริมการให้ความรู้ในการขอใบรับรองมาตรฐานสินค้าแต่ละชนิด อีกทั้งภาครัฐควรสนับสนุนด้านงบประมาณในการขอรับมาตรฐานของสินค้าเกษตรอินทรีย์ของต่างประเทศสำหรับผู้ส่งออกสินค้าเกษตรอินทรีย์
          การจัดการด้านคลังสินค้า พบว่า เกษตรกรบางส่วนยังขาดองค์ความรู้ในเรื่อง know how ด้านการบริหารเงินทุน (ไม่กล้านำเงินทุนมาหมุนเวียน) รวมทั้งโรงงานในพื้นที่ขาดเงินทุนหมุนเวียน ทำให้เกษตรกรขายผลผลิตให้กับแหล่งขายทั่วไปซึ่งเป็นเจ้าประจำ ดังนั้น ควรส่งเสริมโดยให้ความรู้เรื่องการบริหารเงินทุนหมุนเวียน การทำแผนการใช้เงิน และการกำหนดเป้าหมาย การหาช่องทางการตลาดในพื้นที่ เช่น โรงงานแปรรูปในชุมชน และการสร้างเครือข่าย เช่น กลุ่มมะพร้าวอินทรีย์ในพื้นที่ เป็นต้น ด้านการขนส่ง พบว่า สินค้าเกษตรอินทรีย์ยังมีค่าใช้จ่ายในเรื่องการขนส่งที่ค่อนข้างสูง จึงต้องพัฒนาระบบการขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ หรือสินค้าอินทรีย์ควรได้รับการลดหย่อนในเรื่องค่าขนส่ง และด้านการสูญเสียพบว่า การแปรรูปยังเป็นลักษณะแบบเดิม ไม่มีการเพิ่มมูลค่าผลผลิตสินค้าจากส่วนที่เหลือ จึงควรสร้างองค์ความรู้เพื่อพัฒนาต่อยอด และความร่วมมือของทั้งภาครัฐ เอกชน มหาวิทยาลัย เพื่อให้ทุกส่วนของมะพร้าวแปรรูปและสามารถเพิ่มมูลค่าได้ต่อเนื่อง 
          อย่างไรก็ตาม การสร้างฐานการผลิตในต่างประเทศ โดยพัฒนาร่วมกับคู่ค้าในแต่ละประเทศเป็นสิ่งสำคัญ ประกอบกับการขึ้นทะเบียน เกษตรกร ผู้ประกอบการ ที่ดำเนินการเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์ จะเป็นฐานข้อมูลในการเชื่อมโยงในเรื่องการจัดหา การขนส่ง และการตลาด เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันสินค้าอินทรีย์ของไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้จากการจัด focus group สศก. จะนำไปใช้เป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการบริหารจัดการโลจิสติกส์สินค้าอินทรีย์ต่อไป สำหรับท่านที่สนใจข้อมูล สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สศท.8 โทร. 077 311 641 หรือ อีเมล [email protected]
สศก. จัด focus group เกษตรกร-พ่อค้าในพื้นที่ ถกแนวทางพัฒนาเกษตรอินทรีย์
 
สศก. จัด focus group เกษตรกร-พ่อค้าในพื้นที่ ถกแนวทางพัฒนาเกษตรอินทรีย์

 
สศก. จัด focus group เกษตรกร-พ่อค้าในพื้นที่ ถกแนวทางพัฒนาเกษตรอินทรีย์
สศก. จัด focus group เกษตรกร-พ่อค้าในพื้นที่ ถกแนวทางพัฒนาเกษตรอินทรีย์
 
 
 






8 Attachments









ข่าวสถาบันวิจัยเกษตรกรรมอินทรีย์+สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรวันนี้

สศก. จัดสัมมนาระดมความเห็น ดึงแพลตฟอร์ม "AgriDataProv" ขับเคลื่อนการเกษตรด้วย Big Data สู่จังหวัดยุคดิจิทัล

นางสาวกาญจนา ขวัญเมือง รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่อง "ขับเคลื่อนการเกษตรด้วย Big Data: สู่จังหวัดยุคดิจิทัล" ณ ห้องประชุม Nada Ballroom โรงแรมเบสท์ เวสเทิร์น นาดา ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพมหานคร โดยการจัดงานของศูนย์ข้อมูลเกษตรแห่งชาติ พร้อมด้วยหน่วยงานต่างๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าร่วม ในสถานการณ์ปัจจุบัน ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต้องปรับตัวและเตรียมความพร้อมเข้าสู่ยุคของการวิเคราะห์และใช้ประ

นางธัญญ์พิชชา เถระรัชชานนท์ ผู้อำนวยการสำ... สศท.2 เกาะติดสถานการณ์ผลิตทุเรียนภาคเหนือตอนล่าง ปี 68 รวม 6 จังหวัด แตะ 55,000 ตัน เพิ่มขึ้น 12.47% — นางธัญญ์พิชชา เถระรัชชานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษ...

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงา... โครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพ หนุนเกษตรกรสร้างรายได้จากสมุนไพร-แมลงเศรษฐกิจ — นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)...

นายนิกร สงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิ... สศท.8 เผยผลศึกษาการเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือใช้จากมังคุด ตามแนวทาง BCG Model เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร — นายนิกร สงเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 8 ส...