สทนช. เฝ้าระวังปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำ บูรณาการหน่วยงานแก้ปัญหาคุณภาพน้ำเร่งด่วน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

          รัฐผนึกกำลังเฝ้าระวังแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน บางปะกง ค่าความเค็มเกินมาตรฐานจากน้ำทะเลหนุนสูง สทนช. ประสานเร่งรัดหน่วยงานเกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์แม่น้ำสายหลักอย่างใกล้ชิด พร้อมประสาน กปน. ชป. ปรับแผนรับน้ำดิบจากฝั่งแม่กลอง 2 แสน ลบ.ม./วัน ป้องน้ำเค็มกระทบการผลิตประปาสถานีสูบน้ำดิบสำแล
          ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า สทนช.ได้มีการติดตามเฝ้าระวังคุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลัก 4 สาย ได้แก่ แม่น้ำเจ้าพระยา แม่กลอง ท่าจีน และแม่น้ำบางปะกง อย่างใกล้ชิด เนื่องจากขณะนี้มีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย อาจได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลต่อคุณภาพน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตร นอกจากนี้ ยังได้ติดตามคุณภาพของแม่น้ำสายหลักในพื้นที่ 25 ลุ่มน้ำ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีการติดตามเฝ้าระวัง ได้แก่ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) การประปานครหลวง (กปน.) การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) กรมชลประทาน (ชป.) และสำนักงานทรัพยากรสิ่งแวดล้อมภาค (สสภ.) อีกด้วย ทั้งนี้ สถานการณ์คุณภาพน้ำของ 4 แม่น้ำสายหลักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า มีแม่น้ำที่ค่าความเค็มเกินค่าเกณฑ์มาตรฐาน ประกอบด้วย แม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน และแม่น้ำบางปะกง
          "ที่ผ่านมา สทนช. ได้มีการวิเคราะห์ประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า พร้อมประสานเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประปานครหลวง (กปน.) และ กรมชลประทาน (ชป.) เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยขณะนี้ กปน. มีการติดตามการเฝ้าระวังเกณฑ์คุณภาพน้ำดิบ หากค่าความเค็มที่จุดตรวจวัดสะพานพระนั่งเกล้า มีค่าเกิน 2 กรัม/ลิตร กปน.จะประสานกรมชลประทานเพื่อระบายน้ำผลักดันน้ำเค็ม ไม่ให้รุกล้ำถึงสถานีสูบน้ำดิบสำแล และหากหน้าสถานีสูบน้ำดิบสำแลมีค่าความเค็มเกิน 0.25 กรัม/ลิตร จะดำเนินการบริหารจัดการสูบน้ำดิบให้เหมาะสมตามเกณฑ์คุณภาพน้ำ รวมทั้งประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกรมชลประทาน ในการลดการรับน้ำดิบจากฝั่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและเพิ่มการรับน้ำดิบจากฝั่งแม่กลอง 200,000 ลบ.ม./วัน เพื่อบรรเทาสถานการณ์คุณภาพน้ำ โดยปัจจุบันกรมชลประทานได้จัดสรรน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศและป้องกันน้ำเค็มตลอดฤดูแล้ง 4 มาตรการ คือ 1) การบริหารจัดการน้ำจะพิจารณาให้สัมพันธ์กับการขึ้นลงของน้ำทะเล 2) ควบคุมการปิดเปิดประตูระบายน้ำตามคลองต่าง ๆ ไม่ให้น้ำเค็มไหลเข้าพื้นที่การเกษตร 3) วางแผนและดำเนินการบริหารจัดการน้ำ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ การลำเลียงน้ำจากคลองและแม่น้ำสายหลัก เร่งผลักดันน้ำเพื่อลดค่าความเค็มและผลกระทบด้านคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง 4) ดำเนินการช่วยเหลือรถบรรทุกน้ำเพื่อขนส่งน้ำช่วยเหลือเกษตรกร โดยกำหนดให้มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องหมุนเวียนในพื้นที่" ดร.สมเกียรติ กล่าว 
          ขณะเดียวกัน สทนช. ได้ประสาน คพ. สสภ. กปภ. ให้ดำเนินการติดตามคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง โดยทำการตรวจวัดค่าความเค็มที่จุดเฝ้าระวัง และควบคุมค่าความเค็มทุกวันจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูแล้ง ประกอบด้วย 1) สถานีสูบน้ำสำแล อ.เมือง จ.ปทุมธานี ให้มีค่าความเค็มไม่เกิน 0.25 กรัม/ลิตร 2) ปากคลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม ให้มีค่าความเค็มไม่เกิน 0.75 กรัม/ลิตร 3) ปากคลองดำเนินสะดวก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ให้มีค่าความเค็มไม่เกิน 2.00 กรัม/ลิตร 4) อ.ศรีมหาโพธิ์ อ.เมือง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ปราจีนบุรี ให้มีค่าความเค็มไม่เกิน 1 กรัม/ลิตร โดยย้ำให้ทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างเร่งด่วนและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากหากบริเวณใดมีแนวโน้มส่งผลกระทบ จะสามารถบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขและให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที
สทนช. เฝ้าระวังปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำ บูรณาการหน่วยงานแก้ปัญหาคุณภาพน้ำเร่งด่วน
 
 

ข่าวสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ+สำนักงานทรัพยากรน้ำวันนี้

สทนช. ร่วมขับเคลื่อน "โครงการพระราชดำริด้านน้ำ" เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน เดินหน้าสืบสานพระราชปณิธาน นำร่องต่อยอด 22 โครงการ

สทนช. บูรณาการร่วม "สืบสาน รักษา และต่อยอด" บูรณาการการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 300 โครงการ สามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยพัฒนาแหล่งน้ำอย่างเป็นระบบเชื่อมโยงทุกมิติ สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า สทนช. ในฐานะหน่วยงานหลักในการกำกับดูแลการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ ได้ร่วมเป็นคณะกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยในการประชุม ครั้งที่ 1/2568

สทนช. เปิดศูนย์ส่วนหน้าฯ "ลุ่มน้ำยม-น่าน" จับมือทุกหน่วย คุมจราจรน้ำจากเหนือสู่เจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน

สทนช. เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ระดมทุกหน่วยจัดการจราจรน้ำที่ไหลจากภาคเหนือก่อนลงสู่อ่าวไทย โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ...

สทนช. ลุยพื้นที่เสี่ยงภาคกลาง ตรวจความพร้อมระบบชลประทานเจ้าพระยาตอนล่าง ติดตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 เตรียมแผนรับมือน้ำหลากจากภาคเหนือ

สทนช. เดินหน้าลงพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง พร้อมประชุมหารือร่วมกับกรมชลประทาน เพื่อกำหนดแนวทางบริหารจัดการน้ำและติดตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 ...

ด้วยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ไ... ประกาศฉบับที่ 13/2568 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง ช่วง 23-28 ก.ค.นี้ — ด้วยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงบริเวณแม...

กรมอุตุนิยมวิทยา และ สถาบันสารสนเทศทรัพยา... เกาะติดข้อเท็จจริง การบริหารจัดการน้ำรับมือฤดูฝน ปี 2568 — กรมอุตุนิยมวิทยา และ สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. ได้มีการคาดการณ์ว่าปี 2...

สทนช. ติดตามมาตรการรับมือฝนลุ่มน้ำโขงอีสาน ประสาน MRCS ติดตามระดับน้ำแม่น้ำโขงล้นตลิ่ง ก.ค.-ส.ค.นี้

เลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่สกลนคร-นครพนม ติดตามมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 68 ในพื้นที่ลุ่มน้ำโขงตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมประสาน MRCS ติดตามระดับน้ำแม่น้ำโขงล้นตลิ่งช่วง ก.ค.-ส.ค.นี้ กำชับหน่วยงานเร่งปรับ...

สทนช. ติดตามการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก พร้อมรับมืออุทกภัยปีนี้

สทนช. บูรณาการหน่วยงานประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าชั่วคราวฯ ลุ่มน้ำโขงเหนือ เร่งติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก การก่อสร้างพนังกั้นน้ำ และการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ รับมืออุทกภัยปีนี้ พร้อมชู "จ....

เลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่ จ.พะเยา ติดตามค... สทนช. ติดตามการบริหารจัดการน้ำกว๊านพะเยา พร้อมรับมืออุทกภัยตลอดฤดูฝนปีนี้ — เลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่ จ.พะเยา ติดตามความก้าวหน้ามาตรการรับมือฤดูฝน ปี 68 แ...