นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ครัวเรือนเกษตรของไทย ส่วนใหญ่เป็นครัวเรือนที่ทำการเกษตรขนาดเล็ก รายได้ทางการเกษตรไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย ในครัวเรือน สมาชิกในครัวเรือนและหัวหน้าครัวเรือนจำเป็นต้องหารายได้นอกภาคเกษตร เช่น เป็นแรงงานรับจ้างทั้งในและต่างประเทศ ค้าขาย และประกอบธุรกิจอื่นๆ ซึ่งครัวเรือนเกษตรจะมีรายได้นอกภาคเกษตรประมาณเกือบครึ่งหนึ่ง ของรายได้ทั้งหมด
                                                                                                                                        จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วนนั้น ภาคเกษตรก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยแรงงานในเมืองและต่างประเทศได้โยกย้ายกลับภูมิลำเนาจึงมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อ ประกอบกับภาวะการเงินที่มีความตึงตัวอยู่ก่อนแล้ว เมื่อไม่มีรายได้นอกการเกษตรมาช่วยในการชำระหนี้ที่มีมากโดยเฉลี่ย 221,490 บาท/ครัวเรือน จึงส่งผลให้การเงินมีความตึงตัวมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ จากการประกาศของรัฐบาลให้ทุกหน่วยงานพิจารณามาตรการเหลื่อมเวลาทำงานและการทำงานที่บ้าน และประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ เคอร์ฟิว ทำให้การซื้อขายในตลาดทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภค บริโภค จะมีผู้ซื้อและกำลังซื้อลดลงจากเดิม ประชาชนส่วนใหญ่จะเริ่มหันมาใช้สินค้าตลาดออนไลน์มากขึ้น เกษตรกรจึงจำเป็นต้องปรับตัวในการใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ในการผลิตและการตลาด
                                                            
                                                                                                                            
ดังนั้น การเสริมสร้างศักยภาพของภาคเกษตรในระยะยาว ต้องดำเนินการทั้งด้านเยียวยาและการเสริมสภาพคล่องให้ครัวเรือนเกษตร ได้พึ่งตนเอง เช่น อบรมเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพพื้นที่เกษตร พัฒนาการใช้เทคโนโลยีและการตลาด เร่งส่งเสริมศักยภาพแรงงานภาคเกษตรโดยเฉพาะแรงงานคืนถิ่นที่กำลังว่างงาน จูงใจให้แรงงานอายุน้อยหันมาทำเกษตรมากขึ้น ซึ่ง สศก. ได้จัดทำโครงการแรงงานคืนถิ่น พลิกฟื้นผืนดินเกษตรไทย ด้วยศาสตร์พระราชา เพื่อเป็นแนวทาง และสร้างภูมิคุ้มกันให้ในสภาวะปัญหาเศรษฐกิจจากวิกฤตโรคร้ายโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรที่มีที่ดินทำกินอยู่แล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะทำการเกษตรรูปแบบใด จะสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับ มาสร้างเป็นอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ขยายผลสู่การทำการเกษตรกรรมยั่งยืน
                                                            
                                                                                                                            
นอกจากนี้ ควรส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีและการทำการตลาด เช่น e-commerce ตลาดออนไลน์ และเร่งแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้เกษตรกรส่วนใหญ่ทำเกษตรได้ตลอดทั้งปี เน้นไปที่การบริหารจัดการน้ำและดินพร้อมทั้งแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร และการสร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยสร้างตลาดสินค้าควบคู่กันงานนอกการเกษตรเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน
                                                            
                                                                                                                            
รองเลขาธิการ สศก. กล่าวทิ้งท้ายว่า สภาวะวิกฤตช่วงที่ผ่านมา แม้จะกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของทุกภาคส่วน แต่หากพิจารณาแล้ว กลุ่มเกษตรกร ยังเป็นกลุ่มที่สามารถพึ่งพาตนเองได้จากการทำกิจกรรมเกษตรผสมผสาน ลดความเสี่ยงด้านความมั่นคงอาหาร ด้วยแหล่งอาหารที่ตนเองผลิต นับได้ว่าการทำเกษตรผสมผสานก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของเกษตรกรอย่างชัดเจน อีกทั้ง เมื่อเปรียบเทียบกับภาคธุรกิจอื่น ๆ จะเห็นว่าราคาพืชผลสูงขึ้นและความต้องการสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้เกษตรกรยังคงมีรายได้ และยังเป็นภาคที่มีศักยภาพในการรองรับและช่วยแก้ปัญหาว่างงานในเมืองได้อีกด้วย
                            
                            เลขาธิการ สศก. เตรียมนำทีม ลุย Crop Cutting ภาคสนามเพชรบูรณ์ 27 ตุลาคมนี้ ลงพื้นที่แปลงข้าวโพดเกษตรกร ยกระดับข้อมูลแม่นยำพืชเศรษฐกิจของประเทศ
                        
                            สศท.12 ชวนศึกษาวิถี เกษตรอินทรีย์ 'บ้านสวนน้อยชมจันทร์' จ.เพชรบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบยั่งยืน
                        
                            โครงการปรับปรุงคลองส่งน้ำ ท่ามะกา ระยะ 5 ช่วยเกษตรกร 40 ครัวเรือน ผลผลิตและรายได้เพิ่ม
                        
                            สศก. ลงพื้นที่สมุทรสาคร หนุนเกษตรกรเลี้ยงกุ้งขาวแวนนาไม GAP ชี้ได้เปรียบทั้งคุณภาพและความปลอดภัย
                        
                            สศก. จัดสัมมนาระดมความเห็น ดึงแพลตฟอร์ม "AgriDataProv" ขับเคลื่อนการเกษตรด้วย Big Data สู่จังหวัดยุคดิจิทัล
                        
                            สศก. ติดตามความก้าวหน้าโครงการจัดการความเสื่อมโทรมของที่ดิน ด้วยแนวคิด LDN มุ่งสู่การใช้ที่ดินอย่างยั่งยืน
                        
                            สศท.6 ชวนเช็คอิน 'สวนผลอำไพ' จ.ตราด แหล่งเรียนรู้เกษตรอินทรีย์ สร้างมูลค่าเพิ่มเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
                        
                            โครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพ หนุนเกษตรกรสร้างรายได้จากสมุนไพร-แมลงเศรษฐกิจ
                        
                            สศท.6 ชี้ผลสำเร็จโครงการนำร่องการแก้ไขปัญหาลดผลกระทบจากช้างป่า พื้นที่บ้านหนองกระทิง จ.ฉะเชิงเทรา ช่วยเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ลดรายจ่ายครัวเรือน