ไทยนำอาเซียนหารือจีน ยกระดับความตกลงทางการค้า เร่งเปิดตลาดเสรีเพิ่มเติม หลังโควิด-19 คลี่คลาย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการร่วมกำกับการดำเนินงานภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - จีน (ASEAN - China Free Trade Agreement - Joint Committee : ACFTA-JC) ครั้งที่ 13 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-14 กรกฎาคม 2563
ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศสมาชิกอาเซียน สำนักงานเลขาธิการอาเซียน และ Ministry of Commerce สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่ง สศก. ได้เข้าร่วมประชุมในฐานะองค์ประกอบผู้แทนไทย ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ไทยนำอาเซียนหารือจีน ยกระดับความตกลงทางการค้า เร่งเปิดตลาดเสรีเพิ่มเติม หลังโควิด-19 คลี่คลาย

การประชุมดังกล่าว ที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับแผนการดำเนินการตามประเด็นที่จะเจรจาต่อไปในอนาคต (Future Work Programme) ภายใต้พิธีสารยกระดับความตกลงการค้าเสรีอาเซียน - จีน (ACFTA Upgrading Protocol) ได้แก่ การหารือแนวทางการเปิดตลาดสินค้าเพิ่มเติม การหารือการเปิดเสรีและการคุ้มครองการลงทุน รวมถึงการหารือความร่วมมือในสาขาใหม่ๆ เพื่อยกระดับความร่วมมือ ACFTA อาทิ อุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษี และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น และขณะเดียวกันที่ประชุมก็ได้เน้นย้ำถึงถ้อยแถลงร่วมของรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน - จีน ที่ได้แสดงเจตจำนงร่วมกันเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนระดับโลกและภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในด้านการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ความมุ่งมั่นในการรักษาตลาดที่เปิดกว้าง การส่งเสริมการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนเพื่อรักษาห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงการใช้มาตรการเพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นของตลาดและปรับปรุงเสถียรภาพของเศรษฐกิจในภูมิภาค

รองเลขาธิการ สศก. กล่าวต่อไปว่า สำหรับกรอบความตกลง ACFTA จะช่วยให้ภาคการเกษตรของไทยได้โอกาสในการขยายตลาดการส่งออกสินค้าเกษตรเข้าสู่ตลาดประเทศจีนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการหารือเพื่อขยายความร่วมมือในด้านวิชาการและการพัฒนาภาคเกษตรของประเทศไทย ตลอดจนประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ สาธารณรัฐประชาชนจีน นับเป็นประเทศคู่ค้าสินค้าเกษตรอันดับที่ 1 ของไทย ซึ่งระหว่างปี 2560 - 2562 ทั้งสองฝ่ายมีสัดส่วนการค้าสินค้าเกษตรระหว่างกันเฉลี่ยปีละ 284,482 ล้านบาท จำแนกเป็นมูลค่าการส่งออกเฉลี่ยปีละ 219,691 ล้านบาท และมูลค่าการนำเข้าเฉลี่ยปีละ 64,791 ล้านบาท โดยไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้าเฉลี่ยปีละ 154,900 ล้านบาท สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่  ยางธรรมชาติ ทุเรียน และมันสำปะหลัง ส่วนสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ พืชผักแห้ง สัตว์น้ำแช่แข็ง แอปเปิ้ล เห็ดหูหนู และองุ่นสด เป็นต้น


ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร+กระทรวงเกษตรและสหกรณ์วันนี้

สศท.12 ชวนศึกษาวิถี เกษตรอินทรีย์ 'บ้านสวนน้อยชมจันทร์' จ.เพชรบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบยั่งยืน

นางเจนธิชา ชัยชาญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 12 นครสวรรค์ (สศท.12) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์อย่างต่อเนื่อง ตามแผนปฏิบัติการด้านเกษตรอินทรีย์ พ.ศ. 2566 2570 ส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาใช้ระบบการผลิตแบบอินทรีย์ที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เน้นการพัฒนาและขยายตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างยั่งยืน บ้านสวนน้อยชมจันทร์ หมู่ที่ 9 บ้านวังซอง

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงา... โครงการปรับปรุงคลองส่งน้ำ ท่ามะกา ระยะ 5 ช่วยเกษตรกร 40 ครัวเรือน ผลผลิตและรายได้เพิ่ม — นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)...

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงา... โครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพ หนุนเกษตรกรสร้างรายได้จากสมุนไพร-แมลงเศรษฐกิจ — นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)...

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงา... โครงการส่งเสริมอาชีพประมง เพิ่มมูลค่าสัตว์น้ำ หนุนสร้างรายได้เกษตรกร — นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสห...