โลกของ “เซฟตี้ โปรดักส์” จะเปลี่ยนไปหลังวิกฤติ “โควิด-19” เปิดมุมมองซีอีโอ “ซีพีแอล กรุ๊ป” ผู้ปลุกปั้นแบรนด์ “แพงโกลิน”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ในแวดวงอุตสาหกรรมแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยแบรนด์ “แพงโกลิน” (Pangolin) ที่เริ่มต้นธุรกิจจากการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรองเท้านิรภัยสำหรับใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมก่อสร้าง มายาวนานกว่า 35 ปี ก่อนที่จะขยายไปสู่การนำเข้าและจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันภัยประเภทอื่นๆ ที่เรียกว่า PPE (Personal Protective Equipment) หรืออุปกรณ์ป้องกันและคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล จนกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ จำหน่าย PPE ชั้นนำของประเทศ ที่ปัจจุบันขยายตลาดด้วยการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายทั้งในเมียนมาและเวียดนาม

โลกของ “เซฟตี้ โปรดักส์” จะเปลี่ยนไปหลังวิกฤติ “โควิด-19” เปิดมุมมองซีอีโอ “ซีพีแอล กรุ๊ป” ผู้ปลุกปั้นแบรนด์ “แพงโกลิน”

ภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่าย PPE ภายใต้แบรนด์ “แพงโกลิน” ยอมรับว่า ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 อุปกรณ์ป้องกันและคุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล อาจจะเคยรู้จักกันแค่ในกลุ่มคนที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม หรือพนักงานในโรงงานเท่านั้น เพราะทรัพยากรสำคัญที่สุดในสายการผลิตก็คือพนักงาน ดังนั้น หากพนักงานเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุจากการทำงานจนถึงขั้นหยุดงาน หรือรุนแรงถึงขั้นสูญเสียชีวิต ก็จะส่งผลกระทบต่อความสูญเสียของผลิตภัณฑ์ รายได้และธุรกิจ

“ดังนั้น ที่ผ่านมาภาคอุตสาหกรรมจึงใช้ PPE เพื่อการป้องกันพนักงานในการปฏิบัติงานในทุกๆ วันมาโดยตลอดอยู่แล้ว ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ไม่ว่าจะเป็นหมวกนิรภัย แว่นตานิรภัย อุปกรณ์ป้องกันทางเดินหายใจ หรือรองเท้านิรภัยหัวเหล็ก เป็นต้น และนั่นทำให้ภาคอุตสาหกรรมให้ความสำคัญกับการป้องกันมากกว่าการรักษา เราจึงมีมักเห็นสโลแกน "Safety First" หรือ “ปลอดภัยไว้ก่อน” ในโรงงานอุตสาหกรรมเสมอ" ภูวสิษฏ์กล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากการเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบัน ทำให้ PPE ไม่ได้จำกัดอยู่ในแวดวงอุตสาหกรรม แต่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำของทุกคนมากขึ้น เริ่มตั้งแต่ความจำเป็นของบุคลากรทางแพทย์ที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วย จนมาถึงประชาชนทั่วไปที่หันมาให้ความสำคัญและตระหนักถึงความจำเป็นของอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยส่วนบุคคลเหล่านี้เพิ่มขึ้น

“ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาเราหละหลวมและอาจจะเห็นความสำคัญของ PPE น้อยเกินไป เช่น ในไซท์งานก่อสร้างบางแห่ง คนงานก็ไม่ได้ใช้อุปกรณ์ป้องกันภัยอย่างเต็มที่เท่าที่ควรจะเป็น หรือแม้ว่าการใช้ชีวิตทั่วๆไป ที่เราควรจะสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นโดยเฉพาะสำหรับคนเมืองเมื่อออกนอกบ้าน หรือเรื่องง่ายๆ เช่น การละเลยที่จะพกร่มติดตัวเวลาออกจากบ้านในฤดูฝน ดังนั้น เราจึงเชื่อว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำให้ทัศนคติในเรื่องการใช้อุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคลเปลี่ยนไป ประชาชนจะตระหนักถึงการป้องกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้น”

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพีแอล บอกด้วยว่า เมื่อความต้องการสูงขึ้น การแข่งขันทางธุรกิจสินค้า “เซฟตี้ โปรดักส์” ก็ย่อมเพิ่มขึ้น แต่สำหรับแบรนด์ “แพงโกลิน” ที่อยู่ในตลาดมานานเกินกว่า 3 ทศวรรษแล้ว ทำให้มั่นใจว่า “แพงโกลิน” ยังมีความสามารถในการแข่งขัน นอกเหนือไปจากพื้นที่เดิม ซึ่งก็คือ โรงงานอุตสาหกรรมและไซท์งานก่อสร้าง ไปสู่พื้นที่ในการทำตลาดใหม่ นั่นคือ ตลาดดูแลรักษาสุขภาพ โดยเฉพาะโรงพยาบาล และตลาดของผู้บริโภคทั่วไป

สำหรับอุปกรณ์ PPE ที่จำเป็นและครอบคลุมการใช้งานของทั้ง 2 กลุ่มนั้น แบ่งเป็นบุคคลทั่วไป ประกอบด้วย หน้ากากอนามัย หน้ากากมาตรฐาน N95 และกระบังป้องกันหน้าหรือ Face shield สำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน ขณะที่อุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับบุคลากรทางแพทย์ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย ประกอบด้วย หน้ากากอนามัยที่ได้รับการรับรองเช่น N95,FFP2 ชุดคลุมศีรษะและอุปกรณ์พัดลมกรองอากาศ แว่นครอบตาหรือกระบังป้องกันหน้า ถุงมือยาง รองเท้าบูท และชุดหมีป้องกันอนุภาคเชื้อโรคของเหลว สารคัดหลั่ง ที่จะช่วยป้องกันผิวหนังและเสื้อผ้า ไม่ให้ปนเปื้อนเชื้อโรค ซึ่งต้องได้รับมาตรฐานที่ระบุว่า ป้องกันสารคัดหลั่งทางการแพทย์ เป็นชุดที่ใส่ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ไม่แนะนำให้นำกลับมาใส่ซ้ำหรือนำมาซักล้างใหม่ เพราะจะเกิดการปนเปื้อนเชื้อโรคได้

“ในแง่ธุรกิจ ต้องยอมรับว่า ทั้งสองพื้นที่นี้ ถือว่าเป็นความท้าทายใหม่ของแพงโกลิน แต่ด้วยประสบการณ์ที่เราอยู่ในตลาดมายาวนาน บวกกับความรู้และความเชี่ยวชาญที่เรามีศูนย์อบรมด้านความปลอดภัย เพื่อจัดส่งพนักงานของเราออกไปให้คำปรึกษากับหน่วยงานต่างๆ อยู่เสมอ ทำให้เรามั่นใจว่า แพงโกลินยังเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศในอุตสาหกรรมนี้ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ อุปกรณ์ PPE ทุกประเภท ไม่ว่าจะในส่วนที่บริษัทฯ ผลิตเอง หรือนำเข้ามาจำหน่าย จะผ่านการคัดเลือกด้านมาตรฐานการใช้งาน โดยมีตรวจสอบอย่างเข้มข้นก่อนส่งถึงมือผู้บริโภคเสมอ”

ดังนั้น จุดที่ต้องย้ำเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวัง ก็คือ เมื่อโลกของเซฟตี้ โปรดักส์ เปลี่ยนไป ความต้องการใช้มีมากขึ้น ก็อาจจะมีสินค้าเซฟตี้ โปรดักส์ ราคาถูก แต่ไม่มีคุณภาพหรือคุณภาพต่ำเข้ามาจำหน่ายมากขึ้น ซึ่งนอกจากไม่สามารถป้องกันความปลอดภัยได้ตามมาตรฐานแล้ว ยังอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้อีกด้วย


ข่าวอุตสาหกรรมก่อสร้าง+โรงงานอุตสาหกรรมวันนี้

NL ร่วมขับเคลื่อนอนาคตวงการก่อสร้างไทย มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ในงานเสวนา Thai Builders Forum ยกระดับมาตรฐาน สร้างโอกาสใหม่ในงานก่อสร้างไทย

บริษัท เอ็นแอล ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ NL ตอกย้ำวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามหลัก ESG ด้วยการเข้าร่วมงานเสวนา Thai Builders Forum "ยกระดับมาตรฐาน สร้างโอกาสใหม่ในงานก่อสร้างไทย" ซึ่งจัดโดยโครงการสร้างเสริมผลลัพธ์ที่ดีทางสังคม (BSI) ร่วมกับ สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์, บริษัท แอสเซท ไวส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท บิลค์ วัน กรุ๊ป จำกัด เพื่อยกระดับการจัดการห่วงโซ่คุณค่าของอุตสาหกรรมก่อสร้างด้วยมาตรฐานทางสังคม ผ่านการจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบ และแลกเปลี่ยน

นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช (กลาง) ประธานเจ้าหน... MENA ส่งซิก Q3/68 โตแรง ธุรกิจโลจิสติกส์-ก่อสร้าง-TDM หนุน ดันรายได้ปีนี้ All Time High — นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยนา...