ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ ธ.ทหารไทย เป็น “แนวโน้มมีเสถียรภาพ” และคงอันดับเครดิตสากลที่ 'BBB-’

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency Issuer Default Rating) และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ของ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)  หรือ TMB เป็น “แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ” จากเดิม “แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวก”  และคงอันดับเครดิตดังกล่าวที่ 'BBB-’ และ 'AA-(tha)’ ตามลำดับ พร้อมกันนี้ฟิทช์ได้ปรับลดอันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิของธนาคารเป็น  'A(tha)’ จาก 'A+(tha)’ สำหรับรายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดแสดงไว้ในส่วนท้าย

การปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของ TMB สะท้อนถึงความท้าทายของสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจและผลกระทบที่รุนแรงต่อเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสที่กระจายไปในวงกว้าง โดยผลกระทบดังกล่าวได้เพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยที่กำลังชะลอตัว แม้ว่าทางการจะมีมาตรการผ่อนปรนในด้านการจัดชั้นสินเชื่อและการปรับโครงสร้างหนี้ซึ่งอาจช่วยชะลอผลกระทบต่อคุณภาพสินทรัพย์ได้บ้าง แต่มาตรการเหล่านี้ไม่น่าจะหักล้างความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด โดยเฉพาะในกลุ่มลูกหนี้ที่มีฐานะทางการงินที่อ่อนแอหรือเป็นกลุ่มที่มีความเปราะบาง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานของธนาคารไทยสามารถดูได้จาก “Coronavirus Outbreak Increases Challenges for Thai Banks’ Operating Environment” ลงวันที่ 2 เมษายน 2563 ที่ https://www.fitchratings.com/site/pr/10116671

แม้ระยะเวลาและแนวโน้มความรุนแรงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสยังมีความไม่แน่นอน แต่อย่างไรก็ตามอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญในด้านคุณภาพสินทรัพย์และด้านรายได้และผลกำไรในช่วง 18-24 เดือนข้างหน้าน่าจะปรับตัวลดลงไปต่ำกว่าระดับที่ฟิทช์เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ  อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ
อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของ TMB มีปัจจัยสนับสนุนมาจากความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวธนาคารเอง ซึ่งสะท้อนได้จากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของธนาคาร (หรือ Viability Rating) นอกจากนี้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคารที่ 'BBB-’ ปัจจุบันอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (Support Rating Floor) ซึ่งหมายความว่าอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำอาจเปลี่ยนมาเป็นปัจจัยสนันสนุนหลักของ อันดับเครดิตสากล อันดับเครดิตภายในประเทศและอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของธนาคารได้ ในกรณีที่อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินถูกปรับลดอันดับลงและฟิทช์ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมุมมองต่อความสามารถและโอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนเป็นพิเศษ (extraordinary support) แก่ TMB
อันดับเครดิตภายในประเทศของ TMB ยังพิจารณาถึงความแข็งแกร่งด้านเครดิตของธนาคารเทียบกับธนาคารหรือบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ
อันดับเครดิตของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิอยู่ในระดับเดียวกันกับอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของธนาคาร เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีสถานะเป็นภาระผูกพันที่ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกันของธนาคาร

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของ TMB สะท้อนถึงโครงสร้างธุรกิจของธนาคาร (company profile) ที่ปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นหลังจากการควบรวมกิจการกับธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) แต่อย่างไรก็ตามฟิทช์เชื่อว่าความท้าทายที่เพิ่มขึ้นของสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานจะเป็นอุปสรรคในการที่ความแข็งแกร่งทางการเงินของ TMB จะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในระยะสั้นถึงระยะปานกลาง โดยการคาดการณ์ดังกล่าวนี้ตรงกันข้ามกับการคาดการณ์เดิมของฟิทช์ก่อนที่สภาพแวดล้อมในการดำเนินงานจะปรับตัวแย่ลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส นอกจากนี้ความเสี่ยงจากการดำเนินการควบรวมกิจการ (execution risk) อาจปรับเพิ่มสูงขึ้นอีกได้ เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอและแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในด้านคุณภาพสินทรัพย์และในด้านผลกำไร

ตามการคาดการณ์กรณีฐานของฟิทช์คุณภาพสินทรัพย์และผลประกอบการของ TMB จะได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 2 ปีข้างหน้า โดยอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญของธนาคารจะปรับตัวอ่อนแอลงเมื่อเทียบกับอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินที่ 'bbb-’ ดังนั้นปัจจัยด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่ 'bbb-’ จึงมีแนวโน้มเป็นลบ นอกจากระดับค่าใช้จ่ายการสำรองหนี้สูญ (credit cost) ที่อาจเพิ่มขึ้นแล้ว รายได้ของธนาคารก็อาจจะปรับตัวลดลงจากภาวะอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำรวมถึงปริมาณธุรกิจที่จะปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลให้ฟิทช์ปรับลดปัจจัยด้านรายได้และผลกำไรลง 1 ระดับเป็น 'bb+’ จาก 'bbb-’ และยังคงคาดว่าจะมีความเสี่ยงต่อเนื่องจากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญและการจัดการสินเชื่อที่ด้อยคุณภาพ ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนเงินกองทุนที่เป็นส่วนของเจ้าของผู้ถือหุ้น (Common Equity Tier 1 ratio หรือ CET1) ที่ 13.6% ณ สิ้นปี 2562 น่าจะช่วยรองรับความเสี่ยงได้ระดับหนึ่ง (ซึ่งแผนการจ่ายเงินปันผลเป็นหุ้นและแผนการลดขนาดสินเชื่อของธนาคารน่าจะช่วยหนุนฐานะเงินกองทุนด้วย) แต่อย่างไรก็ตามฐานะเงินกองทุนของธนาคารยังคงถูกกดดันจากความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์และด้านผลกำไร ในส่วนของความเสี่ยงในด้านการระดมเงินและสภาพคล่องของ TMB นั้นน่าจะถูกบรรเทาลงจากการที่ธนาคารมีฐานเงินฝากที่มีขนาดขึ้นใหญ่และมีการกระจายตัวที่ดีขึ้นหลังจากการควบรวมกิจการ อีกทั้งธนาคารยังไม่มีความจำเป็นในระยะสั้นมากนักที่จะต้องระดมเงินในสกุลเงินต่างประเทศ

อันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) และ อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ

อันดับเครดิตสนับสนุนและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำของ  TMB พิจารณาจากการที่ธนาคารมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศเพิ่มขึ้นหลังจากการควบรวมกิจการกับ ธนาคารธนชาต ปัจจุบัน TMB เป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านเงินฝากที่ประมาณ 10% ณ สิ้นปี 2562 ในขณะที่ธนาคารไทยอื่นที่มีขนาดใหญ่กว่ามีส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านเงินฝากที่ 11% ถึง 17% ทั้งนี้ฟิทช์เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนช่วยเหลือเป็นพิเศษแก่ TMB ในกรณีที่มีความจำเป็น

หุ้นกู้ด้อยสิทธิ

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินบาทที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ตามเกณฑ์บาเซล 3 ของ TMB ปัจจุบันอยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคาร (ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนมาจากความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวธนาคารเอง) และเป็นอันดับเครดิตอ้างอิงของหุ้นกู้ด้อยสิทธิอยู่ 2 อันดับ ซึ่งสอดคล้องกับกรณีพื้นฐานตามเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตฉบับปรับปรุงใหม่ของฟิทช์ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีโอกาสที่จะได้รับชำระหนี้คืน (recovery rate) ในอัตราที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิไม่มีหลักประกัน สำหรับเหตุการณ์ที่จะทำให้เกิดผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ (non-viability trigger) คือเมื่อธนาคารกลางหรือทางการตัดสินใจเข้าให้การช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคาร หุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวไม่ได้ถูกปรับลดอันดับเพิ่มเติมเพื่อสะท้อนถึงความเสี่ยงที่ผู้ถือหุ้นกู้จะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดการณ์ (non-performance risk) เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption) เช่น สิทธิในการยกเว้นหรือการเลื่อนจ่ายดอกเบี้ย

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

การปรับเพิ่มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินหรืออันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากด้านล่าง) อาจส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของธนาคารได้รับการปรับเพิ่มอันดับเช่นกัน

การเปลี่ยนมุมมองของฟิทช์ต่อโครงสร้างเครดิตของ TMB เมื่อเทียบธนาคารหรือบริษัทอื่นที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตภายในประเทศอาจส่งผลกระทบต่ออันดับเครดิตภายในประเทศของ TMB แต่อย่างไรก็ตามการปรับเพิ่มอันดับเครดิตไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะสั้นเนื่องจากสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานที่กำลังเผชิญความท้าทาย

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

การปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินและอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำจะส่งผลให้อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศ อันดับเครดิตภายในประเทศ และอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิของธนาคารถูกปรับลดอันดับลงเช่นกัน

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินอาจถูกปรับเพิ่มอันดับ หากฟิทช์เห็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเครือข่ายธุรกิจในประเทศของ TMB ปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นและมีโครงสร้างธุรกิจที่ดีขึ้น และปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ความแข็งแกร่งทางการเงินโดยรวมของธนาคารปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับธนาคารในประเทศรายอื่นที่มีอันดับเครดิตสูงกว่า แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ดังกล่าวไม่น่าเกิดขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากสภาพแวดล้อมในการดำเนินงานและอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญโดยเฉพาะในด้านคุณภาพสินทรัพย์และด้านรายได้ที่กำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างมากในช่วง 2 ปี ข้างหน้า

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินอาจถูกปรับลดอันดับ หากอัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญของ TMB ปรับตัวแย่ลงกว่าที่คาดการณ์ภายใต้สภาวะแวดล้อมในการดำเนินงานที่อ่อนแอลงจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส ตัวอย่างเช่น การปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราส่วนสินเชื่อที่ด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมที่มากกว่า 6% (2.7% ณ สิ้นปี 2562) และอัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ต่ำกว่า 100% (120% ณ สิ้นปี 2562) และการปรับตัวลดลงของอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่ต่ำกว่า 1% ในช่วง 2 ปีข้างหน้าหรือมากกว่า (0.7% ในปี 2562) นอกจากนี้การที่ธนาคารไม่สามารถรักษาระดับเงินกองทุนให้อยู่ในระดับเพียงพอกับความเสี่ยงที่เพี่มขึ้น ซึ่งอาจบ่งชี้ได้จากอัตราส่วนเงินกองทุน CET1 ที่ต่ำกว่า 13% อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่ออันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน

อันดับเครดิตสนับสนุน (Support Rating) และ อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำอาจได้รับการปรับเพิ่มอันดับ หากฟิทช์ประเมินแล้วเห็นว่ารัฐบาลมีความสามารถหรือโอกาสที่จะให้การสนับสนุนแก่ TMB ในระดับที่สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น การปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว ของประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ BBB+/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ อาจบ่งชี้ได้ว่ารัฐบาลมีความสามารถมากขึ้นที่จะ

ให้การสนับสนุนแก่ธนาคารที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินในประเทศ (ซึ่งรวมถึง TMB) แต่การพิจารณาอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำต้องคำนึงถึงการที่โอกาสที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารด้วย

อันดับเครดิตสนับสนุนจะไม่เปลี่ยนแปลง เว้นแต่อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำถูกปรับเปลี่ยนไปอยู่ในช่วงอันดับเครดิตอื่น

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

ฟิทช์อาจปรับลดอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำและอันดับเครดิตสนับสนุนของ TMB หากรัฐบาลมีความสามารถที่จะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารลดลง เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดได้จากการปรับลดอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของประเทศไทย นอกจากนี้อาจมีผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับเครดิตดังกล่าวได้หากมีสัญญาณที่บ่งชี้ว่า TMB มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของประเทศในระดับที่ลดลงหรือหากมีการออกกฎเกณฑ์การแก้ไขปัญหาสถาบันการเงิน (resolution legislation) ที่ทำให้แนวโน้มที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนแก่ธนาคารนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยลงกว่าที่ฟิทช์คาดการณ์ในปัจจุบัน

หุ้นกู้ด้อยสิทธิ

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงบวกหรือส่งผลให้เกิดการปรับเพิ่มอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

การปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของธนาคาร เนื่องจากสถานะทางเงินที่ปรับตัวดีขึ้น จะส่งผลให้อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินบาทได้รับการปรับเพิ่มอันดับเช่นกัน

ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบหรือส่งผลให้เกิดการปรับลดอันดับเครดิต (ปัจจัยเดียวหรือหลายปัจจัยรวมกัน)

การปรับลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินลงมาที่ต่ำกว่า 'bbb-’ ซึ่งจะต่ำกว่าอันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำ จะส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศของอันดับเครดิตอ้างอิงลดลงและส่งผลให้อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิถูกปรับลดอันดับ

การพิจารณาปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)

หากไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนนี้ แสดงว่าธนาคารมีระดับคะแนนความสัมพันธ์ของ ESG ต่ออันดับเครดิต ไม่เกินระดับ 3 ซึ่งหมายความว่าปัจจัยด้าน ESG จะไม่ส่งผลกระทบหรืออาจมีผลกระทบในระดับที่น้อยมากต่ออันดับเครดิตของธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยจากลักษณะของธุรกิจหรือจากการบริหารจัดการของธนาคารก็ตาม

ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถหาได้จาก ESG Relevance Scores, visit www.fitchratings.com/esg

รายละเอียดของอันดับเครดิตทั้งหมดมีดังต่อไปนี้:

  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'BBB-’; ปรับเป็น แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ จาก แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวก
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F3’
  • อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินคงอันดับที่ 'bbb-’
  • อันดับเครดิตสนับสนุนคงอันดับที่ '2’
  • อันดับเครดิตสนับสนุนขั้นต่ำคงอันดับที่ 'BBB-’
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวคงอันดับที่ 'AA-(tha)’; ปรับเป็น แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ จาก แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นบวก
  • อันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นคงอันดับที่ 'F1+(tha)’
  • อันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันคงอันดับที่ 'BBB-’
  • อันดับเครดิตภายในประเทศของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ ปรับลดอันดับเครดิตเป็น 'A(tha)’ จาก 'A+(tha)’


ข่าวฟิทช์ เรทติ้งส์+ธนาคารทหารไทยวันนี้

ฟิทช์คงอันดับเครดิตโครงการหุ้นกู้ MTN สกุลเงินบาท ของ บ. บริหารสินทรัพย์พหลโยธิน ที่ 'AA+(tha)'/'F1+(tha)'

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AA+(tha)' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้นที่ 'F1+(tha)' ของโครงการให้กู้ medium-term note (MTN) มูลค่า 3 หมื่นล้านบาท ของ บริษัทบริหารสินทรัพย์พหลโยธิน จำกัด (PAMCO) โดยหุ้นกู้ที่จะออกภายใต้โครงการดังกล่าวจะมีเพียงหุ้นกู้มีผู้ค้ำประกันและมีวงเงินไม่เกิน 3 หมื่นล้านบาท ณ ขณะใดขณะหนึ่ง (revolving) และโครงการหุ้นกู้ดังกล่าวจะหมดอายุในเดือนสิงหาคม 2568 PAMCO เป็นบริษัทลูกของ ธนาคารทหารไทยธนชาต จากัด (มหาชน) (TTB;

ฟิทช์คงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวของ ธ.ทหารไทยธนชาต ที่ 'BBB' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ 'AA+(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating) ของ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ...

ฟิทช์ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากล ของ ธ.ทหารไทยธนชาต เป็น 'BBB' และอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว เป็น 'AA+(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Issuer Default Rating) ของ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB...

ฟิทช์ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิต บมจ. เอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ เป็น 'CCC+(tha)' และเพิกถอนอันดับเครดิต

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัท เอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ FNS เป็น 'CCC+(tha)' จาก 'CCC-(tha)' ...

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส และ บจก.แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค ที่ 'AAA(tha)'; แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) และบริษัท แอดวานซ์ ...

ฟิทช์ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศของ บ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ที่ 'A(tha)' แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ของบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASP ที่ 'A(tha)' แนว...

ฟิทช์ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ สำหรับอันดับเครดิตภายในประเทศของ บริษัทเอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง และคงอันดับเครดิตที่ 'A(tha)'

ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ประกาศปรับแนวโน้มอันดับเครดิตเป็น "แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นลบ" จากเดิม "แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ" และคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว ...

SAWAD ปลื้ม! ขายหุ้นกู้ 3,150 ล้านบาททะลุเป้า นักลงทุนสถาบัน รายใหญ่ตอบรับล้นหลาม เสริมฐานเงินทุนแข็งแกร่ง สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพและธรรมาภิบาลองค์กร

บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยชั้นนำของประเทศ ประกาศความสำเร็จในการออกและเสนอขาย...