กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าปีนี้ประเทศไทยฤดูหนาวจะมาไวกว่าปกติ ซึ่งสภาพอากาศที่เย็นลงอาจส่งผลให้เกิดโรคภัยต่าง ๆ ได้ง่ายโดยเฉพาะโรคสุดฮิตอย่าง "โรคปอดบวม" ที่เกิดจากการติดเชื้อในปอด อาจเป็นได้ทั้งเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส หรือเชื้อรา
แม้จะเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้เพราะมีวัคซีนป้องกันและยารักษา แต่ก็มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตสูงเช่นเดียวกัน ล่าสุดองค์การอนามัยโลกได้เปิดเผยตัวเลขว่ามีเด็กจำนวนกว่า 800,000 คนต่อปีเสียชีวิตด้วยโรคปอดบวม
อาการและกลุ่มเสี่ยงโรคปอดบวม
โรคปอดบวมสามารถสังเกตได้จากผู้ป่วยจะมีอาการ ไอ เจ็บหน้าอก เหนื่อย หอบ หายใจลำบาก บางคนอาจมีอาการไข้หนาวสั่นร่วมด้วย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปี ขึ้นไป และเด็กเล็กที่มีอายุน้อยกว่า 5 ขวบถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญและมีอัตราการเสียชีวิตสูง นอกจากนี้ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ก็จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงเช่นกัน
วิธีป้องกันโรคปอดบวม
โรคปอดบวมคือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อทางเดินหายใจชนิดหนึ่งเช่นเดียวกับไข้หวัดทั่วไป โดยสามารถติดต่อกันผ่านการไอ จาม น้ำมูกหรือสัมผัสสารคัดหลั่งต่าง ๆ ของผู้ที่ติดเชื้อ ดังนั้นวิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพที่สุดก็คือเริ่มจากตัวผู้ป่วย โดยต้องใส่หน้ากากอนามัยหากต้องไปในที่สาธารณะหรือที่ ๆ ผู้คนแออัด เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ ส่วนคนรอบข้างก็สามารถป้องกันตัวเองได้ด้วยการล้างมือบ่อย ๆ ใส่หน้ากากอนามัยหากต้องอยู่ใกล้กับผู้ป่วย อีกทั้งในปัจจุบันยังมีวัคซีนป้องกันโรคปอดบวมที่สามารถเข้ารับการฉีดได้จากโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ
หากเป็นแล้วเสี่ยงเสียชีวิตหรือไม่
คนที่เสียชีวิตด้วยโรคปอดบวมนั้น สาเหตุส่วนใหญ่มาจากปอดมีการอักเสบรุนแรงและติดเชื้อในกระแสเลือด เนื่องจากได้รับการรักษาช้า รวมถึงยังเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเบื้อนต้นตามที่กล่าวมา แต่แท้จริงแล้วโรคปอดบวมเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้หากได้รับการรักษาที่ทันท่วงที หากใครที่มีอาการเข้าข่ายแพทย์จะทำการเอกซเรย์ปอดเพื่อหาความผิดปกติ โดยสังเกตได้จากปอดจะมีฝ้าสีขาวอย่างชัดเจน แต่ในผู้ป่วยระยะเบื้องต้นจะมีความยากตรงที่การเอกซเรย์จะยังเห็นฝ้าไม่ชัดมากนัก ดังนั้นจึงต้องใช้วิธีติดตามอาการแล้วมาเอกซเรย์ในครั้งถัดไป
รณรงค์วันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ แพทย์เตือน 'ไข้กาฬหลังแอ่น' หนึ่งในสาเหตุของการติดเชื้อในสมองและกระแสเลือด เสี่ยงเสียชีวิตได้ภายใน 24 ชั่วโมง
กรมอนามัยร่วมการอภิปรายในกิจกรรมคู่ขนาน "Time to act on sugars: advancing health equity and tackling noncommunicable diseases (NCDs) with a focus on oral diseases" ในห้วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 80
กินไม่เค็มก็เสี่ยงโรคไต! แพทย์ รพ.วิมุต เตือนคนไทยลดอาหารแปรรูป-เบเกอรี่-ชานมไข่มุก แหล่งโซเดียมที่ทำไตพังไม่รู้ตัว
สธ. ดันโครงการ "เด็กฉลาดสร้างได้ตั้งแต่แรกเกิด" ชี้ธาตุเหล็กช่วยพัฒนาสมองลูกน้อย เสริมพัฒนาการให้สมวัย
โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน "ฆาตกรเงียบ" ที่คร่าชีวิตโดยไม่มีสัญญาณเตือน รู้ทันก่อนสายเกินไป
ผงปรุงรสจากพืชพื้นบ้าน: นวัตกรรมทางเลือกเพื่อสุขภาพและความยั่งยืนของชุมชน
กปภ. ตรวจเข้มคุมคุณภาพน้ำ 24 ชั่วโมงย้ำ ! น้ำประปาเชียงรายสะอาด ปลอดภัย มั่นใจได้
สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์ วันงดสูบบุหรี่โลก 2568 เน้นย้ำ "กระชากหน้ากาก ธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า : นิโคตินเสพติด จน ตาย"