หัวใจสำคัญ 3 ประการ ในการสร้างไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อปฏิรูปสภาพแวดล้อมทางการค้าและอุตสาหกรรมสู่ดิจิทัล

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ในภาคอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ การแข่งขันสู่การปฏิรูปดิจิทัลยังคงดำเนินต่อไป มีหลายบริษัทนำเทคโนโลยี อุตสาหกรรม 4.0 มาช่วยเพิ่มคุณภาพและผลิตผล และเพื่อให้ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยในการแข่งขัน บริษัททั้งหลายต้องสร้างศักยภาพด้านเอดจ์คอมพิวติ้งที่ปลอดภัย ให้ความน่าเชื่อถือ ซึ่งต้องอาศัยระบบโครงสร้างของไมโครดาต้าเซ็นเตอร์มาช่วยตอบสนองเรื่องดังกล่าวได้อย่างเหมาะสม

หัวใจสำคัญ 3 ประการ ในการสร้างไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อปฏิรูปสภาพแวดล้อมทางการค้าและอุตสาหกรรมสู่ดิจิทัล

อุตสาหกรรม 4.0 เกิดจากการผลักดันด้วยเทคโนโลยีอย่างแท้จริง ซึ่งมาจากการประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ เพื่อรวบรวมข้อมูลจากเครื่องจักรและอุปกรณ์ทุกรูปแบบมาช่วยปรับปรุงผลลัพธ์ที่ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพ และปรับปรุงกระบวนการทำงาน เหล่านี้คือประโยชน์บางส่วน การประยุกต์ใช้ IIoT หรือเทคโนโลยี IoT สำหรับภาคอุตสาหกรรม ยังช่วยในเรื่องการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (preventive maintenance) ที่ช่วยเพิ่มเรื่องอัพไทม์ และลดค่าใช้จ่าย หัวใจสำคัญ 3 ประการ ในการสร้างไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อปฏิรูปสภาพแวดล้อมทางการค้าและอุตสาหกรรมสู่ดิจิทัล

ข้อมูล และข้อมูลในทุกแห่งหน
บริษัทวิจัย ไอดีซี คาดการณ์ว่าภายในปี 2025 จะมี "อุปกรณ์" ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้จำนวน 40,000 ล้านชิ้น ซึ่งจะสร้างปริมาณข้อมูลมากถึงเกือบ 80 เซตตะไบต์ (หรือหนึ่งพันล้านล้านล้านไบต์) ในปี ซึ่งปริมาณข้อมูลที่เกิดจากอุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อกัน จะทำให้เราได้เห็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี ที่ 28.7 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเวลาที่ไอดีซีได้คาดการณ์ไว้สำหรับปี 2018 ถึง 2025 แต่สำหรับภาคอุตสาหกรรมและยานยนต์จะเติบโตมากกว่า 2 เท่า คือ 60 เปอร์เซ็นต์ ตามที่ไอดีซีกล่าว

เรากำลังพูดถึงข้อมูลจำนวนมหาศาล บล็อกโพสต์ของซิสโก้ในปี 2016 (ช่วงที่ทราฟฟิกบนอินเทอร์เน็ตมีปริมาณเกินระดับของ ZB) ได้ให้ภาพรวมไว้อย่างดี ให้ลองคิดว่าข้อมูลหนึ่ง ZB หรือเซตตะไบต์ มีจำนวนเทียบเท่า 1,000 เทระไบต์ และถ้าแต่ละเทระไบต์ที่อยู่ในหนึ่งเซตตะไบต์ มีความยาวเท่ากับ 1 กิโลเมตร ก็จะมีความยาวเท่ากับการเดินทางไปกลับดวงจันทร์ 1,300 รอบ แต่ละรอบคิดเป็นระยะทาง 768,800 กิโลเมตร

และเมื่อคุณมีปริมาณข้อมูลขนาดมหาศาลระดับนั้น มีอยู่ 2-3 เหตุผลที่คุณต้องมีขุมพลังในการประมวลผลอยู่ในพื้นที่ อย่างแรกคือการส่งข้อมูลที่มีปริมาณขนาดใหญ่ไปประมวลผลที่คลาวด์ดาต้าเซ็นเตอร์ซึ่งอยู่ไกลไม่น่าจะเป็นวิธีที่เหมาะ และสองคือ ความล่าช้าที่เกี่ยวข้องอาจจะแปรผันตามแอปพลิเคชัน IIoT จำนวนมากที่โดยธรรมชาติแล้วจะทำงานแบบเรียลไทม์

คุณสมบัติหลักของเอดจ์ ดาต้าเซ็นเตอร์
องค์กรภาคการค้าและอุตสาหกรรม ต้องอาศัยเอดจ์ ดาต้าเซ็นเตอร์ในพื้นที่เพื่อรองรับความตั้งมั่นในการปฏิรูปสู่ดิจิทัล และอุตสาหกรรม 4.0 คำถามคือ แล้วจะสร้างดาต้าเซ็นเตอร์แบบนั้นได้อย่างไร สิ่งที่ต้องพิจารณามีอยู่ 3 ประเด็นต่อไปนี้

  1. เอดจ์ ดาต้าเซ็นเตอร์ มักจะอยู่ในขอบเขตของพื้นที่อุตสาหกรรมหรือการค้าอยู่แล้ว อาจจะเป็นในร้านค้าปลีก โรงงานผลิต หรือกระทั่งสถานที่กลางแจ้ง เช่นสาธาณูปโภค ทำให้ต้องเป็นโซลูชันแบบออล-อิน-วัน ทั้งประมวลผล จัดเก็บและมีอุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายที่ต้องติดตั้งอยู่ในพื้นที่ปิดประเภท self-contained enclosure ซึ่งระบบโครงสร้างแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จเป็นระบบที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเอดจ์ ดาต้าเซ็นเตอร์ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใน enclosure แบบไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ ที่รวมเรื่องของระบบพลังงานทั้งหมด และหากจำเป็นก็ต้องรวมองค์ประกอบในเรื่องระบบทำความเย็นด้วยเช่นกัน
  2. ระบบรักษาความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญสูงสุด แม้ธรรมชาติของเอดจ์ ดาต้าเซ็นเตอร์จะมีขนาดเล็ก แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยสนับสนุนวัตถุประสงค์สำคัญทางธุรกิจ เช่นการปฏิรูปสู่ดิจิทัล จากมุมมองด้านการรักษาความปลอดภัย จะต้องได้รับการดูแลเสมือนเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ส่วนกลาง นั่นหมายความว่ามีระบบรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบผ่านระบบวิดีโออย่างต่อเนื่องเพื่อตรวจหาและป้องกันการเข้าถึงระบบโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการตรวจสอบสภาพแวดล้อมเพื่อแจ้งเตือนเรื่องความร้อน ความเย็น และความชื้นที่มากเกินไป
  3. การบริหารจัดการได้จากระยะไกล มีความสำคัญเช่นกัน เนื่องจากในหลายๆ กรณี หรือในกรณีส่วนใหญ่จะไม่มีพนักงานอยู่ประจำที่ไซต์เพื่อคอยตรวจสอบและบริหารจัดการเอดจ์ ดาต้าเซ็นเตอร์ ดังนั้น พนักงานฝ่ายไอทีต้องสามารถตรวจสอบการทำงานของเอดจ์ ดาต้าเซ็นเตอร์ได้จากส่วนกลาง คุณจะได้แต้มต่อ หากโซลูชันของคุณรวมบริการบำรุงรักษาเชิงป้องกันผ่านคลาวด์ เพื่อช่วยคาดการณ์และป้องกันความล้มเหลวก่อนที่จะเกิด

ไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อประยุกต์กับทุกการใช้งาน
Enclosures ของไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ ตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องการติดตั้งใช้งานได้อย่างเรียบง่ายและเร็ว ผู้สนใจสามารถตรวจสอบเพจหรือเว็บไซต์ไมโครดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อพิจารณาทางเลือกและหาโมเดลที่เหมาะกับคุณมากที่สุด สำหรับท่านที่สนใจโซลูชัน APC By Schneider Electric สามารถติดต่อผ่านคู่ค้าของเรา เพื่อประเมินว่าโมเดลไหนที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรคุณ โดยดูจากองค์ประกอบที่จำเป็น หรือเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/366qcTl


ข่าวดาต้าเซ็นเตอร์+ภาคอุตสาหกรรมวันนี้

Digital Edge B.Grimm (TH) เปิดตัวศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ไฮเปอร์สเกล และ AI ในไทย มูลค่าโครงการ 24,520 ล้านบาทในเขต EEC

ดิจิทัล เอดจ์ (สิงคโปร์) โฮลดิ้งส์ จำกัด ("ดิจิทัล เอดจ์") ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดาต้าเซ็นเตอร์ชั้นนำในเอเชียที่ได้รับการสนับสนุนจาก Stonepeak นักลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ("บี.กริม เพาเวอร์") ผู้ผลิตพลังงานรายใหญ่ของไทย เพื่อพัฒนาศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ไฮเปอร์สเกลและรองรับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทั่วไทย ตอบโจทย์ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ความร่วมมือภายใต้ Digital Edge B.Grimm (TH) Holding Pte. Ltd,

ในงาน Computex ที่ผ่านมา Qualcomm ประกาศค... Qualcomm ประกาศความพร้อมก้าวสู่ยุคใหม่ของ AI และดาต้าเซ็นเตอร์ ในงาน Computex 2025 ที่ผ่านมา — ในงาน Computex ที่ผ่านมา Qualcomm ประกาศความร่วมมือกับ Nvid...

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเค... ศุภชัย นำกลุ่มซีพีจับมือ GIP และ True IDC เร่งเครื่องโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลไทยสู่ระดับโลก — นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP...

องค์กรธุรกิจในหลายภาคส่วนกำลังนำ AI มาช่ว... ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ส่ง โมดูลาร์ ดาต้าเซ็นเตอร์ แก้ปัญหาการเติบโตของ AI ที่เอดจ์ — องค์กรธุรกิจในหลายภาคส่วนกำลังนำ AI มาช่วยจัดการกับปัญหาข้อมูลล้นจนเกิน...