YLG เผยทองคำผันผวนระยะสั้น ระยะยาวเทรนด์ยังเป็นขาขึ้น แนะนักลงทุนซื้อสะสมใกล้แนวรับ $1,900 ขายหากไม่ผ่านแนวต้าน $1,950

14 Aug 2020

วายแอลจีเผยราคาทองคำผันผวนในระยะสั้น หลังกองทุน SPDR และนักลงทุนขายทำกำไรบางส่วน แต่ระยะยาวเทรนด์ยังเป็นขาขึ้น แม้จะมีข่าวดีเรื่องไวรัส COVID-19 แต่ตลาดทองคำรับรู้ข่าวนี้ไปแล้ว เชื่อระยะยาวยังแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น ชี้ปัจจัยสนับสนุนทองคำยังอยู่ครบ ทั้งเศรษฐกิจที่ยังติดลบ นโยบายการเงินผ่อนคลายทั่วโลกส่งผลให้ดอกเบี้ยต่ำ ความขัดแย้งจีน-สหรัฐ รวมถึงประเด็นการเลือกตั้งสหรัฐที่ยังต้องจับตา แนะนักลงทุนซื้อสะสมหากทองคำปรับลดลงมาใกล้บริเวณแนวรับ 1,900 ดอลลาร์ หรือ 28,000 บาท แนวรับถัดไป 1,850 ดอลลาร์ หรือ 27,200 บาท และแบ่งขายที่แนวต้าน 1,950 ดอลลาร์ หรือ 28,750 บาท

YLG เผยทองคำผันผวนระยะสั้น ระยะยาวเทรนด์ยังเป็นขาขึ้น แนะนักลงทุนซื้อสะสมใกล้แนวรับ $1,900 ขายหากไม่ผ่านแนวต้าน $1,950

นางสาวฐิภา  นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่า ราคาทองคำทั้งในตลาดโลกและในประเทศที่ปรับตัวลดลงในช่วงนี้ มาจากแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยในวงกว้างทั้งทองคำและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะเดียวกันเริ่มเห็นแรงขายจากกองทุน SPDR ซึ่งเป็น ETF ทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก  เนื่องจากที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากจึงเกิดการเทขายทำกำไรออกมาบางส่วน อย่างไรก็ตามมองว่าความผันผวนของราคาทองคำจะเกิดขึ้นแค่ช่วงสั้นๆเท่านั้น แต่ในระยะยาว 1-2 ปี มองว่าราคาทองคำยังเป็นทิศทางขาขึ้น เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่สนับสนุนราคาทองคำยังไม่เปลี่ยน ทั้งเศรษฐกิจโลกที่ยังติดลบ ส่งผลให้ธนาคารกลางทั่วโลกรวมทั้งเฟดยังคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายและมีผลให้อัตราดอกเบี้ยทรงตัวในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งความขัดแย้งระหว่างจีน-สหรัฐ ก็ยังคงมีอยู่ นอกจากนี้ ประเด็นภายในประเทศสหรัฐเองก็ยังต้องจับตาเช่นประเด็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ยังเป็นความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการจดทะเบียนวัคซีน COVID-19 ของรัสเซียนั้น ถือว่าเป็นข่าวที่ส่งผลลบต่อราคาทองคำ เนื่องจากช่วยเรียกความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ตลาดบ้าง แต่ก็ยังต้องรอดูประสิทธิภาพของวัคซีนในระยะยาว อีกทั้งแม้จะมีวัคซีนแต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็ต้องใช้เวลาไม่สามารถฟื้นตัวได้ภายในไม่กี่วัน ทั้งนี้มองว่าตลาดทองคำรับรู้ข่าวนี้ไปแล้ว และนักลงทุนน่าจะกลับเข้ามาซื้อทองคำหากปัจจัยที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน  แต่การปรับตัวขึ้นน่าจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่หวือหวาเช่นช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ส่วนกองทุน SPDR ถ้าหากนับจากต้นปีจนถึงปัจจุบัน ยังมีระดับการถือครองที่ค่อนข้างสูงอยู่ โดยรวมปีนี้เข้าซื้อทองคำเพิ่มแล้วกว่า 350 ตัน แม้ในช่วงนี้มีการเทขายออกมาบางส่วน แต่ภาพรวมยังมองว่าจะมีการเข้าซื้อต่อ

สำหรับคำแนะนำการลงทุนในระยะสั้น ทะยอยสะสมที่แนวรับ 1,900 – 1,860 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และทยอยขายบางส่วนหากราคาไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,950 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ดีเชื่อว่าราคาจะกลับไปทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ 2,075 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ว่าจะใช้เวลาพอสมควรอาจจะประมาณ 3 สัปดาห์หรือมากกว่า 1 เดือน ที่จะขึ้นไปทดสอบสูงสุดเดิม ส่วนราคาทองคำในประเทศ มองกรอบการเคลื่อนไหวที่แนวต้าน 28,750 บาท ส่วนแนวรับอยู่ที่ 28,000 และแนวรับถัดไปอยู่ที่ 27,200 บาท อย่างไรก็ตามราคาในประเทศจะต้องขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละวัน ส่วนนักลงทุนที่สนใจการลงทุนในตลาด TFEX ทั้งในแบบโกลด์ออนไลน์ฟิวเจอร์ส(Gold Online Futures) ที่เป็นการซื้อขายทองคำล่วงหน้าในรูปแบบดอลลาร์สหรัฐ และโกลด์ฟิวเจอร์ส(Gold Futures) ที่เป็นการซื้อขายด้วยเงินบาท สามารถปรึกษาด้านการลงทุนทองคำกับ YLG ได้ทางโทรศัพท์ 02-687-9888 รวมถึงสามารถติดตามบทวิเคราะห์ อัพเดทข่าวสารที่ส่งผลต่อราคาทองคำ ข่าวโปรโมชั่น สัมมนา และข่าวประชาสัมพันธ์ของ YLG ผ่านทางหลากหลายช่องทาง อาทิ www.ylgprecious.co.th และ https://www.facebook.com/YLGGroup