แสนสิริ ผนึก ธนาคารไทยพาณิชย์ สกัดสึนามิเศรษฐกิจ เดินหน้าช่วยเหลือ SMEs เส้นเลือดใหญ่ไทยให้ไปต่อได้ กับโครงการ "SANSIRI x SCB: BUILD FOR ALL สร้างไปด้วยกัน"
นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานกรรมการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันยังคงมีความเปราะบางเพราะทุกอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 ต่อเนื่องมากว่า 1 ปี ภาคการส่งออก การท่องเที่ยวหยุดชะงัก ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อทั่วโลก ซึ่งภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบแรกก็คือกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เนื่องจากการมีข้อจำกัดด้านเงินทุน การเข้าถึงเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และโอกาสในการแข่งขัน แม้ว่าเอสเอ็มอีหลายแห่งจะปรับตัวหันไปเจาะตลาดอีคอมเมิร์ซและ ลดต้นทุนด้านพนักงานลง แต่ก็ยังมีเอสเอ็มอีอีกหลายแห่งที่ต้องทยอยปิดตัวลงไปอย่างต่อเนื่อง และหากสถานการณ์ไม่คลี่คลายในเร็วๆนี้ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เนื่องจากเอสเอ็มอีเป็นฟันเฟืองที่สำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ โดยข้อมูลจากธนาคารโลกประจำประเทศไทยพบว่าในปี 2563 เอสเอ็มอีของประเทศไทยมีสัดส่วนกว่า 40% ของผลิตภัณฑ์ มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และมีอัตราการจ้างงานคิดเป็น 80% ของการจ้างงานภาคเอกชน จึงถือเป็นอีกเส้นเลือดใหญ่ที่ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงการจ้างงานจำนวนมาก เมื่อเกิดวิกฤติขึ้นจึงต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
จากการตระหนักถึงสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงของเอสเอ็มอีล่าสุด แสนสิริ จึงได้ร่วมกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) ในการผนึกกำลังช่วยเหลือเอสเอ็มอีภายใต้โครงการ"SANSIRI x SCB: BUILD FOR ALL สร้างไปด้วยกัน" เพื่อเป็นต้นแบบสร้างการรับรู้เพื่อกระตุ้นให้องค์กรขนาดใหญ่เข้ามาช่วยเหลือเอสเอ็มอี ให้สามารถฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน จากการร่วมมือกันในครั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายการเข้าช่วยเหลือเอสเอ็มอีในปี 2564 จำนวน 1,500 ราย หรือคิดเป็นวงเงินการช่วยเหลือรวม 7,000 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินอุดหนุนสินค้าจากเอสเอ็มอีจากแสนสิริ 6,000 ล้านบาท และเงินสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจจากธนาคารไทยพาณิชย์ 1,000 ล้านบาท โดยกลุ่มเอสเอ็มอีเป้าหมายที่จะเข้าไปช่วยเหลือในโครงการนำร่องมี 6 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน กลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้าง กลุ่มธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายใน กลุ่มงานบริการด้านที่อยู่อาศัย และ กลุ่มธุรกิจอาหาร
โดยโครงการ "SANSIRI x SCB: BUILD FOR ALL สร้างไปด้วยกัน" เปิดกว้างโอกาสสำหรับ SMEs รายเล็กทุกราย เพื่อขับเคลื่อนช่วยเหลือ SMEs ไทยในทุกมิติ ประกอบด้วย SMEs รายเล็กทั่วไป ลูกบ้านแสนสิริที่ประกอบธุรกิจ และคู่ค้ากลุ่มผู้ประกอบการของแสนสิริ ภายใต้ 5 กลยุทธ์ ดังนี้ 1. สร้างรายได้ให้เพิ่ม (Buy) ด้วยการเข้าซื้อสินค้าจากเอสเอ็มอีที่มีขนาดเล็ก 2. สร้างช่องทางการเข้าถึงลูกค้า (Reach) เช่น การเพิ่มช่องทางการโปรโมทธุรกิจ สินค้า และบริการของเอสเอ็มอีด้วยช่องทางสื่อออนไลน์ของแสนสิริและธนาคารไทยพาณิชย์ รวมถึงโปรโมทผ่านแสนสิริแฟมิลี่ที่มีอยู่ในการดูแลกว่า 100,000 ครอบครัว 3. สร้างตลาดใหม่บนโลกออนไลน์ (Transformation) ด้วยการขยายตลาดของเอสเอ็มอีไทยสู่แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำ เช่น NocNoc.com ตลาดออนไลน์วัสดุก่อสร้างและของแต่งบ้านครบวงจร, Robinhood แอปพลิเคชั่น Food Delivery เพื่อผู้ประกอบการรายเล็กและ WeChef แพลตฟอร์มออนไลน์ที่รวบรวม Food Truck ของไทย 4. สร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ (Enhance) โดยธนาคารไทยพาณิชย์จะนำ Tech Efficiency Program เข้ามาช่วยด้านการลดต้นทุนให้กับเอสเอ็มอีอย่างมีประสิทธิภาพ และ 5. สร้างสภาพคล่อง (Financial Flexibilities) โดยธนาคารไทยพาณิชย์จะให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อธุรกิจที่ให้กับเอสเอ็มอีด้วยวงเงินรวมทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท
"กลยุทธ์ทั้ง 5 ข้อนี้ ทางแสนสิริได้ดำเนินการช่วยเหลือตามข้อ 1-3 ไปแล้วตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยเริ่มจากคู่ค้ารายย่อยของแสนสิริที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ ส่งผลให้ตลอดปี 2563 แสนสิริได้ให้การช่วยเหลือเอสเอ็มอีไปแล้วกว่า 900 ราย รวมเป็นวงเงินในการช่วยเหลือกว่า 4,000 ล้านบาท สำหรับปีนี้มั่นใจว่าโครงการให้การช่วยเหลือเอสเอ็มอีจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นและยั่งยืนขึ้น เพราะมีธนาคารไทยพาณิชย์เข้ามาร่วมผนึกกำลังและสานต่อการช่วยเหลือในข้อ 4 และข้อ 5 ในด้านการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินที่เหมาะสม เช่น การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ด้วยเงื่อนไขการผ่อนชำระที่ผ่อนปรนและยืดหยุ่น ซึ่งจะช่วยให้เอสเอ็มอีรอดพ้นจากวิกฤติได้ เร็วขึ้น" นายอภิชาติ กล่าว
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) กล่าวว่า "ธนาคารไทยพาณิชย์ตระหนักถึงความสำคัญของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ จึงพร้อมที่จะสนับสนุนและยืนหยัด อยู่เคียงข้างเอสเอ็มอีในทุกวิกฤติ ตลอดเวลาหนึ่งปีของสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ธนาคารได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าเอสเอ็มอีอย่างต่อเนื่อง ทั้งการให้ความช่วยเหลือทางการเงินในรูปแบบต่างๆ การช่วยหาช่องทางการขายเพื่อสร้างรายได้ใหม่ รวมถึงการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการ
ปรับตัวเพื่อรับมือภาวะผันผวนของเศรษฐกิจ ซึ่งในช่วงแรกได้ให้ความช่วยเหลือรวมแล้วกว่า 402,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ความช่วยเหลือจากธนาคารอย่างเดียวคงไม่เพียงพอที่จะช่วยให้เอสเอ็มอีทั้งระบบก้าวพ้นวิกฤตินี้ไปได้ จึงเล็งเห็นโอกาสที่จะผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจซึ่งเป็นผู้เล่นรายใหญ่ของประเทศ เพื่อร่วมกันช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในวงกว้างขึ้น
ดังนั้น การร่วมมือกับแสนสิริในโครงการ "SANSIRI x SCB: BUILD FOR ALL สร้างไปด้วยกัน" จึงเป็นการสานต่อปณิธานของธนาคารในการเข้าช่วยเหลือธุรกิจทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบ ด้วยการผนึกศักยภาพที่แตกต่างกันของทั้งสององค์กรเพื่อส่งต่อความช่วยเหลือและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจที่อยู่อาศัย นับเป็นโครงการต้นแบบบนแนวคิดเศรษฐกิจเกื้อกูลพึ่งพากันแบบเพื่อนช่วยเพื่อน พี่ช่วยน้อง ให้ร่วมมือกันฝ่าวิกฤติได้อย่างน่าชื่นชม ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่แน่นแฟ้น ธนาคารยินดีที่จะให้ความร่วมมือใน 3 ส่วนหลัก ได้แก่ 1) สนับสนุนวงเงินสินเชื่อธุรกิจรวม 1,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจแก่ SMEs ไทยที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 1.99%* เป็นระยะเวลา 3 เดือนแรก ให้กับกลุ่มลูกบ้าน แสนสิริที่ประกอบธุรกิจ รวมถึงคู่ค้ากลุ่มผู้ประกอบการในเครือข่ายแสนสิริ ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ได้อย่างราบรื่น 2) มอบองค์ความรู้เพื่อเสริมศักยภาพทางด้านดิจิทัลและลดต้นทุนแก่กลุ่มผู้ประกอบการซัพพลายเชนของแสนสิริ ผ่านการจัดอบรมสัมมนา และ Business Matching เพื่อเปิดโอกาสพบคู่ค้ารายใหม่ของธนาคาร และ 3) สนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารให้เข้าสู่แอปพลิเคชันโรบินฮู้ด (Robinhood) แพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ที่ไม่เก็บค่าธรรมเนียมการใช้แพลตฟอร์ม (จีพี) ช่วยเพิ่มช่องทางขายการนอกเหนือจากหน้าร้าน ทั้งนี้ รวมถึงผู้ประกอบการรายย่อยซึ่งเป็นลูกบ้านของแสนสิริอีกกว่า 1,000 ครอบครัว
ธนาคารไทยพาณิชย์อยากให้โครงการร่วมมือในครั้งนี้เป็นโครงการต้นแบบให้องค์กรขนาดใหญ่จับมือกันในการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็กให้ประคองธุรกิจผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน เพื่อความยั่งยืนของเศรษฐกิจไทยในอนาคต และธนาคารจะเดินหน้าเฟ้นหารูปแบบความช่วยเหลือเพิ่มเติม และขยายเครือข่ายเศรษฐกิจเกื้อกูลไปสู่องค์กรธุรกิจชั้นนำอื่นๆ เพื่อสร้างโอกาสท่ามกลางวิกฤตให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และช่วยให้ประเทศไทยผ่านบททดสอบ ครั้งสำคัญนี้ไปได้อย่างมั่นคง"
สำหรับเอสเอ็มอีหรือผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยทั่วไป ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ "SANSIRI x SCB: BUILD FOR ALL สร้างไปด้วยกัน" ทั้งผู้ประกอบธุรกิจรายย่อยทั่วไป ลูกบ้านแสนสิริ และคู่ค้ากลุ่มผู้ประกอบการของแสนสิริ สามารถสมัครและติดตามรายละเอียดการสมัคร ได้ทางเว็บไซต์ www.sansiri.com/thai/แสนสิริเพื่อเอสเอ็มอี ตั้งแต่ 11 มีนาคม- 30 เมษายน 2564
ติดตาม VDO เรื่องราวการช่วยเหลือ SMEs ที่ผ่านมาของแสนสิริได้ที่ https://youtu.be/oLhpN_Y4dzE
*หมายเหตุ: ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 1.99% ใน 3 เดือนแรก สำหรับกลุ่มลูกบ้านแสนสิริที่ประกอบธุรกิจและคู่ค้ากลุ่มผู้ประกอบการ ที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาตามหลักการของธนาคารไทยพาณิชย์
"แสนสิริ" ผนึก "ไทยเวย์ พร็อพเพอร์ตี้" Global Launch รุกตลาดต่างชาติเต็มสูบ เปิดขาย 2 คอนโดใหม่ 'WIDEN และ XELF' ตั้งเป้า 2.4 พันล้าน
แสนสิริ ผู้บุกเบิกและยืนหยัดเพื่อความเท่าเทียมในสังคม คว้ารางวัล Best Social Movement of the Year
แสนสิริ โชว์เคส ผู้นำไอที นำโปรเจ็กต์ Digital Innovation คว้ารางวัลระดับภูมิภาค "Enterprise Transformation Leader" บริษัทไทยรายแรก และรายเดียวที่ได้รับรางวัล
แสนสิริ จับมือ Whoscall "รู้ทันมิจ ชีวิตปลอดภัย" มอบโค้ดป้องกันภัยไซเบอร์ มูลค่ากว่า 7 ลบ. ให้ลูกบ้านและชุมชน พร้อมสร้าง "คอมมูนิตี้ปลอดภัย" อย่างแท้จริง
แสนสิริ เตรียมออกหุ้นกู้ชุดใหม่ รุกแผนธุรกิจครึ่งหลังปี 68 ชูดอกเบี้ยระหว่าง [3.60 - 3.90]% ต่อปี คาดเสนอขาย 2 - 3 และ 6 ตุลานี้
แสนสิริปลุกดีมานด์บ้านตัวอย่างแต่งครบ ยอดขายทะลุ 1,000 ล้านบาท เดินหน้าเสิร์ฟยูนิตสวยราคาดีต่อเนื่อง
LIV-24 จับมือ กนอ. ขับเคลื่อนนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ หนุน SMEs แข่งขันได้ยั่งยืน
แสนสิริ-กสิกรไทย ต่อยอดพันธมิตร 40 ปี ส่งกรีนโลน ดอกเบี้ยบ้านต่ำพิเศษ 1.75%*
"แสนสิริ" และ "มิตซุย ฟุโดซัง เอเชีย ดีเวลลอปเมนท์ (ไทยแลนด์)" ประกาศความสำเร็จ ร่วมทุนพัฒนาโครงการแรก กับ "นาราสิริ บางนา กม.10"