นับวันโลกมีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ซึ่งส่งผลกระทบที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนองค์การสหประชาชาติ (WHO) ถือเป็นภาวะเร่งด่วนที่กำหนดให้เป็น 1 ใน 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งการคืนความเขียวให้กับโลก คือ กุญแจสำคัญของการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว และจะทำให้โลกสามารถบรรลุ "Net Zero Emission" หรือ เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ต่อไป
มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะผู้นำภาคีเครือข่ายสถาบันอุดมศึกษาไทยสู่การเป็นมหาวิทยาลัยสีเขียวโลก ได้ตั้งเป้าหมาย Net Zero Emission ไว้ว่าจะบรรลุให้ได้ภายในปี 2030 โดย รองศาสตราจารย์ ดร.กิติกร จามรดุสิต รองอธิการบดีฝ่ายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า 3 ปีที่ผ่านมามหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีการขับเคลื่อนในเชิงรุกริเริ่มโครงการปลูกต้นไม้เพื่อดูดกลับก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่องและจริงจังจนสามารถดูดกลับก๊าซเรือนกระจกในเบื้องต้นได้ประมาณร้อยละ 26
จากนั้นมหาวิทยาลัยมหิดลได้มีการขยายผลเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายใยมหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ทำสวนแนวตั้ง (Vertical Garden) นำร่อง ณ บริเวณตรงข้ามแปลงผักปลอดสารพิษ และอาคารสิริวิทยา ซึ่งการปลูกต้นไม้ในแนวตั้งจะทำให้ได้พื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นจากการปลูกต้นไม้ในแนวราบ
นอกจากนั้น ณ บริเวณสนามหญ้าหน้าหอสมุดและคลังความรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จะได้รับการปรับปรุงพื้นที่ให้เป็น Eco Park ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ชาวมหาวิทยาลัยมหิดลได้ร่วมด้วยช่วยกันปลูกต้นไม้เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกของทุกปี เพื่อสร้างเป็นสวนสาธารณะอันร่มรื่น
ซึ่งจุดเด่นของ Eco Park นี้จะเป็นการสร้างพื้นที่สีเขียวที่ยั่งยืนจากต้นไม้ที่ปลูกขึ้นด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ใช่จากการขุดล้อมต้นไม้ใหญ่มาปลูก โดยคาดว่าทั้ง Vertical Garden และ Eco Park จะสามารถช่วยดูดกลับก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณร้อยละ 33
และในอนาคตจะเสริมด้วยการผลิตพลังงานสะอาดจากแสวอาทิตย์ โดยจะริเริ่มโครงการหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell Rooftop) ให้กับทุกส่วนงานในพื้นที่ศาลายา และจะให้มีการวางแผงเซลล์พล้งงานแสงอาทิตย์บนผิวน้ำ (Solar Cell Floating) ณ บริเวณลานเป็ด และแหล่งนันทนาการทางน้ำ โดยจะให้ภาคเอกชนได้เข้ามาร่วมลงทุน ซึ่งจะทำให้มหาวิทยาลัยมหิดลจ่ายค่าไฟได้ถูกลง และคาดว่าจะทำให้สามารถดูดกลับก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นได้อีกถึงร้อยละ 65
"หากมหาวิทยาลัยมหิดลสามารถบรรลุเป้าหมาย Net Zero Emission ได้ภายในปี 2030 นอกจากจะสามาถเป็นต้นแบบให้กับมหาวิทยาลัยอื่นๆ แล้ว ยังเป็นการช่วยลดก๊าซเรือนกระจกให้แก่โลกของเราต่อไปอีกด้วย" รองศาสตราจารย์ ดร.กิติกร จามรดุสิต รองอธิการบดีฝ่ายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามข่าวที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่ www.mahidol.ac.th
มหาวิทยาลัยพะเยา ได้อันดับที่ 9 ของไทย จาก 50 มหาวิทยาลัยในประเทศไทย และเป็นอันดับที่ 106 ของโลก จากมหาวิทยาลัย 1,477 แห่ง ทั่วโลก โดยได้คะแนน 8,450 คะแนน เพิ่มขึ้น 250 คะแนน จากปีที่ผ่านมาที่ 8,200 คะแนน การจัดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวโลก UI Green Metric World University Ranking เป็นการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยพิจารณาจาก 6 ด้านสำคัญ ผลการจัดอันดับ UI Green Metric World University Ranking 2024 มหาวิทยาลัยพะเยา ได้รับคะแนนแบ่งตามเกณฑ์ตัวชี้วัด ทั้ง 6 ด้าน
ชวน Gen Z ร่วมภารกิจ "Green University" ทิ้งขยะ e-Waste ให้ถูกที่ ดีต่อใจ ได้แล้วที่ 9 มหาวิทยาลัยในโครงการทรู แล็บ
—
การพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นเรื่องที่ทุก...
มรภ.สงขลา เผยผลประเมินจัดลำดับมหาวิทยาลัยสีเขียวโลก ครองอันดับ 2 กลุ่มราชภัฏภาคใต้
—
มรภ.สงขลา สุดปลื้ม ผลประเมินจัดลำดับมหาวิทยาลัยสีเขียวโลก คว้าอันดับ ...
ม.มหิดล มหาวิทยาลัยสีเขียว อันดับ 1 ของประเทศไทย 5 ปีซ้อน
—
จากผลสำรวจมหาวิทยาลัยสีเขียวโลก ปี พ.ศ.2563 (UI Green Metric World University Ranking 2020) ที...
ม.มหิดล เป็นเจ้าภาพจัดสัมมนาเครือข่ายมหาวิทยาลัยยั่งยืน เตรียมพร้อมมหาวิทยาลัยไทยสู่มหาวิทยาลัยสีเขียวโลก
—
มหาวิทยาลัยมหิดลก้าวสู่อันดับ 1 ของประเทศไทย ใ...
มจพ. ติดอันดับมหาวิทยาลัยสีเขียวโลก UI Green Metric World University Ranking 2017
—
ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล...
ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ติดอันดับ มหาวิทยาลัยสีเขียวโลก 2017
—
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ติดอันดับ มหาวิทยาลัยสีเขียว ประจำปี 2017 โดยในปีนี้ ขยับขึ้...
"ดร.ทวารัฐ" ชี้การพัฒนาเมืองยุคใหม่ต้องเป็น "เมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืน"
—
"ดร.ทวารัฐ" ชี้การพัฒนาเมืองยุคใหม่ ต้องเป็นแบบ "เมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืน" ยกกรณีศึ...