นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการติดตามโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่แมลงเศรษฐกิจของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงบ้านไสใหญ่ หมู่ที่ 7 ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ซึ่งประสบผลสำเร็จอย่างมาก สามารถสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มเกษตรกร และเกิดการต่อยอดและแปรรูปผลผลิตอย่างหลากหลาย โดยกลุ่มมีการดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 ปัจจุบันมีสมาชิกเกษตรกร 45 ราย และจากการสอบถามกลุ่มเกษตรกร พบว่า เกษตรกรมีการเลี้ยงผึ้งโพรงรวม 1,530 รัง หรือเฉลี่ยรายละ 34 รัง ในบริเวณพื้นที่สวนปลูกปาล์มน้ำมัน สวนยางพารา
ด้านการลงทุนนั้น เกษตรกรจะทำการลงทุนเพียงครั้งเดียวในปีแรกเฉลี่ย 1,724 บาท/รัง ซึ่งในระยะเวลา 1 ปี สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ปีละ 1 - 2 ครั้ง ให้ผลผลิตน้ำผึ้งเฉลี่ย 5 ขวด/รัง/ปี (ปริมาณน้ำผึ้ง 1 ขวด =750 มิลลิลิตร) โดยเกษตรกรสามารถจำหน่ายในราคาเฉลี่ยขวดละ 464 บาท ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ต่อครัวเรือน 78,880 บาท/ปี คิดเป็นมูลค่าทั้งกลุ่ม 3,549,600 บาท/ปี สำหรับผลผลิตที่เกษตรกรขายนอกจากจะเป็นน้ำผึ้งแล้ว ยังมีการแปรรูปและการจัดจำหน่ายภายใต้ชื่อแบรนด์ฅนผึ้งป่าอีกด้วย เช่น สบู่น้ำผึ้งขมิ้น แชมพูน้ำผึ้งอัญชัน ยาหม่อง เป็นต้น ส่วนใหญ่จัดจำหน่ายผ่านรูปแบบออนไลน์เพื่อขยายช่องทางการตลาดและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคแบบวิถีใหม่ยุค New Normal
"ผลสำเร็จของกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงบ้านไสใหญ่ นับเป็นการรวมกลุ่มของวิสาหกิจชุมชนแบบแปลงใหญ่ ที่มีการร่วมกันผลิต ร่วมกันการแปรรูป และร่วมกันจำหน่าย ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งเกษตรกรยังได้มีการพบปะแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ภายในกลุ่ม และมีการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งนโยบายการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ นับเป็นนโยบายที่เป็นเกราะคุ้มกัน สอดคล้องกับนโยบายตลาดนำการผลิต สามารถสร้างรายได้ให้เกษตกรอย่างมั่นคง สำหรับท่านที่สนใจสินค้าของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงบ้านไสใหญ่ สามารถเลือกชมสินค้าได้ทาง Facebook บ้านไสใหญ่ ชุมชน : คนผึ้งป่า หรือสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 081 538 8653" รองเลขาธิการ สศก. กล่าว
นอกจากนี้ สศก. ยังมีการติดตามการดำเนินงานแปลงใหญ่ในพื้นที่ภาคใต้ เพิ่มเติม คือ นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี โดยติดตามดำเนินการแปลงใหญ่ 6 สินค้า ประกอบด้วย ปาล์มน้ำมัน ยางพารา ทุเรียน มังคุด ปลานิล และแมลงเศรษฐกิจ ซึ่งภาพรวมการดำเนินโครงการฯ เกษตรกรมีความพึงพอใจต่อโครงการอยู่ในระดับมาก เพราะมีสมาชิกสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการพัฒนาคุณภาพสินค้าอย่างสม่ำเสมอ และนำไปปรับใช้เพื่อสร้างรายได้แก่สมาชิกกลุ่มอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะภายใต้ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ยังมีการแพร่ระบาดต่อเนื่อง จึงนับเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่เกษตรกร
ทั้งนี้ โครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ นับเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการดำเนินการต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2559 เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกรมีการรวมกลุ่มและบริหารจัดการร่วมกันได้ในด้านการผลิตและการตลาด และให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิต มีผลต่อหน่วยเพิ่มขึ้น ผลผลิตมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ภายใต้การบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีแปลงใหญ่จำนวน 11 กลุ่ม รวม 91 สินค้า 77 จังหวัดทั่วประเทศ
สศท.2 เกาะติดสถานการณ์ถั่วเหลือง ปี 2568/69 พื้นที่ 6 จังหวัด ภาคเหนือ แนะเกษตรกรดูแลรักษาแปลง เฝ้าระวังโรคและแมลงศัตรูพืชอย่างใกล้ชิด
ต้นแบบแปลงใหญ่ 'ตะไคร้บ้านวงฆ้อง' จ.กำแพงเพชร รวมกลุ่มผลิตมาตรฐาน GAP สร้างรายได้ หนุนเศรษฐกิจชุมชน
เลขาธิการ สศก. เตรียมนำทีม ลุย Crop Cutting ภาคสนามเพชรบูรณ์ 27 ตุลาคมนี้ ลงพื้นที่แปลงข้าวโพดเกษตรกร ยกระดับข้อมูลแม่นยำพืชเศรษฐกิจของประเทศ
ของดีเมืองสงขลา 'ส้มโอหอมควนลัง' GI เกษตรกรรวมกลุ่มผลิตส้มโอคุณภาพ ออกตลาด ต.ค. - พ.ย. นี้
'แปลงใหญ่ทั่วไป (ข้าว)' จ.สุพรรณบุรี ผลิตข้าว GAP คุณภาพ แหล่งให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตรในพื้นที่ สร้างรายได้ให้กลุ่ม 810,000 บาท/ปี
สศท.12 ชวนศึกษาวิถี เกษตรอินทรีย์ 'บ้านสวนน้อยชมจันทร์' จ.เพชรบูรณ์ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแบบยั่งยืน
สศท.5 หนุน 'ผำ' อาหารแห่งอนาคต สู่โปรตีนทางเลือกยุคใหม่ ตามนโยบายเกษตรมูลค่าสูง
โครงการปรับปรุงคลองส่งน้ำ ท่ามะกา ระยะ 5 ช่วยเกษตรกร 40 ครัวเรือน ผลผลิตและรายได้เพิ่ม
ปีนี้ ไม้ผลภาคใต้ 4 ชนิด ผลผลิตรวม 6.7 แสนตัน สศท.8 ชวนบริโภค 'ลองกอง' ในฤดู ก.ย. - ต.ค. นี้ ออกตลาด ร้อยละ 42