คีลส์จัดกิจกรรม "Future Made Better Day 2020" สานต่อปณิธานสร้างสังคมน่าอยู่เพื่ออนาคตที่ดีกว่าเดิม

17 Dec 2020

คีลส์ (Kiehl's) แบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณและเส้นผมคุณภาพเยี่ยมจากนิวยอร์ค จัดงาน "Future Made Better Day" ทำกิจกรรมเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยร่วมกับพนักงานแบรนด์คีลส์ทั้งในส่วนสำนักงานและพนักงานประจำหน้าร้าน ทำกิจกรรมจิตอาสาร่วมเก็บขยะในแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมแยกขยะที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ เพื่อป้องกันขยะพลาสติกไหลลงสู่ทะเล ซึ่งจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศน์ทางทะเล นอกจากกิจกรรมเก็บขยะในแม่น้ำแล้ว ทีมงานได้ทำการแยกขยะพลาสติกออกจากขยะประเภทอื่น ซึ่งปริมาณขยะพลาสติกที่เก็บได้รวม 110 กิโลกรัม

คีลส์จัดกิจกรรม "Future Made Better Day 2020" สานต่อปณิธานสร้างสังคมน่าอยู่เพื่ออนาคตที่ดีกว่าเดิม

กิจกรรม "Future Made Better Day" นี้ สานต่อแคมเปญ Future Made Better ที่คีลส์มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1851 เพราะคีลส์มุ่งมั่นที่จะทำให้สิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม ภายใต้ปณิธานของแบรนด์ 6 ประการ ไม่ว่าจะเป็นการสรรหาส่วนผสมจากธรรมชาติที่ได้มาอย่างยั่งยืน การให้และแบ่งปันเพื่อช่วยเหลือสังคม การผลิตและออกแบบบรรจุภัณฑ์ รวมถึงการสร้างร้านที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และคีลส์ยังมีความมุ่งมั่นในการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ต่อไปอีก 11 ล้านชิ้นภายในปี 2025
ตลอดเวลาที่ผ่านมา คีลส์ ประเทศไทย ได้ทำกิจกรรมเพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม โดยตั้งแต่ปี 2011 จนถึงปัจจุบัน คีลส์ได้สนับสนุนมูลนิธิมากกว่า 10 แห่ง ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิเพื่อเด็ก และมูลนิธิเพื่อสิ่งแวดล้อม

คุณเจนนี่ ชาน ผู้จัดการทั่วไปแบรนด์คีลส์ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า "ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่คีลส์จัดกิจกรรมเก็บขยะในแม่น้ำที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ ซึ่งกิจกรรมนับว่าสอดคล้องกับ 1 ใน 6 ปณิธานของคีลส์ คือ การให้และแบ่งปันเพื่อช่วยเหลือสังคม หรือ "Kiehl's Gives" ซึ่งขยะที่มารวมกันที่บริเวณนี้ เป็นขยะที่ลอยมาจากคลองต่าง ๆ สู่แม่น้ำเจ้าพระยา ด้วยสาเหตุมาจากคนทิ้งขยะไม่เป็นที่ และถ้าเราไม่ช่วยกันวันนี้ ขยะเหล่านี้จะไหลลงทะเลและทำให้ปัญหามลภาวะร้ายแรงยิ่งกว่าเดิม และเป็นอันตรายต่อสัตว์ต่าง ๆ ในทะเล"

คุณทรงสมร ฮัทเท็ท ผู้จัดการทั่วไป แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง ลอรีอัล ประเทศไทย กล่าวว่า "Future Made Better เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อชีวิตทุกคน ยกตัวอย่างเช่น เรื่องพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว ซึ่งจากการใช้งานสั้น ๆ กลับต้องใช้เวลานานมากในการย่อยสลาย และสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ที่รวมถึงภาวะโลกร้อนและเป็นอันตรายต่ออนาคตของมนุษย์เป็นอย่างมาก เราต้องร่วมกันรักษาและปกป้องธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้โลกของเราที่มีเพียงใบเดียวนี้ สามารถคงอยู่จนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานของเราต่อไป"

คุณอรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและองค์กรสัมพันธ์ ลอรีอัล ประเทศไทย กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิสัยทัศน์เพื่อความยั่งยืนปี 2030 ของ ลอรีอัล กรุ๊ป ที่ชื่อว่า 'L'OREAL FOR THE FUTURE' ว่า "ลอรีอัลได้ยกระดับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนด้วยการตั้งเป้าที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ที่ทุกภาคส่วนของบริษัทต้องปฏิรูปการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย รวมทั้งร่วมแก้ไขปัญหาด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมโลกไปด้วยกัน โดยลอรีอัลจะปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินธุรกิจทั้งหมดให้อยู่ภายใต้ขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก เพื่อรับมือปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และพร้อมยกระดับแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ ได้แก่ การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน และการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน ซึ่งเป้าหมายสำคัญที่ลอรีอัลได้กำหนดไว้ อาทิ ภายในปี 2025 โรงงานและศูนย์กระจายสินค้าของลอรีอัลทุกแห่ง ต้องปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสุทธิเป็นศูนย์ และภายในปี 2030 พลาสติกใช้ในบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ลอรีอัลทั้งหมด 100% จะมาจากพลาสติกรีไซเคิล หรือ จากแหล่งชีวภาพ นอกจากนั้นยังตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของแต่ละผลิตภัณฑ์ลง 50% ทั้งนี้ คีลส์ ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือของ ลอรีอัล กรุ๊ป ก็จะมีส่วนร่วมการดำเนินงานเพื่อให้บริษัทฯ บรรลุเป้าหมายภาพรวมต่อไป"

นอกจากนี้ คีลส์ ยังได้ร่วมกับควอลี่ ดีไซน์ (Qualy Design) แบรนด์ผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้านที่ออกแบบดีไซน์และใช้วัสดุพลาสติกที่เน้นเรื่องความยั่งยืน ในการนำบรรจุภัณฑ์เปล่าของคีลส์ที่ลูกค้านำมาส่งทางหน้าร้านคีลส์ทุกสาขา ส่งต่อให้ควอลี่ นำไป upcycle เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่จะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม ตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนต่อไป โดยลูกค้าคีลส์สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับ "Future Made Better Day" ได้โดยรวบรวมบรรุภัณฑ์ของคีลส์ที่ใช้หมดแล้ว ทำความสะอาดแล้วนำมาส่งที่ร้านคีลส์ทุกสาขา โดยลูกค้าจะได้รับคะแนนพิเศษเพิ่มเติมเพื่อแทนคำขอบคุณ

เกี่ยวกับ Kiehl's
คีลส์ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ.1851 เดิมทีเป็นร้านขายยาในย่านอีสต์วิลเลจของกรุงนิวยอร์ค จำหน่ายยาตามใบสั่งแพทย์ และมีความเชี่ยวชาญพิเศษในการปรุงยารักษาโรคจากสมุนไพรและวัตถุดิบธรรมชาติตามความต้องการของลูกค้า ช่วงต้นคริสต์ทศวรรษ 1900 ลูกค้าเริ่มถามหาทรีตเม้นต์บำรุงผิวทรงประสิทธิภาพที่ไม่สามารถหาได้ในเมืองนี้ โดยอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมานาน ครอบครัวผู้ก่อตั้งคีลส์จึงเริ่มสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเส้นผมเฉพาะบุคคลให้กับคนในชุมชน โดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ทรงประสิทธิภาพและความเข้มข้นสูงผสมกับสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม สูตรผสมซึ่งปรุงขึ้นด้วยมือตามความต้องการของลูกค้าเหล่านี้มีจำหน่ายที่ร้าน Kiehl's Pharmacy เรื่อยมาจนถึงคริสต์ทศวรรษ 1980 ปัจจุบัน

นอกจากเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณและเส้นผมคุณภาพเยี่ยมจากนิวยอร์คที่ได้รับความนิยมจนกลายเป็นตำนานแล้ว การให้และแบ่งปันยังเป็นรากฐานแห่ง "ภารกิจ" ของคีลส์ แสดงถึงเจตนารมณ์ของครอบครัวผู้ก่อตั้ง ปณิธานของคีลส์ที่เรามุ่งมั่นช่วยพัฒนาสังคมให้ดีขึ้นใน 2 ด้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่คีลส์ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง นั่นคือ เด็กและสิ่งแวดล้อม คีลส์สนับสนุนกิจกรรมชุมชนผ่านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ซึ่งอุทิศให้การกุศล ตลอดทศวรรษที่ 80 และ 90 เป้าหมายของคีลส์ คือต้องการให้ทุกคนในสังคมเชื่อว่าไม่ว่าคุณจะเป็นใคร คุณก็สามารถมีส่วนเปลี่ยนแปลงสังคมที่คุณอยู่ให้ดีขึ้นได้ จากจุดเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ถ้าร่วมกันหลายคน ก็ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit