N Health พัฒนาการตรวจหาการกลายพันธุ์และระบุสายพันธุ์ที่น่ากังวลของเชื้อโควิด-19 เพื่อช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถติดตามควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ พร้อมให้บริการแก่โรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ
นายรชตวรรธ บุญมาเลิศ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ห้องปฏิบัติการไบโอโมเลกุลลาร์ บริษัท เนชั่นแนล เฮลท์แคร์ ซิสเท็มส์ (N Health) เผยว่า ปัจจุบันมีการตรวจพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ต่างๆในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก อาทิ อัลฟา เบตา แกมมา และเดลตา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าเป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล (Variant of Concern; VOCs) จำนวน 4 สายพันธุ์ เนื่องจากมีความเสี่ยงที่จะเป็นภัยคุกคามด้านสาธารณสุข ด้วยการแพร่กระจายเชื้อทำให้ติดต่อง่าย มีอาการรุนแรงขึ้น และเชื้อต้านทานวัคซีนทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดลง โดยพบว่าการระบาดของสายพันธุ์เดลตาเป็นภัยคุกคามต่อสาธารณสุข เพราะเดลตามีอัตราการแพร่เชื้อสูงกว่าอัลฟา 60% โดยที่สายพันธุ์อัลฟามีอัตราการแพร่เชื้อสูงกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมราว 50%
ทั้งนี้ห้องปฏิบัติการไบโอโมเลกุลาร์ของ N Health ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการชีววิทยาระดับโมเลกุลเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย ได้พัฒนาการตรวจหาการกลายพันธุ์และระบุสายพันธุ์ที่น่ากังวลของเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีหาลำดับสารพันธุกรรม (DNA Sequencing) ในส่วนของโปรตีนหนาม (Spike genes) โดยเมื่อได้ลำดับของดีเอ็นเอแล้ว สามารถนำข้อมูลที่ได้ไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลกลางโควิดโลก (GISAID) ก่อนที่จะรายงานผลสายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 ได้ ซึ่งวิธีการดังกล่าวจะช่วยให้แยกแยะตำแหน่งการกลายพันธุ์และสามารถบ่งชี้เชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ได้หลากหลายสายพันธุ์ รวมถึงสายพันธุ์ที่น่ากังวลที่อาจพบใหม่ในอนาคต
สำหรับการตรวจหาการกลายพันธุ์และระบุสายพันธุ์ที่น่ากังวลของเชื้อโควิด-19 ได้มีการให้บริการกับโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ เพื่อที่จะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์และโรงพยาบาลสามารถติดตามควบคุมรวมไปถึงเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์ในชุมชน และยังช่วยให้ทราบถึงประสิทธิภาพของวัคซีนแต่ละชนิดในการป้องกันสายพันธ์ต่างๆ
อย่างไรก็ตาม แนวทางในการป้องกันเชื้อโควิด-19 ที่ดีที่สุดคือการ ฉีดวัคซีน แม้จะไม่ครอบคุลมการป้องกันในทุกสายพันธุ์ก็ตาม แต่เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ รวมไปถึงยังคงต้องปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย พกเจลล้างมือตลอดเวลา เว้นระยะห่างทางสังคม หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มโดยไม่จำเป็น เพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการป้องกันโรคได้ดีที่สุด
เกี่ยวกับ N Health
N Health ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2544 ปัจจุบัน N Health ประกอบด้วย บริษัท เนชั่นแนล เฮล์ทแคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด บริษัท ไบโอ โมเลกุลลาร์ แลบบอราทอรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เอ็น เฮลท์ พยาธิวิทยา จำกัด
N Health เป็นผู้เชี่ยวชาญในการบริการด้านการสนับสนุนบริการทางการแพทย์และธุรกิจโรงพยาบาล ในด้านต่าง ๆ ดังนี้ บริการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ บริการด้านวิศวกรรมทางการแพทย์ บริการงานปราศเชื้อแบบครบวงจร บริการบริหารและบริการผ้าแบบครบวงจร บริการบริหารศูนย์ไตเทียม บริการบริหารจัดการการแพทย์ทางไกล ตัวแทนจัดจำหน่าย อุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ บริการการจัดซื้อจัดหาที่ครบวงจร บริการบริหารคลังยาและเวชภัณฑ์ บริการโลจิสติกส์ในธุรกิจสุขภาพ
บริษัทฯ ครอบคลุมการให้บริการด้วยสาขากว่า 50 สาขาในประเทศไทย และต่างประเทศ เช่น กัมพูชา พม่า และสิงคโปร์ ด้วยเทคโนโลยีและระบบการทำงานแบบมาตรฐานสากล
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ N Health ได้ที่ http://www.nhealth-asia.com
รณรงค์วันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ แพทย์เตือน 'ไข้กาฬหลังแอ่น' หนึ่งในสาเหตุของการติดเชื้อในสมองและกระแสเลือด เสี่ยงเสียชีวิตได้ภายใน 24 ชั่วโมง
กรมอนามัยร่วมการอภิปรายในกิจกรรมคู่ขนาน "Time to act on sugars: advancing health equity and tackling noncommunicable diseases (NCDs) with a focus on oral diseases" ในห้วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 80
กินไม่เค็มก็เสี่ยงโรคไต! แพทย์ รพ.วิมุต เตือนคนไทยลดอาหารแปรรูป-เบเกอรี่-ชานมไข่มุก แหล่งโซเดียมที่ทำไตพังไม่รู้ตัว
สธ. ดันโครงการ "เด็กฉลาดสร้างได้ตั้งแต่แรกเกิด" ชี้ธาตุเหล็กช่วยพัฒนาสมองลูกน้อย เสริมพัฒนาการให้สมวัย
โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน "ฆาตกรเงียบ" ที่คร่าชีวิตโดยไม่มีสัญญาณเตือน รู้ทันก่อนสายเกินไป
ผงปรุงรสจากพืชพื้นบ้าน: นวัตกรรมทางเลือกเพื่อสุขภาพและความยั่งยืนของชุมชน
กปภ. ตรวจเข้มคุมคุณภาพน้ำ 24 ชั่วโมงย้ำ ! น้ำประปาเชียงรายสะอาด ปลอดภัย มั่นใจได้
สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์ วันงดสูบบุหรี่โลก 2568 เน้นย้ำ "กระชากหน้ากาก ธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้า : นิโคตินเสพติด จน ตาย"