IRPC ตอกย้ำเป้าหมายก้าวสู่องค์กรปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ เดินเกมขับเคลื่อนสตาร์ทอัพ สร้างนวัตกรรมตอบโจทย์ เร่งลดคาร์บอน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

IRPC ตอกย้ำเจตนารมณ์ขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ net zero เผยวางแผนไว้ 3 ขั้นตอน ชี้ต้องเร่งเดินหน้าลดคาร์บอนให้เร็วแข่งกับเวลา เชื่อเทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นเครื่องมือช่วยแก้ปัญหาได้เร็วขึ้น มองความร่วมมือกันเป็นสิ่งสำคัญ พร้อมใช้และแชร์องค์ความรู้ ร่วมสนับสนุนโครงการ "Decarbonize Thailand Startup Sandbox" หวังได้ไอเดียและนวัตกรรมใหม่ ๆ จากสตาร์ทอัพมาตอบโจทย์เรื่องลดคาร์บอน     

IRPC ตอกย้ำเป้าหมายก้าวสู่องค์กรปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ เดินเกมขับเคลื่อนสตาร์ทอัพ สร้างนวัตกรรมตอบโจทย์ เร่งลดคาร์บอน

นายพยม บุญยัง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า IRPC ดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้วัสดุและพลังงานเพื่อชีวิตที่ลงตัว โดยเชื่อว่าธุรกิจ สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม สามารถเติบโตควบคู่กันไปได้ ซึ่งในฐานะบริษัทพลังงานและปิโตรเคมี คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในการกระบวนการผลิตสินค้าและบริการ ได้มีการปล่อยคาร์บอนสู่โลกใบนี้ จึงพร้อมให้การสนับสนุนสร้างเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อนำมาช่วยลดการปล่อยคาร์บอนของภาคธุรกิจ ผลักดันประเทศไทยให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero emission) ในปี 2065 โดยIRPC วางแผนก้าวสู่ net zero ไว้ 3 ขั้นตอน ดังนี้ ภายในปี 2030 ลดการปล่อยคาร์บอนลง 20% จากที่ปล่อยในปัจจุบัน หรือประมาณ 0.83 ล้านตันต่อปี จากนั้นมุ่งสู่องค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) ภายในปี 2050 และไปให้ถึง net zero ในปี 2060

"การปล่อยคาร์บอนส่งผลกระทบทำให้สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากเรามุ่งมั่นดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ก็ต้องดูแลใส่ใจสิ่งแวดล้อมและชุมชน ซึ่งทุกวันนี้ทั้งนักลงทุนและผู้บริโภคต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยเฉพาะนักลงทุนจะเน้นเรื่องของ ESG เป็นอย่างมาก หากธุรกิจไม่อยู่ในกระบวนการเหล่านี้ นักลงทุนจะไม่อยากเข้ามาลงทุนด้วย เพราะมองว่าไม่มีความยั่งยืน ขณะเดียวกันก็เป็นเทรนด์ของโลกที่ผู้บริโภคจะเลือกใช้บริการ หรือสินค้าของผู้ผลิตที่ดูแลโลกและสิ่งแวดล้อม ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะนำมาเป็นกำแพงทางการค้า" นายพยม กล่าว

ทั้งนี้ IRPC ให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย ผ่านกลยุทธ์ความยั่งยืน 3C ประกอบด้วย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change), การบริหารจัดการตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และการสร้างคุณค่าเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน (Creating Social Value) โดยมองว่าการสร้างสมดุลเรื่องสิ่งแวดล้อมและชุมชนเป็นเรื่องสำคัญ ที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนในระยะยาวได้ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา มีความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยคาร์บอนลงอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งซัพพลายเชนตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ 

ด้านนายอนุชา สมจิตรชอบ ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของ IRPC ในการเข้ามาร่วมสนับสนุน "Decarbonize Thailand Startup Sandbox" หรือ DTS ว่า IRPC ต้องการยืนยันเจตนารมณ์การขับเคลื่อนกลยุทธ์ในการดำเนินการพร้อมมุ่งไปสู่ net zero emission รวมทั้งร่วมขับเคลื่อนสตาร์ทอัพและแสวงหาธุรกิจใหม่ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม (New S-Curve) เกี่ยวกับการลดคาร์บอน เสริมสร้างประสบการณ์ให้สตาร์ทอัพ เพื่อเข้ามาสู่ระบบนิเวศ (Ecosystem)เพราะแม้ว่า IRPC จะผลิตได้เองแต่ก็ต้องมีการนำเข้ามาด้วย โดยมองว่าคนรุ่นใหม่จะมาช่วยเปิดมุมมองใหม่ ทำให้องค์กรได้เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงวิธีการใหม่ ๆ ในการนำมาใช้แก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการลดคาร์บอน ท้ายที่สุด IRPC คิดว่าการทำงานที่มีความร่วมมือกันเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อผลักดันเรื่องของการลดคาร์บอนให้เร็วที่สุด 

"เรายึดมั่นในหลักการที่จะดูแลสังคมและชุมชมอย่างยั่งยืน ซึ่งในวันนี้ปัญหาสิ่งแวดล้อม หรือภาวะโลกร้อน เข้ามาอยู่ในบ้านเราแล้ว ไม่ใช่แค่มาจ่อหน้าประตู เราจึงรอไม่ได้ การแก้ไขปัญหาต้องแข่งกับเวลา ดังนั้น ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง โดย IRPC เป็นองค์กรที่เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นหนึ่งบนโลก พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการใช้และแชร์ความรู้ รวมถึงประสบการณ์ที่มีประโยชน์กับทุกคน ซึ่งความร่วมมือที่ชัดเจนจะทำให้การแก้ปัญหารวดเร็วยิ่งขึ้น โดยมองว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการตอบโจทย์มุ่งไปสู่ net zero ได้เร็วขึ้น" นายอนุชา กล่าว

ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ไออาร์พีซี กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า "ทุกคนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่อันดับแรกเราต้องเปลี่ยนตัวเองก่อน แล้วค่อยไปเปลี่ยนคนอื่น โดยลงมือทำด้วยตัวเองก่อนจะค่อย ๆ ขยายออกไป สิ่งที่ IRPC มองคือ เราทำตัวเองให้กระชับที่สุดในการทำธุรกิจและการปล่อยคาร์บอน วันนี้เรามาเพื่อบอกว่าภายใต้นโยบายของประเทศนั้น เราเป็นหนึ่งในองค์กรที่จะทำเรื่องของสิ่งแวดล้อม แม้จะเป็นแค่ฟันเฟืองหนึ่ง และหากสตาร์ทอัพมีไอเดียหรือนวัตกรรมที่นำไปใช้ได้ นั่นคือความคาดหวังที่เราอยากได้ เราอยากได้ไอเดียใหม่เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ ทำให้ประเทศชาติได้รับประโยชน์"


ข่าวก๊าซเรือนกระจก+ความร่วมมือวันนี้

'เวฟ บีซีจี' ผนึก 'พีทีจี เอ็นเนอยี' พลิกนาข้าวลดภาวะโลกร้อน ร่วมพัฒนาเกษตรกรไทย ส่งเสริมโครงการ "ปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง" บนที่นา 500 ไร่ จ.สุพรรณบุรี

ลดการปล่อยก๊าซมีเทนและต่อยอดเป็นคาร์บอนเครดิต หนุนภาคเกษตรกรรมและองค์กรเติบโตยั่งยืน บริษัท เวฟ บีซีจี จำกัด (WAVE BCG) ผู้ให้บริการ Climate Solution ครบวงจร เดินหน้าโครงการ Climate พัฒนา "การปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง" นวัตกรรมการเกษตรยุคใหม่บนที่นากว่า 3,300 ไร่ มุ่งลดการปล่อยก๊าซมีเทนซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจก ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน รวมถึงช่วยเพิ่มผลผลิต นำร่องความร่วมมือกับ 'บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี' เปิดโครงการ "ข้าวยั่งยืน ลดมีเทน ด้วยนาเปียกสลับแห้ง" ผนึกกำลังกลุ่มเกษตรกร จ.สุพรรณบุรี

วิจัยและพัฒนา "โครงการขับเคลื่อนการออกแบบ... เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง จับมือ คณะสถาปัตย์ จุฬาฯ ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ — วิจัยและพัฒนา "โครงการขับเคลื่อนการออกแบบและนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนการอยู่อาศัยอย...

ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราต่างก็สัมผัสได้ถึง... มูลนิธิศุภนิมิตฯ หนุนเยาวชนทั่วไทย ลุกขึ้นสู้วิกฤตสิ่งแวดล้อมจาก เสียงเล็กๆ สู่พลังเปลี่ยนโลก — ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราต่างก็สัมผัสได้ถึงผลกระทบจากวิกฤตสิ...

บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน... ADVICE ขานรับนโยบาย ESG มุ่งสู่ธุรกิจยั่งยืน จัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก — บริษัท แอดไวซ์ ไอที อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ ADVICE ผู้น...