SCB CIO คาดเงินเฟ้อสูงยืดเยื้อผนวกดอกเบี้ยขาขึ้นหนุนตลาดการเงินโลก กังวลเศรษฐกิจถดถอย แนะสะสมหุ้นจีน A-share พร้อมเติมกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เข้าพอร์ตมุ่งชนะเงินเฟ้อ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

SCB CIO ประเมินเศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูง และการขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรง จนทำให้เกิดความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยในบางประเทศ สำหรับแนวโน้มตลาดการเงินโลก ความไม่แน่นอนจากสงครามและความเร็วในการขึ้นดอกเบี้ย จะทำให้ตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นผันผวน แนะสะสมหุ้นเติบโตยั่งยืนอัตรากำไรสูง บริหารความเสี่ยงเงินเฟ้อด้วยสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น กลุ่มอาหาร และทยอยสะสมหุ้นจีน A-share หลังเศรษฐกิจจีนเปิดเมืองและออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีความเสี่ยงในด้านเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยต่ำกว่ากลุ่มประเทศอื่นๆ

SCB CIO คาดเงินเฟ้อสูงยืดเยื้อผนวกดอกเบี้ยขาขึ้นหนุนตลาดการเงินโลก กังวลเศรษฐกิจถดถอย แนะสะสมหุ้นจีน A-share พร้อมเติมกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์เข้าพอร์ตมุ่งชนะเงินเฟ้อ

ดร. กำพล อดิเรกสมบัติ ผู้อำนวยการอาวุโส และหัวหน้าทีม SCB Chief Investment Office (SCB CIO ) ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกชะลอตัวจากเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงและการขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด ) ส่งผลให้เกิดความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยในบางประเทศ จาก 3 ปัจจัยหลักที่อาจจะกระทบกับเศรษฐกิจโลกในช่วงไตรมาส 3 / 2022 ประกอบด้วย 1 ) สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อต่อราคาพลังงานและอาหาร รวมถึงการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก ( global supply chain disruption ) ที่ส่งผลทำให้อัตราเงินเฟ้อจากปัจจัยอุปทานยังอยู่ในระดับสูงแม้จะชะลอลงบ้างในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ 2 ) อานิสงค์การเปิดเมืองไม่เพียงพอที่จะชดเชยผลกระทบจากต้นทุนการผลิต ต้นทุนทางการเงินและค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณชะลอตัวลง โดยล่าสุด กองทุนการเงินระหว่างประเทศ คาดว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 3.6% ในปี 2022 และ 2023 ในขณะที่ ปี 2021 อยู่ที่ 6.1% โดยเฉพาะในยุโรปที่มีความเสี่ยงเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคสูงกว่ากลุ่มประเทศอื่นๆ และ 3 ) การเร่งตัวขึ้นเร็วของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น ยิ่งส่งผลให้ตลาดกังวลประเด็นภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะทำให้ตลาดการเงินโลกยังคงมีความผันผวน จนกว่าจะเริ่มเห็นสัญญาณการชะลอลงของเงินเฟ้อ และความชัดเจนในความเร็วของการขึ้นดอกเบี้ยจากธนาคารกลางหลัก เช่น เฟด โดย SCB CIO คาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วและแรง จนทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐอยู่ระหว่าง 3.25%-3.50% เมื่อเทียบกับระดับ 0-0.25% ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา

ส่วนแนวโน้มตลาดการเงินโลก จากความไม่แน่นอนของสงครามและความเร็วในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นมีความผันผวนและอาจเกิดภาวะแรงฉุดจากความผันผวน (volatility drag) ในพอร์ตโฟลิโอได้ เนื่องจาก คาดว่าอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรจะเพิ่มขึ้นในระดับที่ชะลอตัวลง หลังจากที่ตลาดมีการ priced-in เรื่องเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยไปบ้างแล้ว และเริ่มกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่จะชะลอตัวลง ทั้งนี้ ความกังวลต่อเศรษฐกิจถดถอยที่สูงขึ้นจะเข้ามากดดันการคาดการณ์แนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลัง ทำให้เกิดความเสี่ยงที่ผลประกอบการอาจจะถดถอย และ กับดักด้านมูลค่า (Valuation trap) จึงเป็นโอกาสในการจับจังหวะทยอยสะสมหุ้นบริษัทที่มีการเติบโตอย่างยั่งยืน อัตรากำไรสูงและสามารถส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นได้

ดร. กำพล กล่าวต่อไปว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินโลกมีความผันผวนสูง SCB CIO ยังคงแนะนำให้มีเงินสดในพอร์ตโฟลิโอ สัดส่วนประมาณ 5-10% และเมื่อการขยับขึ้นของเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวลง แนะทยอยสะสมพันธบัตรระดับ Investment Grade ในสัดส่วน 20-30% เพื่อสร้างกระแสรายได้ให้กับพอร์ตโฟลิโอ สำหรับตลาดหุ้น เรายังคงมุมมอง Neutral ต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากผลประกอบการยังฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ในระยะข้างหน้าจะได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อสูงและการเร่งตัวของดอกเบี้ยและอัตราผลตอบแทนพันธบัตร คงมุมมองหุ้นยูโรป slightly negative จากผลกระทบที่ยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป สำหรับกลุ่ม Emerging Market คงมุมมอง slightly positive ต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นจีนหลังมีการทยอยเปิดเมืองและออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีความเสี่ยงในด้านเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยต่ำกว่ากลุ่มประเทศอื่นๆ ส่วนไทยและเวียดนาม ปรับมุมมอง slightly positive เนื่องจาก แม้จะได้อานิสงค์จากการเปิดประเทศ แต่อาจจะได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น และปรับ Asian REITs เป็น Neutral เนื่องจากผลกระทบอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น เช่นกัน

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการจัดการความเสี่ยงเงินเฟ้อ SCB CIO ปรับสินค้าโภคภัณฑ์เป็น positive โดยเฉพาะกลุ่มอาหาร ที่อุปทานมีแนวโน้มตึงตัวต่อเนื่องจากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการห้ามส่งออกอาหารในหลายประเทศ ในขณะที่ราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับสูง แต่การปรับตัวขึ้นน่าจะถูกกระทบจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย สำหรับลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง ( High Net Worth / Ultra High Net worth ) การมี Alternative assets เช่น Structure note และ Private asset อยู่ในพอร์ตจะช่วยสร้างกระแสรายได้และลดความผันผวนของพอร์ตได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ความไม่แน่นอนในตลาดเงินโลกยังอยู่ในระดับสูง


ข่าวตลาดการเงินโลก+ภาวะเศรษฐกิจวันนี้

Krungthai CIO แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นสหรัฐ รับตลาดฟื้นตัวหลังเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย

Krungthai CIO มองตลาดการเงินโลกฟื้นตัว หลัง FED ลดดอกเบี้ยตามคาด พร้อมคงทิศทางนโยบายการเงินแบบค่อยเป็นค่อยไป และปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ยังเติบโตได้ หนุนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้นสหรัฐ และเวียดนาม ขณะที่ระยะสั้นตลาดมีแนวโน้มแกว่งตัว รอความชัดเจนจากการประชุมธนาคารกลางหลักหลายแห่ง แนะผู้ลงทุนจัดพอร์ตอย่างสมดุล เตรียมรับการเปลี่ยนทิศทางการลงทุนในปี 2026 ทีมกลยุทธ์การลงทุน ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Chief Investment Office) วิเคราะห์ตลาดและการลงทุนรายสัปดาห์

บลจ.อีสท์สปริง เปิด 3 กลยุทธ์การลงทุน แนะ... บลจ.อีสท์สปริง แนะ 3 กลยุทธ์ลงทุน เพิ่มน้ำหนักเอเชีย-สหรัฐฯ - ธีม IT และสินทรัพย์รายได้มั่นคง — บลจ.อีสท์สปริง เปิด 3 กลยุทธ์การลงทุน แนะเพิ่มน้ำหนักเอเชี...

ตลาดลดโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยเดือนกรกฎาคมเ... EBC Financial Group ชี้ NFP พุ่ง 147,000 สูงเกินคาด หนุนนักลงทุนปรับพอร์ตรับความเสี่ยง — ตลาดลดโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยเดือนกรกฎาคมเหลือ 4.7% กระตุ้นการปรับ...

ธนาคารกรุงไทย มองตลาดการเงินโลกเริ่มผันผว... "กรุงไทย" ชี้โอกาสลงทุนพันธบัตรระยะยาว แนะใช้ตลาดรองปรับพอร์ต สร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูง — ธนาคารกรุงไทย มองตลาดการเงินโลกเริ่มผันผวนสูงขึ้นในครึ่งปีหลัง เป...