Krungthai CIO ประเมินเศรษฐกิจโลกปี 2026 ยังมีพื้นฐานแข็งแกร่ง หนุนตลาดหุ้นโลกปรับตัวได้ดีในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่ครึ่งปีหลังความผันผวนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากวัฏจักรดอกเบี้ย และความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า แนะนักลงทุนจัดพอร์ตแบบสมดุล เพื่อกระจายความเสี่ยง พร้อมเสนอ 5 ธีมการลงทุนรับมือทิศทางตลาดตลอดปี
ทีมกลยุทธ์การลงทุน ธนาคารกรุงไทย (Krungthai Chief Investment Office) ประเมินแนวโน้มการลงทุนปี 2569 ว่าตลาดการเงินโลกยังมีพื้นฐานแข็งแกร่ง เอื้อต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรกที่ได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อเนื่อง มาตรการการคลังของหลายประเทศ และการลงทุนด้านเทคโนโลยี AI ที่เริ่มสะท้อนเป็นประสิทธิภาพและกำไรของภาคธุรกิจ อย่างไรก็ดี ในช่วงครึ่งปีหลัง ความผันผวนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากวัฏจักรดอกเบี้ยที่เข้าใกล้จุดสิ้นสุด ระดับราคาสินทรัพย์ที่ตึงตัว รวมถึงความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าและการเมืองโลก
ทั้งนี้ ภาพการลงทุนปี 2569 อยู่ภายใต้ธีม "Tale of Two Horses" หรือเศรษฐกิจสองจังหวะ ที่ช่วงในครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยในช่วงครึ่งปีแรก ตลาดมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจาก ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ยังเติบโตได้ดีในหลายภูมิภาค นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อเนื่อง แรงสนับสนุนจากมาตรการการคลัง รวมถึง การลงทุนด้านเทคโนโลยี AI ที่เริ่มสะท้อนเป็นประสิทธิภาพการผลิตและกำไรของภาคธุรกิจ ขณะที่ครึ่งปีหลัง ความผันผวนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น จากวัฏจักรการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลักที่เข้าใกล้จุดสิ้นสุด ระดับราคาสินทรัพย์ที่อยู่ในระดับตึงตัว รวมถึงความไม่แน่นอนจากปัจจัยด้านนโยบาย อาทิ ประเด็นการค้าโลก การเมืองสหรัฐฯ และความกังวลเรื่องวินัยการคลังในหลายประเทศ
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน Krungthai CIO แนะนำให้นักลงทุนจัดพอร์ตแบบ "Barbell Approach" เพื่อสร้างสมดุลระหว่างสินทรัพย์ที่เน้นการเติบโต (Growth) และสินทรัพย์ที่ช่วยลดความผันผวน (Defensive) พร้อมแนะกลยุทธ์ 5 ธีมสำคัญ เป็นกรอบรับมือทิศทางตลาดตลอดปี ประกอบด้วย
1) ปลายวัฏจักรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน (End of Easing Cycle) : การเข้าสู่ช่วงปลายวัฏจักรดอกเบี้ยช่วยลดแรงกดดันต่อผลประกอบการของกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะในยุโรป
2) พลังงานและโครงสร้างพื้นฐานรองรับยุค AI (Power Bottleneck & AI) : ความต้องการพลังงานไฟฟ้าและโครงข่ายพื้นฐานเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของเทคโนโลยี AI ในระยะยาว
3) การขยายตัวของตลาดในวงกว้าง (Market Broadening) : การเติบโตของตลาดที่ไม่กระจุกตัว หนุนหุ้นกลุ่ม Healthcare สินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็น และเทคโนโลยีปลายน้ำ
4) ตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพเติบโตระยะยาว (EM Structural Winners) : ตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพระยะยาว ได้แก่ เวียดนาม อินเดีย และเกาหลีใต้ ซึ่งได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากแนวโน้มเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่า
5) ตลาดจีนในช่วงเปลี่ยนผ่าน (China Transition) : เน้นการลงทุนแบบคัดเลือกในกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ เช่น ระบบนิเวศ AI และหุ้นที่ให้ความสำคัญกับการคืนผลตอบแทนแก่
ผู้ถือหุ้น
ในส่วนของตราสารหนี้ Krungthai CIO แนะนำลงทุนเพื่อรับกระแสรายได้สม่ำเสมอ มากกว่าการเก็งกำไรจากราคาที่ปรับขึ้น ส่วนสินค้าโภคภัณฑ์ยังคงแนะนำการถือทองคำ เพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ต โดยสรุป ปี 2569 เป็นปีที่โอกาสและความผันผวนยังคงเดินควบคู่กัน นักลงทุนจึงควรเน้นการกระจายการลงทุนและการปรับพอร์ตอย่างยืดหยุ่น เพื่อสร้างเสถียรภาพของพอร์ตท่ามกลางวัฏจักรเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดทั้งปี
Krungthai CIO ประเมินตลาดเผชิญแรงกดดันจากเฟด-บีโอเจ แนะกลยุทธ์ Barbell รับความเสี่ยงสองทิศทาง
บลจ.อีสท์สปริง แนะ 3 กลยุทธ์ลงทุน เพิ่มน้ำหนักเอเชีย-สหรัฐฯ - ธีม IT และสินทรัพย์รายได้มั่นคง
SCB CIO เปิดมุมมองลงทุนครึ่งหลังปี 2568 รับมือตลาดโลกยังเผชิญความผันผวน แนะลงทุนหุ้นสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น อินเดีย กลุ่มเทคทั่วโลก ทองคำ และพันธบัตร หนุนพอร์ตโต
EBC Financial Group ชี้ NFP พุ่ง 147,000 สูงเกินคาด หนุนนักลงทุนปรับพอร์ตรับความเสี่ยง
SCBX เสนอทางเลือกการลงทุนที่มั่นคง ปลอดภัย ด้วย "หุ้นกู้คุณภาพสูงพร้อมรับทุกสภาวะตลาด" ดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.60 ต่อปี จ่ายทุก 6 เดือน
SCB CIO มอง 3 ปัจจัยหนุนตลาดการเงินโลกผันผวนแนะลงทุนแบบ Stay Invested จัดพอร์ตรอรับผลเลือกตั้งหาจังหวะสะสมหุ้นสหรัฐ จีน A-Share และไทยใน Core Port
"กรุงไทย" ชี้โอกาสลงทุนพันธบัตรระยะยาว แนะใช้ตลาดรองปรับพอร์ต สร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูง
"กรุงไทย" หนุนจัดพอร์ตลงทุนส่งท้ายปี เสนอขายหุ้นกู้อนุพันธ์ชุดใหม่อายุ 3 ปี คุ้มครองเงินต้น ดีเดย์ 1-2 ธ.ค.นี้