ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีวาระสำคัญคือ การรายงานความคืบหน้าและแนวทางการดำเนินงาน "กองทุนนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม" ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ภายใต้รูปแบบการสมทบงบประมาณระหว่างกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และแหล่งทุนเอกชน
รศ.ดร.นพพร ลีปรีชานนท์ ที่ปรึกษาผู้อำนวยการ สกสว. ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักกลยุทธ์และพัฒนากองทุน กล่าวว่า การรายงานความคืบหน้าและแนวทางการดำเนินงานกองทุนนวัตกรรมฯ ครั้งนี้ เป็นเรื่องสืบเนื่องจากการที่ สกสว. และ ส.อ.ท. ได้ร่วมกันจัดตั้งกองทุนนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมขึ้นมาปีเศษแล้ว โดยครั้งนั้น กสว. ได้เคยมีมติเห็นชอบในคราวประชุม กสว. ครั้งที่ 1/64 เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564 ให้สนับสนุนงบประมาณให้กับกองทุนนวัตกรรมฯ ในรูปแบบ One-on-One Matching Fund ภายใต้กรอบวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท โดยสมทบกับเงินที่ ส.อ.ท. ไประดมทุนจากแหล่งทุนอื่นในกรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท รวมเป็น 2,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สกสว. ได้ร่วมพัฒนากองทุนนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมร่วมกับสภาอุตสาหกรรมมาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงวันนี้ ได้มีความคืบหน้าไปมาก โดยมีกลไกการดำเนินงานที่มีความชัดเจนและเป็นรูปธรรม
ดร.วิบูลย์ รักสาสน์เจริญผล รองเลขาธิการ ส.อ.ท. กล่าวว่า การร่วมกันพัฒนากองทุนนวัตกรรมฯ นี้ นับเป็นมิติใหม่ของการทำงานร่วมกันระหว่าง ส.อ.ท. กับ สกสว. โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนองค์กรธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้เติบโต ควบคู่ไปกับการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของเอสเอ็มอีไทยรายภาคส่วนของแต่ละอุตสาหกรรม ด้วยการให้เอสเอ็มอีกลุ่มเป้าหมายทดลองใช้เทคโนโลยีที่เป็นโซลูชั่นของสตาร์ทอัพและให้ผลสะท้อนกลับ ซึ่งในอนาคตเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพอาจจะเป็นผู้ร่วมทุนระดับ Angle Fund ในสตาร์ทอัพได้
ทั้งนี้ ภารกิจของกองทุนนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม คือ การยกระดับเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพให้เติบโตไปด้วยกัน โดยนำจุดแข็งของ ส.อ.ท. มาใช้ให้เกิดประโยชน์กับทั้งสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี ซึ่ง ส.อ.ท.ทำงานร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) และหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) อย่างใกล้ชิดมาตลอด และพยายามออกแบบไม่ให้ทำงานซ้ำซ้อนกัน แต่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน กลไกการบริหารกองทุนนวัตกรรมฯ ของ ส.อ.ท. ใช้เครือข่ายแหล่งทุนอื่น (เช่น InnoSpace) ที่จะเจรจามาเป็นผู้ร่วมลงทุนสร้างการเจริญเติบโตให้กับสตาร์ทอัพที่มีเทคโนโลยีพร้อมใช้ระดับ Pre-Series A ขึ้นไป ควบคู่ไปกับการยกระดับขีดความสามารถของเอสเอ็มอีในภาคอุตสาหกรรม โดยรับไม้ต่อจาก NIA ที่เน้นพัฒนาสตาร์ทอัพที่มีเทคโนโลยีพร้อมใช้ในระดับบ่มเพาะต้นกล้า (Seed Money) หรือ TRL9 ขณะที่ บพข.จะเน้นสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีให้เป็นต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่มีระดับความพร้อมของเทคโนโลยี TRL 5-7 ร่วมกับบริษัทเอกชนเป็นรายโครงการ โดย ส.อ.ท. มีฐานสมาชิกที่เป็น SMEs รายอุตสาหกรรมที่ยกระดับได้ทั้งภาคส่วน
"ทั้งสามทีมจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อให้เป็นสามเหลี่ยมทองคำ เหมือนเป็นสายพานส่งต่อเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาจนพร้อมใช้และนำไปสู่เชิงพาณิชย์ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะช่วยผลักดันระบบนิเวศนวัตกรรมของประเทศให้สมบูรณ์ โดยที่ผ่านมามีการพบปะระหว่างผู้บริหารของ ส.อ.ท. และ สกสว. ทำงานลงรายละเอียดกันโดยตลอด ณ วันนี้เราได้ตุ๊กตากลไกการลงทุนที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบแล้ว และมีร่างรายชื่อคณะกรรมการบริหารกองทุนนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม และคณะทำงานประสานงานของกองทุนฯ ซึ่งพร้อมที่จะประกาศสู่สาธารณะโดยมีพาร์ทเนอร์เข้ามาร่วมในเวทีฟอรั่ม โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องที่มีศักยภาพในวงการสตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี และกองทุนนวัตกรรมภาครัฐเข้าร่วมงานด้วย ซึ่งจะเป็นการนับหนึ่งของการเข้าสู่กระบวนการตามแผนงานทำงานร่วมกับเครือข่ายเอสเอ็มอีของ ส.อ.ท. ตามนโยบายปี 2023 และจะรายงานความคืบหน้าให้ กสว.ทราบเป็นระยะ"
ประธาน กสว. ระบุว่า การทำงานเพื่อผลผลิตอุตสาหกรรมที่ผ่านมาภาควิชาการเป็นคนคิด และมีภาคอุตสาหกรรมเป็นที่ปรึกษา ซึ่งพบว่าไม่ตรงกับธรรมชาติที่ควรเป็น และไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ดังนั้นรูปแบบใหม่ของกองทุนนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมนี้จึงมีภาคอุตสาหกรรมเป็นผู้นำ ที่จะคิดรูปแบบการพัฒนาอุตสาหกรรมโดยเน้นเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพเป็นหลัก เพราะอุตสาหกรรมขนาดใหญ่สามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว
ขณะที่นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เผยว่า การจัดตั้งกองทุนนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมสอดคล้องกับแนวคิดตลาดนำการผลิตและการวิจัย เป็นแนวคิดที่มาถูกทางและน่าจะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง ทั้งนี้กรมวิชาการเกษตรน่าจะมีภารกิจขับเคลื่อนงานต่าง ๆ หรือให้คำแนะนำกองทุนนี้ได้อย่างดี โดยเฉพาะโครงการในภาคการเกษตรที่ ส.อ.ท. เองก็มีเครือข่ายทั่วประเทศ แต่ปัญหาสำคัญคือทุกวันนี้ภาคการเกษตรยังทำเกษตรแบบดั้งเดิมจากตัวเกษตรกรเอง ควรให้ภาคอุตสาหกรรมเป็นตัวนำ
ปตท.สผ. คว้ารางวัลสูงสุดจากเวที Climate Action Awards 2025 สะท้อนความโดดเด่นในการดำเนินงานด้าน Decarbonization
SAPPE ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน ผนึกกำลัง TIPMSE และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในงานรวมพลังขับเคลื่อน EPR เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นวัตถุดิบ
"นิปปอนเพนต์" แบรนด์สีหนึ่งเดียวที่เหนือชั้นกว่า คว้ารางวัลเชิดชูเกียรติสูงสุด "Climate Action Excellence" โดย ส.อ.ท. พิสูจน์ความตั้งใจ การันตีองค์กรผู้นำด้านความยั่งยืนในทุกมิติ
OR ได้รับรางวัล Climate Action Excellence ตอกย้ำการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคตยั่งยืน
ส.อ.ท. จับมือ CBS-กสิกร-บพค. ยกระดับ SMEs ไทยสู่ SMART SMEs ด้วย Digital & AI
กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สอท. พร้อมดึงเทคโนโลยีเม็ดพลาสติกรีไซเคิล สนับสนุนอุตสาหกรรมไทยสู่ S-Curve หนุนทุกภาคส่วนนำพลาสติกใช้แล้วกลับมาเป็นวัตถุดิบครบวงจร
เบเยอร์คว้ารางวัล Climate Action Award ตอกย้ำผู้นำสีรักษ์โลกอันดับหนึ่ง มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero
TCMA คว้ารางวัล 'Outstanding Contribution' Climate Action Award 2025 ตอกย้ำบทบาทองค์กรศักยภาพ นำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ขับเคลื่อนลดคาร์บอน
ส.อ.ท. จัด Climate Change Forum 2025 ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่เป้า Net Zero บางจากฯ คว้ารางวัลสูงสุด Climate Change Award องค์กรต้นแบบด้าน Climate Action