วช.หนุนทีมวิจัย ม.วลัยลักษณ์ พัฒนาระบบควบคุมความเข้มข้นน้ำยาอัดไม้แปรรูปอุตสาหกรรม

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้ความสำคัญกับการนำองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีรวมถึงงานวิจัยและนวัตกรรม ไปช่วยแก้ไขปัญหาให้กับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อให้สามารถลดต้นทุนและแข่งขันได้ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ อย่างเช่น ในอุตสาหกรรมไม้ยางพาราแปรรูป ที่ รองศาสตราจารย์ ดร.นิรันดร มาแทน และคณะ จากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ได้มีการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า "ImPregWooD" ระบบควบคุมความเข้มข้นน้ำยาอัดไม้แปรรูปอุตสาหกรรม ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการโรงงานไม้ยางพาราแปรรูปสามารถลดการใช้สารเคมีได้กว่า 1.4 ล้านบาท ต่อปี โดยผลงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ การพัฒนาระบบออกแบบรูปแบบการเลื่อย ระบบควบคุมการอัดน้ำยา ระบบควบคุมการอบ และเตาอบไม้ต้นแบบ สำหรับการผลิตไม้ยางพาราแปรรูปในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนการทำวิจัยอย่างต่อเนื่องจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)

วช.หนุนทีมวิจัย ม.วลัยลักษณ์ พัฒนาระบบควบคุมความเข้มข้นน้ำยาอัดไม้แปรรูปอุตสาหกรรม

รองศาสตราจารย์ ดร.นิรันดร มาแทน จากศูนย์ความเป็นเลิศด้านไม้และวัสดุชีวภาพ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ กล่าวว่า ในกระบวนการแปรรูปไม้ยางในโรงงานอุตสาหกรรม จะมีการอัดน้ำยาโบรอนเพื่อรักษาเนื้อไม้ก่อนที่จะนำไปอบ เพื่อป้องกันการเข้าทำลายของเชื้อราและแมลง แต่เนื่องจากไม้ยางพาราสดมีน้ำเป็นองค์ประกอบซึ่งที่ไม่ทราบปริมาณที่แน่นอน ทำให้น้ำยาเจือจางลงไปทุกรอบของการอัด พนักงานจึงต้องเพิ่มสารโบรอนเพื่อชดเชยในการอัดรอบต่อไปโดยอาศัยประสบการณ์และการคาดเดา ทำให้ไม่สามารถควบคุมกระบวนการผลิตในขั้นตอนการอัดน้ำยาได้อย่างแม่นยำ ขณะที่การตรวจสอบปริมาณน้ำยาตามมาตรฐานภายหลังจากที่อบแห้งเสร็จแล้วซึ่งเป็นปฎิบัติการโดยทั่วไปนั้นจะล่าช้าเกินไป และทำให้ต้องเสียเวลาอัดน้ำยาไม้ใหม่ หรือ ส่งผลให้ไม้ยางพาราแปรรูปที่ได้ไม่ผ่านมาตรฐาน หรือ มีการใช้สารเคมีที่สิ้นเปลืองมากเกินไป วช.หนุนทีมวิจัย ม.วลัยลักษณ์ พัฒนาระบบควบคุมความเข้มข้นน้ำยาอัดไม้แปรรูปอุตสาหกรรม

"จากการสำรวจผลของการอัดน้ำยาในโรงงานไม้ยางพาราแปรรูปจำนวน 5 โรงงาน พบว่า ไม้ยางพาราที่ได้ส่วนหนึ่งจะมีปริมาณสารโบรอนคงค้างในไม้มีค่าน้อยกว่าค่ามาตรฐานทำให้ไม่สามารถป้องกันไม้จากการเข้าทำลายของแมลงได้ ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็มีปริมาณสารโบรอนคงค้างในไม้มากเกินไปซึ่งทำให้สิ้นเปลืองสารเคมีไปโดยไม่จำเป็น ดังนั้นเพื่อให้เกิดความสะดวก และสามารถควบคุมความเข้มข้นของน้ำยาโบรอนได้อย่างแม่นยำทุกรอบของการอัดน้ำยาโบรอน คณะผู้วิจัยจึงได้พัฒนาและสร้าง ImPregWooD ระบบควบคุมความเข้มข้นน้ำยาอัดไม้แปรรูปอุตสาหกรรมขึ้น เพื่อใช้สำหรับตรวจวัดความเข้มข้นของน้ำยาโบรอน พร้อมมีโปรแกรมคำนวณเพื่อแนะนำการผสมน้ำยารอบใหม่เพื่อให้ได้ความเข้มข้นน้ำยาโบรอนตามต้องการ"

ระบบที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย หลอดแก้ววัดความเข้มข้นน้ำยาโบรอนที่หน้างาน กราฟมาตรฐานสำหรับเครื่องวัดความถ่วงจำเพาะกับปริมาณโบรอนในสารละลาย และโปรแกรมคำนวณการผสมน้ำยารอบใหม่เพื่อให้ได้ความเข้มข้นน้ำยาตามต้องการ

สำหรับจุดเด่นของระบบ คือ สามารถวัดความเข้มข้นของน้ำยาโบรอนที่ใช้อัดไม้ยางพาราที่ความเข้มข้นต่ำประมาณ 1% ในช่วงการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมได้อย่างเที่ยงตรงและแม่นยำที่หน้างานในโรงงาน การวัดค่าความถ่วงจำเพาะของน้ำยาด้วยหลอดไฮโดรมิเตอร์ความละเอียดสูงที่ออกแบบและผลิตเอง สามารถอ่านค่าความถ่วงจำเพาะได้ละเอียดถึงทศนิยมตำแหน่งที่ 3 และในการสร้างระบบมีการสอบเทียบความแม่นยำของค่าความเข้มข้นของน้ำยากับเทคนิคการไตรเตรตที่ดำเนินการในห้องปฎิบัติการ ค่าที่อ่านได้จึงมีความแม่นยำสูง

นอกจากนี้ยังมีระบบคำนวณสูตรการผสมน้ำยาในรอบถัดไปโดยโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อให้ได้ปริมาณและค่าความเข้มข้นของน้ำยาอัดไม้ตามที่ต้องการ และสามารถออกแบบระบบให้ใช้ได้กับน้ำยาโบรอนที่เตรียมจากสารเคมีทุกยี่ห้อที่มีขายในท้องตลาด และใช้ได้กับระบบถังอัดน้ำยาทุกรูปแบบที่มีใช้ในอุตสาหกรรม และเนื่องจากเป็นระบบที่พัฒนาโดยทีมวิจัยทำให้สามารถแก้ไขปรับปรุงระบบทั้งหมดได้เองทั้งหมด และสามารถพัฒนาส่วนต่างๆ เพิ่มเติมได้ในภายหลังได้

รองศาสตราจารย์ ดร.นิรันดร กล่าวว่า จากการติดตามผลการใช้งานจริงของระบบ ImPregWooD ในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นระยะเวลากว่า10 ปี โดยมีบริษัทไทยนครพาราวู้ด จำกัด เข้าร่วมโครงการฯ เป็นบริษัทแรก ในปี 2554 พบว่า ปัจจุบันระบบยังสามารถควบคุมความเข้มข้นของน้ำยาอัดไม้ได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้บริษัทสามารถลดการใช้สารเคมีลง 100 กิโลกรัมต่อวัน ประหยัดเงินค่าสารเคมีได้ถึงปีละ 1.4 ล้านบาท ในขณะที่ยังคงรักษาคุณภาพความคงทนของไม้ยางพาราแปรรูปได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน

ปัจจุบันทีมวิจัยได้ทำการขยายผลติดตั้งระบบ ImPregWooD เพื่อใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมไม้ยางพาราแปรรูปแล้วจำนวน 14 โรงงาน


ข่าวมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์+งานวิจัยและนวัตกรรมวันนี้

รมว.อว.เปิดมหกรรมงานวิจัยส่วนภูมิภาค ครั้งที่ 12 ที่ม.วลัยลักษณ์ ชูแนวคิดภาคใต้โมเดล นำงานวิจัยพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์และจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดงาน "มหกรรมงานวิจัยส่วนภูมิภาค ประจำปี 2566 (Regional Research Expo 2023)" ครั้งที่ 12 ภายใต้แนวคิด "วิจัย นวัตกรรม เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ภาคใต้โมเดล" เพื่อขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมในการพัฒนาท้องถิ่นภาคใต้ระหว่างวันที่ 28-30 มิถุนายน 2566 โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์

มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ พร้อมเป็นเจ้าภาพจัด... 'ม.วลัยลักษณ์'พร้อมจัดศึกลูกหนัง THAILAND U-CHAMPIONSHIP รอบคัดเลือกภาคใต้ 7 สถาบันร่วมฟาดแข้ง — มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาฟุตบอ...

มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ผงาดขึ้นแท่นอันดับ ... ม.วลัยลักษณ์ ขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลก SDG5 ความเท่าเทียมทางเพศ THE Impact Rankings 2025 — มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ผงาดขึ้นแท่นอันดับ 1 ของโลก SDG5 การส่งเสริ...

นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ประธานกรรมการบริหาร... SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต สนับสนุนประกันเดินทางนักกีฬาจุฬาฯ เข้าแข่งขันตุมปังเกมส์ 2025 — นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ...

ม.วลัยลักษณ์ ร่วมกับ มูลนิธิ สอวน. เตรียม... ม.วลัยลักษณ์ พร้อมเป็นเจ้าภาพแข่งขัน "ชีววิทยาโอลิมปิกระดับชาติ" ครั้งที่ 22 4-8 เม.ยนี้ — ม.วลัยลักษณ์ ร่วมกับ มูลนิธิ สอวน. เตรียมพร้อมจัดการแข่งขันชีวว...

เปิดไอเดียรักษ์สิ่งแวดล้อม "หางประทัดแก้บ... เปิดไอเดีย "กระเป๋ารักษ์โลก" สานจากหางประทัดแก้บน "ไอ้ไข่" ผลผลิตจากงานวิจัยของม.วลัยลักษณ์ — เปิดไอเดียรักษ์สิ่งแวดล้อม "หางประทัดแก้บน" จากความสำเร็จนับ...

ม.วลัยลักษณ์แถลงข่าวเตรียมจัดประชุมวิชากา... ม.วลัยลักษณ์แถลงข่าวจัดประชุมวิชาการนานาชาติ WRC 2025 ฉลองครบรอบ 33 ปี — ม.วลัยลักษณ์แถลงข่าวเตรียมจัดประชุมวิชาการนานาชาติ WRC 2025 เนื่องในโอกาสครบปีที่...