วช. ดันงานวิจัยโครงการการปรับปรุงเสถียรภาพลาดตลิ่งในสระเก็บน้ำพระรามเก้า ตามรอยพระราชดำริ แก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สนับสนุนทุนวิจัยโครงการ "การปรับปรุงเสถียรภาพลาดตลิ่งในสระเก็บน้ำพระรามเก้าอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ภายใต้สภาวะการลดลงของระดับน้ำอย่างรวดเร็วจากภัยแล้ง" ให้แก่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วีระศักดิ์ ละอองจันทร์ แห่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เพื่อศึกษาเสถียรภาพและการเคลื่อนตัวของลาดตลิ่งภายใต้สภาวะเปลี่ยนแปลงระดับน้ำ พร้อมทั้งปรับปรุงลาดตลิ่งของสระเก็บน้ำพระรามเก้ากักน้ำไว้ใช้ในยามแล้ง และบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในเขตพื้นที่ตอนล่าง

วช. ดันงานวิจัยโครงการการปรับปรุงเสถียรภาพลาดตลิ่งในสระเก็บน้ำพระรามเก้า ตามรอยพระราชดำริ แก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมและการดำเนินงานโครงการวิจัยและนวัตกรรมในการนำงานวิจัยมาหนุนเสริมในการวิเคราะห์ถึงสาเหตุและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในเชิงพื้นที่ โดยให้ทุนสนับสนุนทุนวิจัยโครงการปรับปรุงเสถียรภาพลาดตลิ่งในสระเก็บน้ำพระรามเก้าอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ภายใต้สภาวะการลดลงของระดับน้ำอย่างรวดเร็วจากภัยแล้ง ของ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วีระศักดิ์ ละอองจันทร์ แห่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี นับเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัย ปัญหาภัยแล้ง และคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนเป็นสำคัญภายใต้งานวิจัยที่จะเข้ามามีส่วนช่วยได้อย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างยั่งยืน วช. ดันงานวิจัยโครงการการปรับปรุงเสถียรภาพลาดตลิ่งในสระเก็บน้ำพระรามเก้า ตามรอยพระราชดำริ แก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วีระศักดิ์ ละอองจันทร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เปิดเผยว่า ผลการศึกษาของคณะนักวิจัยภายใต้ โครงการปรับปรุงเสถียรภาพลาดตลิ่งในสระเก็บน้ำพระรามเก้าอันเนื่องมาจากพระราชดำริภายใต้ สภาวะการลดลงของระดับน้ำอย่างรวดเร็วจากภัยแล้งได้ศึกษาสาเหตุอันเนื่องมาจากสภาวะการลดลงของระดับน้ำ (drawdown conditions) ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของแรงดันน้ำในโพรงดินเป็นสาเหตุให้กำลังต้านทานแรงเฉือนลดลงพบว่าพื้นที่ในสระเก็บน้ำพระรามเก้านั้น มีการเคลื่อนตัวของลาดตลิ่งสูงสุดที่ระดับน้ำ +2.00 เมตร BH-2 มีการเคลื่อนตัวของลาดตลิ่งสูงสุดที่ระดับน้ำ +1.25 เมตร และ BH-3 มีการเคลื่อนตัวของลาดตลิ่งสูงสุดที่ระดับน้ำ -0.50 เมตร จากผลการวิเคราะห์ที่ระดับน้ำ -0.50 เมตร ของหลุมเจาะ BH-3 มีการเคลื่อนตัวสูงสุด และจากการเปรียบเทียบค่าอัตราส่วนความปลอดภัย (Factor of Safety, FS.) ของ BH-1 ถึง BH-3 มีค่าอัตราส่วนความปลอดภัย (Factor of Safety, FS.) มากที่สุดเท่ากับ 3.023 ในหลุมเจาะ BH-3 และน้อยที่สุดเท่ากับ 0.926 ในหลุมเจาะ BH-1 จากการวิเคราะห์ลักษณะการเคลื่อนตัวของลาดตลิ่งและค่าอัตราส่วนความปลอดภัย (Factor of Safety, FS.) พบว่าควรควบคุมระดับน้ำของสระเก็บน้ำพระรามเก้า ให้อยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า -2.00 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เนื่องจากถ้าระดับน้ำลดลงต่ำกว่า -2.00 เมตร จะส่งผลให้ลาดตลิ่งบริเวณที่มีความลาดชันสูงเกิดการพังทลาย ต่อมาทีมนักวิจัยได้ทำการสำรวจทางน้ำโดยเครื่องหยั่งความลึก โดยบริเวณที่มีลาดตลิ่งชันมากเป็นจุดที่น่าจะมีความเสถียรภาพของลาดดินที่มีค่าต่ำนำผลที่ได้ดังกล่าวไปวิเคราะห์เสถียรภาพต่อ จากนั้นทำการเจาะสำรวจชั้นดินแบบฉีดล้าง (Wash Boring) จำนวน 6 หลุม นำตัวอย่างดินที่ได้จากการเจาะสำรวจมาทดสอบในห้องปฏิบัติการเพื่อทำการหาคุณสมบัติของดินโดยจะนำข้อมูลมาวิเคราะห์เสถียรภาพของลาดดินด้วยโปรแกรม plaxis 2d และทำการศึกษาการปรับปรุงเสถียรภาพของลาดดินสระเก็บน้ำพระรามเก้าเพื่อให้มีความมั่นคงต่อไป

ทั้งนี้ มูลนิธิชัยพัฒนาและการประปาส่วนภูมิภาคที่ผลิตน้ำประปายังได้รับประโยชน์จากการใช้น้ำในสระเก็บน้ำพระรามเก้าและสามารถนำผลการวิจัยมาใช้ในการรักษาระดับน้ำในสระเก็บน้ำพระรามเก้าไม่ให้ลดลงต่ำกว่า -2.00 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางเนื่องจากมีผลต่อลาดตลิ่งเป็นอย่างมากเพื่อไม่ให้เกิดการพังทลายของลาดตลิ่งอันเนื่องมาจากการลดลงของระดับน้ำอย่างรวดเร็ว นับเป็นงานวิจัยที่ช่วยในเรื่องของการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในยามแล้ง หรือการระบายน้ำ ลดความรุนแรงของปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่โดยรอบแล้ว เมื่อมองอย่างลึกซึ้ง แนวพระราชดำริแก้มลิง ดังเช่นโครงการสระเก็บน้ำพระราม 9 นี้ยังผสานแนวคิดในการอนุรักษ์น้ำนับเป็นงานวิจัยที่ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำได้อย่างแท้จริง


ข่าวมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี+มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลวันนี้

Brand Stand Up ผนึกกำลัง มทร.ธัญบุรี สร้างธุรกิจนวัตกรรม หนุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่สู่เวทีโลก

บริษัท แบรนด์แสตนด์อัพ จำกัด โดย คุณกิตติเชษฐ์ ภูมิโชติธนานันท์ ผู้ก่อตั้ง Brand Stand Up ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์นิพัทธ์ จงสวัสดิ์ คณบดี คณะวิทยาศาสตร์เทคโนโยลีและนวัตกรรม ลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่และสร้างธุรกิจนวัตกรรม ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบ พระชนมพรรษา โดยความร่วมมือดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อผลักดันการสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจที่เอื้อต่อการเรียนรู้และต่อยอดสู่การทำธุรกิจจริง สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ "Creative World of

บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ... คัมเวล - มทร.ธัญบุรี ร่วมหารือความร่วมมือทางวิชาการและนวัตกรรม — บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) นำโดยคุณบุญศักดิ์ เกียรติจรูญเลิศ ประธานเจ้าหน้า...

หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพ... "นวัตกรชุมชน" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนไทยด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสม — หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ร่วมกับโครงการสังเคราะห์และขับเคล...

หน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ... มทร.ธัญบุรี เจ๋ง! คิดค้นกระถางรักษ์โลกจากวัสดุชีวมวล สร้างรายได้ ลด PM 2.5 — หน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ห...

รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด รักษาการในตำแหน่งอธิ... มทร.ธัญบุรี เผยความพร้อมก้าวไปเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ยืนยันไม่ขึ้นค่าเทอมนักศึกษา — รศ.ดร.สมหมาย ผิวสอาด รักษาการในตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโ...

รศ.ดร.พิชัย จันทร์มณี อธิการบดีมหาวิทยาลั... คณะศิลปศาสตร์ มทร.กรุงเทพ สุดยอดคว้าถ้วยรางวัลพระราชทาน กรมสมเด็จพระเทพฯ 2 ปีซ้อน — รศ.ดร.พิชัย จันทร์มณี อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล(มทร.)กรุงเท...