นวัตกรรมใหม่ของ Cisco 800G เพิ่มพลังให้กับอินเทอร์เน็ตสำหรับอนาคต พัฒนาความคุ้มค่าและความยั่งยืนของระบบเครือข่ายสำหรับผู้ให้บริการและผู้ให้บริการระบบคลาวด์

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ประเด็นข่าว:

นวัตกรรมใหม่ของ Cisco 800G เพิ่มพลังให้กับอินเทอร์เน็ตสำหรับอนาคต พัฒนาความคุ้มค่าและความยั่งยืนของระบบเครือข่ายสำหรับผู้ให้บริการและผู้ให้บริการระบบคลาวด์
  • ไลน์การ์ดรุ่นล่าสุดของซิสโก้ 28.8T / 36 x 800G ขับเคลื่อนด้วย Cisco Silicon One P100 ASIC ประหยัดพื้นที่มากขึ้นถึง 6 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชั่น 400G ในปัจจุบัน โดยรองรับสูงสุด 15 Tbps ต่อแร็ค
  • การใช้เราเตอร์ Cisco 8000 Series ร่วมกับไลน์การ์ดรุ่นใหม่ ช่วยให้ผู้ให้บริการและผู้ให้บริการระบบคลาวด์ประหยัดพื้นที่ได้มากถึง 83% และประหยัดพลังงานได้มากถึง 68% เมื่อเปลี่ยนย้ายจาก 400G เป็น 800G สำหรับแบ็คโบน IP, เมโทรคอร์ และดาต้าเซ็นเตอร์ที่รองรับเวิร์กโหลด AI/ML
  • นวัตกรรมซอฟต์แวร์ใหม่ เช่น IOS XR Path Tracing และส่วนปรับปรุง Crosswork Network Automation ช่วยเพิ่มความสามารถในการตรวจสอบเครือข่าย ข้อมูลเชิงลึก และการดำเนินการ ลดความยุ่งยากซับซ้อนในการดำเนินงาน และทำให้ connected experience ดีขึ้น

ซิสโก้เปิดตัวนวัตกรรม 800G ที่เพิ่มความคุ้มค่าและความยั่งยืนให้กับอินเทอร์เน็ตสำหรับอนาคต เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อเกือบ 40% ของประชากรโลกที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตหรือกลุ่มผู้ด้อยโอกาส นวัตกรรมใหม่ของ Cisco 800G เพิ่มพลังให้กับอินเทอร์เน็ตสำหรับอนาคต พัฒนาความคุ้มค่าและความยั่งยืนของระบบเครือข่ายสำหรับผู้ให้บริการและผู้ให้บริการระบบคลาวด์

การเติบโตของ IoT, AI/ML

ขณะที่อุปกรณ์ IoT มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากหลายพันล้านเครื่องเป็นหลายล้านล้านเครื่อง ความต้องการแบนด์วิธก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยนอกจากจะรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ผ่านเครือข่าย 5G และ Wi-Fi แล้ว ยังครอบคลุมไปถึงเวิร์กโหลด AI/ML ที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนข้อมูลเชิงลึกจาก IoT แอพพลิเคชั่นต่างๆ อย่างเช่น Generative AI การค้นหาข้อมูล การประมวลผลภาษา และเครื่องมือแนะนำ กำลังขับเคลื่อนการเติบโตอย่างรวดเร็วของคลัสเตอร์ AI/ML ในสภาพแวดล้อมดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งต้องการแบนด์วิธมากกว่าเวิร์กโหลดแบบเดิมๆ แฟบริก AI/ML จำเป็นต้องขยายขนาดโดยอาศัยเครือข่ายแกนกลางที่หนาแน่นมากขึ้น ซึ่งมีความสำคัญต่อการรองรับโปรเซสเซอร์จำนวนมากที่มีการหน่วงเวลาต่ำ รวมไปถึงการขยายขีดความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่างดาต้าเซ็นเตอร์

การพัฒนา 800G สู่เครือข่ายที่หนาแน่นมากขึ้น

แม้ว่าการเติบโตของแบนด์วิธจะดูเหมือนไร้ขีดจำกัด แต่พื้นที่และพลังงานกลับมีอยู่อย่างจำกัด ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องใช้แพลตฟอร์มที่หนาแน่นและประหยัดพลังงาน ซิสโก้เพิ่มขีดความสามารถเป็นสองเท่าให้กับเครือข่ายแบ็คโบน, เมโทรคอร์ และเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ของลูกค้าที่เป็นผู้ให้บริการด้านการสื่อสารและลูกค้ากลุ่ม Webscale เมื่อเทียบกับโซลูชันโมดูลาร์ 400G/100G ทั้งนี้ ไลน์การ์ด 28.8Tbps / 36 x 800G สำหรับเราเตอร์ Cisco 8000 Series ถูกขับเคลื่อนด้วย Cisco Silicon One และจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับการปกป้องเงินลงทุนในระยะยาวสำหรับผู้ให้บริการด้านการสื่อสารและผู้ให้บริการระบบคลาวด์ที่ปรับเปลี่ยนเครือข่ายจากความจุ 100G เป็น 400G และ 800G นอกจากนี้ ลูกค้ายังได้รับประโยชน์จากการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนด้วยการใช้ฮาร์ดแวร์น้อยลงในการขยายขนาดของเครือข่าย และการนำอุปกรณ์กลับมาใช้

เควิน วอลเลนวีเบอร์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายระบบเครือข่าย ดาต้าเซ็นเตอร์ และการเชื่อมต่อผู้ให้บริการของซิสโก้ กล่าวว่า "เราขยายขีดความสามารถของ 800G อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับกรณีการใช้งานอื่นๆ ตั้งแต่แฟบริค AI/ML ไปจนถึงเครือข่ายแกนหลัก เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพและความยั่งยืน โซลูชันใหม่ของเราสำหรับเครือข่ายหลักและเครือข่ายแกนกลางที่หนาแน่น ซึ่งใช้ไลน์การ์ดที่มีความหนาแน่นสองเท่าใหม่พร้อมด้วย Cisco Silicon One จะช่วยเร่งการปรับเปลี่ยนไปสู่ 800G ในทุกๆ ที่"

ประโยชน์ที่สำคัญของระบบเราเตอร์Cisco 8000 Series แบบโมดูลาร์ที่ขับเคลื่อนด้วย Cisco Silicon One P100:

  • ความคุ้มค่า: ด้วยการประหยัดพื้นที่มากถึง 83% ลูกค้าจึงสามารถสร้างเครือข่ายที่หนาแน่นมากขึ้น โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานเดียวกันเป็นส่วนใหญ่ เพื่อรองรับกรณีการใช้งานต่างๆ เช่น 5G, IoT, บรอดแบนด์ และ AI/ML นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในด้านอื่นๆ เช่น:
    • ด้วยการเพิ่มความจุเป็นสองเท่าในแชสซีเดียวกัน แพลตฟอร์ม Cisco 8000 Series Router จึงช่วยประหยัดพื้นที่มากกว่าระบบแชสซีเดี่ยว 400G ถึงสองเท่า
    • ระบบแชสซีเดี่ยว 800G สามารถรองรับแทรฟฟิกโหลดได้เทียบเท่ากับโซลูชันแชสซีแบบกระจาย 400G ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยลดการใช้พื้นที่ได้ถึง 6 เท่า และรองรับความเร็วสูงสุด 15 Tbps ต่อแร็คยูนิต
    • ระบบโมดูลาร์ 800G ยังให้ความจุแบนด์วิธเทียบเท่ากับโซลูชัน 400G โดยประหยัดพลังงานได้สูงสุดประมาณ 68% จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างมาก
  • ความยั่งยืน: ด้วยการประหยัดพลังงานถึง 68% ระบบ 800G จึงช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน
    • ระบบ 800G ถูกใช้งานทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ก็จะสามารถประหยัดพลังงานได้มากกว่าระบบ 400G และจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 215,838 CO2e ต่อปี
    • การลดก๊าซคาร์บอนในปริมาณดังกล่าวคาดว่าจะเทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการชาร์จสมาร์ทโฟน 40 ล้านเครื่อง หรือการเผาไหม้ถ่านหิน 366,923 ปอนด์ต่อปี[1]
    • นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถนำเอาอุปกรณ์ทั่วไปกลับมาใช้ได้เมื่ออัพเกรดเป็นระบบ 800G จึงช่วยลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ได้อีกทางหนึ่ง
  • นวัตกรรมทางสถาปัตยกรรม: ไลน์การ์ดรุ่นใหม่นี้ขับเคลื่อนด้วย Cisco Silicon One P100 ASICs และออปติกแบบเสียบได้ของซิสโก้ และให้ความเร็วในการเชื่อมต่อที่สูงมากสำหรับระบบโมดูลาร์ Cisco 8800 Series โดยคุณสมบัติที่สำคัญมีดังนี้:
    • เทคโนโลยี 100G SerDes ที่ก้าวล้ำช่วยให้ลูกค้าเพิ่มความหนาแน่นของพอร์ต 400G ที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นสองเท่า และเพิ่มความหนาแน่นของพอร์ต 100G ได้ถึง 8 เท่าในฟอร์มแฟคเตอร์เดียวกัน โดยรองรับพอร์ต 72 x 400G และ 288 x 100G ต่อสล็อต
    • ความสามารถในการปรับเพิ่มขนาดไปสู่ 800G เพื่อรองรับความต้องการแทรฟฟิกที่เพิ่มขึ้น โดยใช้แชสซีแบบ 4, 8, 12 และ 18 สล็อต ลูกค้าจะสามารถเพิ่มความจุได้สูงสุด 518 Tbps ด้วยระบบ 800G แบบโมดูลาร์ที่มี 18 สล็อต
    • รูปแบบ Flexible Consumption Model ซึ่งคิดค่าใช้จ่ายตามการเติบโต จะช่วยให้ลูกค้ารองรับการติดตั้งใช้งานที่เหมาะกับอนาคต ด้วยการกำหนดขนาดเครือข่ายที่เหมาะสม การเพิ่มเติมความจุเมื่อเวลาผ่านไปเพื่อให้สอดคล้องกับผลประกอบการของธุรกิจ
    • ออปติกแบบเสียบได้รุ่นใหม่ของซิสโก้ช่วยปกป้องเงินลงทุน เพราะสามารถใช้งานร่วมกับตัวรับส่งสัญญาณแบบเสียบได้ QSFP ที่มีอยู่
  • ความสะดวกในการจัดการ: ด้วยแดชบอร์ดการแสดงผลขั้นสูง การตรวจสอบบริการพร้อมด้วยข้อมูลเชิงลึกที่รองรับการดำเนินการ และการปรับแต่งเครือข่ายแบบวงปิด ลูกค้าจึงสามารถตรวจพบและแก้ไขปัญหาได้เร็วขึ้น
    • ด้วยการปรับปรุงล่าสุดใน Crosswork Network Automation จึงสามารถเพิ่มองค์ประกอบและบริการเครือข่ายได้รวดเร็วขึ้นอย่างมาก
    • ฟีเจอร์ใหม่ IOS XR Path Tracing รองรับการตรวจสอบแบบ hop-by-hop สำหรับเส้นทางของแพ็คเก็ตข้อมูลบนเครือข่าย

การตอบสนองของภาคอุตสาหกรรม:

"จากการวิจัยตลาดที่กว้างขวางและการวิเคราะห์แทรฟฟิก เราคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องของแทรฟฟิกข้อมูลผ่านบริการบนเครือข่ายพื้นฐานและเครือข่ายไร้สาย ซึ่งรวมถึง 5G, บรอดแบนด์, IoT และคลาวด์ แนวโน้มดังกล่าวทำให้เครือข่ายอยู่ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการปรับขนาดไปสู่ 800G ในอนาคตโดยใช้โซลูชันต่างๆ อย่างเช่น Cisco 8000 จะเป็นที่ต้องการ ทั้งยังช่วยให้ผู้ให้บริการและผู้ให้บริการระบบคลาวด์ปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ความยั่งยืน และประสบการณ์สำหรับผู้ใช้" ไซมอน เชอร์ริงตัน ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Analysys Mason

"ภายใต้ความร่วมมือกับซิสโก้ เราแสวงหาแนวทางใหม่ๆ ในการสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่งในตลาด และปรับปรุงผลประกอบการของธุรกิจ โดยอาศัยโครงสร้างพื้นฐานที่คล่องตัวและปลอดภัยในทุกขั้นตอนของเส้นทางการใช้งานเทคโนโลยี ในฐานะผู้ขับเคลื่อนหลักสำหรับวิสัยทัศน์ Vision 2030 ของประเทศ เราต้องมั่นใจว่าเทคโนโลยีของเราอยู่ในระดับแนวหน้าของนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ด้วยนวัตกรรมโมดูลาร์ 800G และ Silicon One P100 บน Cisco 8000 Series เรายังคงมุ่งมั่นที่จะยกระดับการเชื่อมต่อบนคลาวด์และการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มธุรกิจ stc สามารถจัดหาบริการที่มีประสิทธิภาพสูงและต้นทุนต่อบิตที่ต่ำกว่าให้แก่ลูกค้าของเรา" เบเดอร์ ออลฮีบ ฝ่ายโครงสร้างพื้นฐาน stc ของ stc

"Colt มุ่งมั่นสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้แนวคิด ESG By Design ซึ่งครอบคลุมทุกส่วนของธุรกิจ โดยจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องทำงานร่วมกับพันธมิตรที่มีแนวทางการดำเนินงานสอดคล้องกับค่านิยมของเรา และมุ่งมั่นที่จะสร้างโลกที่สะอาดและดีกว่าเดิม นวัตกรรมระบบเราติ้งล่าสุดของซิสโก้แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทในการค้นหาวิธีที่มีประสิทธิภาพสำหรับการขยายขนาดความจุ พร้อมทั้งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งนับเป็นก้าวที่สำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ยั่งยืนสำหรับอนาคต" เคลซี่ ฮอปคินสัน, รองประธานฝ่าย ESG ของ Colt Technology Services

"หลังจากการติดตั้งแบ็คโบน FLRnet4 400G ของ Florida LambdaRail ปัญหาเรื่องพื้นที่ติดตั้งได้กลายเป็นหนึ่งในข้อกังวลหลักของเรา เนื่องจากเราได้ใช้พื้นที่ติดตั้งจนหมดเกลี้ยงแล้วในไซต์หลายแห่งของเรา การผสานรวมความสามารถด้าน Forwarding ที่ดีเยี่ยม ประสิทธิภาพการดำเนินงาน และระบบปฏิบัติการเครือข่าย IOS XR ที่เชื่อถือได้ ทำให้ Cisco 8000 Series เป็นตัวเลือกที่ชัดเจนสำหรับเครือข่ายใหม่ของเรา เรารู้สึกพอใจอย่างมากกับตัวเลือกดังกล่าว เพราะนอกจากจะช่วยให้เรามีเครือข่ายที่ล้ำสมัยแล้ว โซลูชัน Cisco 8000 Series ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และทำให้เรามีงบประมาณเพียงพอสำหรับการขยายเครือข่ายของเราในปีต่อๆ ไป" คริส กริฟฟิน หัวหน้าสถาปนิกเครือข่ายของ Florida LambdaRail

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • อ่านบล็อก: ปรับขนาดอินเทอร์เน็ตสำหรับอนาคตด้วยนวัตกรรม 800G โดย ซาทิช สุรพาเนนี
  • https://blogs.cisco.com/sp/scaling-the-internet-for-the-future-with-800g-innovations Mass-Scale Infrastructure for Core
  • Cisco 8000 Series
  • Cisco Silicon One
  • Cisco Optics
  • Crosswork Network Automation
  • Cisco IOS XR Path Tracing

เกี่ยวกับ ซิสโก้

ซิสโก้ (NASDAQ: CSCO) เป็นผู้นำเทคโนโลยีระดับโลกที่ยกระดับการใช้งานอินเทอร์เน็ต ซิสโก้สร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ จากวิธีการใช้แอปพลิเคชันที่แตกต่างไปจากเดิม การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล การปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน และช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้กับทีมของคุณเพื่อโลกแห่งอนาคต เปิดประสบการณ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบเน็ตเวิร์ก และติดตามข่าวสารของซิสโก้บนทวิตเตอร์ที่ Twitter @Cisco.

.


ข่าวดาต้าเซ็นเตอร์+ประหยัดพลังงานวันนี้

Qualcomm ประกาศความพร้อมก้าวสู่ยุคใหม่ของ AI และดาต้าเซ็นเตอร์ ในงาน Computex 2025 ที่ผ่านมา

ในงาน Computex ที่ผ่านมา Qualcomm ประกาศความร่วมมือกับ Nvidia ว่าเทคโนโลยีNVLINK จะรองรับการเชื่อมต่อระหว่าง CPU แบบ custom ของ Qualcomm กับ GPU ของ Nvidia ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารายใหญ่สามารถสั่งซื้อเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ CPU ประสิทธิภาพสูงและประหยัดพลังงานของเรา พร้อมรองรับซอฟต์แวร์ Cuda ของ Nvidia ซึ่งเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรม คริสเตียโน อามอน (Cristiano Amon) ประธานและซีอีโอของ Qualcomm Incorporated กล่าว "เทคโนโลยี CPU แบบ custom อันล้ำหน้าของ Qualcomm Technologies ร่วมกับแพลตฟอร์ม AI แบบครบวงจรของ

ความริเริ่มโครงการวิจัยและพัฒนานี้ เน้นคว... ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผนึกกำลัง NVIDIA เร่งพัฒนาและติดตั้ง AI Factories รองรับงานสเกลใหญ่ — ความริเริ่มโครงการวิจัยและพัฒนานี้ เน้นความร่วมมือของสองบริษัทใน...