โรคหัวใจ ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นกับผู้ใหญ่เพียงเท่านั้น แต่ในเด็กก็มีโอกาสพบได้เช่นกัน ซึ่งโรคหัวใจในเด็กอาจเกิดขึ้นจากความผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด ดังนั้นผู้ปกครองควรศึกษาและสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับลูกน้อยอย่างใกล้ชิด หากยิ่งรู้เร็วก็มีโอกาสรักษาหายได้
โรคหัวใจในเด็ก สามารถพบในเด็กได้ทุกช่วงวัย ผู้ป่วยเด็กบางรายมีความผิดปกติของหัวใจตั้งแต่เริ่มอยู่ในครรภ์มารดาและบางรายตรวจพบได้ตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งโรคหัวใจในเด็กมีหลายประเภทและมีอาการแตกต่างกัน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
- โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดส่วนใหญ่ยังไม่ทราบสาเหตุ แต่สันนิษฐานว่าเกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรมหรือโครโมโซม
รวมถึงปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ระหว่างตั้งครรภ์ อาทิ ปัญหาสุขภาพ การติดเชื้อ พฤติกรรมการดูแลตนเอง และการได้รับยาหรือสารเคมี ส่งผลให้โครงสร้างของหัวใจและหลอดเลือดมีความผิดปกติ อย่างไรก็ตามสำหรับเด็กที่ป่วยเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดไม่รุนแรง อาการอาจแสดงออกไม่ชัดเจน แต่ในรายที่มีอาการรุนแรงจะมีอาการที่สังเกตได้คือ ลักษณะผิวหนังหรือกล้ามเนื้อมีสีเขียวคล้ำโดยเฉพาะบริเวณปลายมือ ปลายเท้า ริมฝีปาก และใบหน้า
- โรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลังมีสาเหตุและปัจจัยที่แตกต่างกัน ได้แก่
- โรคหัวใจรูมาติคเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ส่วนใหญ่พบในเด็กวัยเรียนอายุ 5 - 15 ปี หากเกิดการติดเชื้อจะทำให้คออักเสบ หรือต่อมทอนซิลอักเสบเป็นหนอง อย่างไรก็ตามโรคนี้สามารถหายขาดได้ แต่หากหัวใจอักเสบรุนแรง อาจทำให้ลิ้นหัวใจเสียหายถาวร
- โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส จนทำให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ ในผู้ป่วยเด็กบางรายที่มีอาการรุนแรงอาจเกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลันได้
- โรคคาวาซากิเกิดจากการอักเสบของเยื่อบุผนังหลอดเลือดและต่อมน้ำเหลือง แม้สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากไวรัส แบคทีเรีย รวมไปถึงปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ที่ไปกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันจนเกิดภาวะผิดปกติ
- โรคหัวใจจากการขาดวิตามินบี 1 (เหน็บชา) เกิดจากภาวะการขาดวิตามินบี 1 ซึ่งอาจทำให้หัวใจเต้นช้าลง
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างไฟฟ้าหัวใจตั้งแต่กำเนิด หรืออาจเกิดภายหลังจากภาวะลิ้นหัวใจรั่ว หากปล่อยไว้นานอาจทำให้หัวใจล้มเหลวได้
สัญญาณเตือนว่าลูกน้อยอาจเป็นโรคหัวใจ
- เหนื่อยหอบง่าย
- หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดจังหวะ
- ดูดนมได้ช้า
- การเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ
- ภาวะตัวเขียว โดยเฉพาะปลายมือ ปลายเท้า ริมฝีปาก
แม้ว่าในปัจจุบันจะยังไม่มีวิธีป้องกันโรคหัวใจในเด็ก แต่เราสามารถป้องกันความเสี่ยงและความรุนแรงได้ ด้วยการตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจ เพื่อดูความผิดปกติของหัวใจและหลอดเลือดของทารกในครรภ์ หากตรวจพบเร็วสามารถรักษาได้ อย่างไรก็ตามสำหรับเด็กที่มีอาการบ่งชี้เสี่ยงโรคหัวใจหลังคลอด ผู้ปกครองควรรีบพามาพบกุมารแพทย์โรคหัวใจ เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมอย่างละเอียดและวางแผนการรักษาต่อไป ทั้งนี้หากปล่อยไว้นาน อาจเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนรุนแรงได้
บทความโดย ผศ.พญ.อิงคนิจ ชลไกรสุวัฒน์ กุมารเวชศาสตร์ ศูนย์หัวใจเด็ก โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล
สสวท. ร่วมกับ สพธอ. เปิดอบรม AI & Digital Ethics for Educators เสริมทักษะครูไทยใช้ AI อย่างปลอดภัยและมีจริยธรรม
XSPRING ผนึกกำลัง ก.ล.ต. - รร.เศรษฐเสถียรฯ สานต่อโครงการ 'Because Sharing is Caring ปี 2'
เริ่มแล้ว ! ค่ายอบรม Fact-Check Thailand 2026 เสริมพลังสังคมสู้ข่าวลวงรายงานข่าวเลือกตั้ง
สคส. เผยเปิดคอร์ส "เรียนฟรี PDPA" คนแห่เข้าเรียนทะลุครึ่งหมื่น ! ย้ำชัด ช่วยปลดล็อกความรู้ ลดเหลื่อมล้ำ รู้เท่าทันภัยไซเบอร์
นักวิชาการมหิดล ยืนยัน! นมไทยคุณภาพระดับสากล แนะคนไทยเลือกดื่มนมอย่างรู้เท่าทัน
สคส. ปลุกเยาวชนยุคโซเชียล "ปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล เริ่มต้นได้จากตัวเรา" ผ่านเวที PDPC SCHOOL TOUR โรงเรียนเซนต์คาเบรียล
"All You Can Check" ชวนดูแลสุขภาพ—รับจังหวะ 11.11 ให้ของขวัญตัวเองด้วยการ "ตรวจ - ปรับ - เปลี่ยน - ติดตาม - ต่อเนื่อง"
รอยยิ้ม Kids Star Model @Huachiew 2025