บมจ. ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ TEGH ติดโผเข้าคำนวณดัชนี sSET ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 (1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม) สะท้อนพื้นฐานแกร่ง มีสภาพคล่องในการซื้อขายสม่ำเสมอ ฟากผู้บริหาร "สินีนุช โกกนุทาภรณ์" เดินหน้าขยายกำลังการผลิต และการปรับปรุงประสิทธิภาพของทั้ง 3 สายธุรกิจหลักสนับสนุนศักยภาพสร้างรายได้เพิ่มต่อเนื่อง
นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH เปิดเผยว่า บริษัทฯได้รับการคัดเลือกเข้าคำนวณดัชนี sSET ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 (1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม) โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ โดย TEGH เป็น 1 ใน 21 บริษัทที่ได้รับคัดเลือกเป็นหลักทรัพย์เข้าใหม่สะท้อนว่าเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายสม่ำเสมอและมีสัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยตามที่กำหนด ซึ่งการเข้าคำนวณดัชนี sSET จะทำให้ TEGH เป็นที่รู้จักของผู้ลงทุนมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนีราคา sSET เป็นดัชนีราคาหุ้นที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นสามัญซึ่งอยู่นอกเหนือดัชนี SET50 และ SET100 ที่มีอยู่เดิม กลุ่มหุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นสามัญที่มีสภาพคล่องในการซื้อขายสม่ำเสมอและมีสัดส่วนผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อย (Free-float) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของทุนชำระแล้วของบริษัท ตรงตามเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้ การทบทวนในครั้งนี้ใช้ข้อมูลระหว่าง 1 มิถุนายน 2565 ถึง 31พฤษภาคม 2566
นางสาวสินีนุช กล่าวอีกว่า สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯได้มีการขยายกำลังการผลิต และการปรับปรุงประสิทธิภาพของทั้ง 3 สายธุรกิจหลัก ได้แก่
1.กลุ่มธุรกิจยางพารา ปลายปีนี้จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยให้มี Labor Productivity ที่ดีขึ้น ในส่วนของสินค้ายางแท่งบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเจรจากับลูกค้าอินเดียและจีน ซึ่งคาดว่าจะทำให้ยอดขายยังคงเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ และในส่วนของสินค้าเกรดมาตรฐานความยั่งยืน Sustainable Product หรือ Eco Product ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า
2.กลุ่มธุรกิจปาล์มน้ำมัน ภายหลังการปรับปรุง ทำให้ผลประกอบการดีขึ้นตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และเมื่อ Boiler ตัวใหม่เริ่มเดินเครื่องภายในไตรมาส 2/2566 จะทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมรองรับช่วงพีคของผลผลิตปาล์มในไตรมาส 3/2566 นี้ และ
3.กลุ่มธุรกิจพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการการอินทรีย์ โครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพ ระยะที่ 1 จะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ในไตรมาส 2/2566 ทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากโครงการนี้ได้เต็มที่ในไตรมาส 3/2566 จากการรับกากอินทรีย์เพิ่มขึ้นอีกวันละ 300 ตัน และผลิตก๊าซชีวภาพได้เพิ่มขึ้นอีกวันละ 30,000 ลูกบาศก์เมตร ล่าสุด บริษัทฯได้มีการลงนาม MOU ซื้อ-ขายก๊าซชีวภาพกับ GGC ไป ซึ่งปัจจุบันก๊าซชีวภาพได้รับความสนใจจากลูกค้าที่ต้องการใช้พลังงานสะอาดเพิ่มขึ้น ซึ่งเฟสที่ขยายเพิ่มเติมนี้ก็มีลูกค้ารองรับเป็นส่วนใหญ่แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพจาก 43 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี เพิ่มขึ้นเป็น 64 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ภายในปี 2566 นี้ พร้อมรองรับความต้องการการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น และยังเป็นพลังงานสะอาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าจากทั้งภายในและนอกกลุ่มบริษัทฯ อีกด้วย ซึ่งเป็นไปตามแผนธุรกิจในการขยายธุรกิจผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์มากขึ้น เพื่อสร้างฐานรายได้ประจำที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ (Recurring Income)
TEGH โชว์ผลงาน Q3/68 ปริมาณขายยางแท่งโตต่อเนื่อง EUDR หนุนดีมานด์กลับมา มั่นใจรายได้ปี 68 แตะระดับสูงสุดใหม่
TEGH จับมือ "กยท." ลงนาม MOU บริหารจัดการผลผลิตยางพารา พร้อมดันไทยสู่ศูนย์กลางอุตสาหกรรมยางในภูมิภาค
กยท. MOU ร่วม บ.ไทยอีสเทิร์น สร้างสมดุลระบบยาง หนุนตลาดรองรับผลผลิตที่เป็นธรรม
TEGHสุดสตรอง! แย้มครึ่งปีหลังโตแกร่ง รับผลดียอดขายยางแท่ง EUDR หนุน เล็งส่งยานลูก TEBP เข้า mai ปีนี้ ตั้งเป้ารายได้ปี 68 แตะ 22,000 ล้านบาท
TEGH ฟอร์มแรง! Q2/68 รายได้โตกระฉูด 72.1% ยาง-ปาล์ม-พลังงาน ขับเคลื่อน กำไรพุ่ง 109.8% รายได้รวมครึ่งปีแรกเกิน 50% จากเป้า 22,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าดัน TEBP เข้า mai
TEGH ผงาด! ติดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 ปี 2025 เป็นครั้งแรก สะท้อนศักยภาพการเติบโตอย่างมั่นคง บนพื้นฐานความยั่งยืนและความรับผิดชอบ
TEGH สุดปัง! ขึ้นทำเนียบ EGS100 ปีแรก ตอกย้ำกลยุทธ์เติบโตอย่างยั่งยืน เสริมศักยภาพแข่งขันในตลาดโลก สร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว
TEGH ออร่าจับ! ขายยาง EUDR ได้ตามเป้า-ปาล์มฟื้น-พลังงานโต ดันผลงานปี 68 โตสวย เดินหน้าส่งบริษัทลูก "TEBP" เข้าตลาด mai ปีนี้
TEGH โชว์รายได้ Q1/68 แตะ 5,667 ลบ. กำไรสุทธิ 176 ลบ. ธุรกิจยางธรรมชาติ ผลงานสวยลุยเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจปาล์ม สายธุรกิจพลังงานเติบโตโดดเด่น