ไบเออร์ประกาศถึงแผนการดำเนินธุรกิจแผนกครอปซายน์ ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพในระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูป (regenerative agriculture) ช่วยสนับสนุนการเติบโตในตลาดใกล้เคียง นอกเหนือจากธุรกิจหลักด้านเมล็ดพันธุ์ คุณลักษณะพันธุ์พืช ผลิตภัณฑ์อารักขาพืช และดิจิทัล โดยในการประชุมสุดยอดนวัตกรรม 2566 ของไบเออร์ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 ณ เมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา บริษัทได้กำหนดกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการที่มีศักยภาพในการเติบโต อาทิ ผลิตภัณฑ์เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของพืชผล ผลิตภัณฑ์ทางชีวภาพ เชื้อเพลิงชีวภาพ ฟาร์มคาร์บอน บริการแอปพลิเคชันที่แม่นยำ ตลอดจนแพลตฟอร์มดิจิทัลและตลาดซื้อขายบนออนไลน์ ทั้งหมดนี้จะตอบโจทย์ความต้องการด้านการเกษตร บริษัทคาดการณ์โดยภาพรวมว่าธุรกิจจะมีมูลค่าสูงกว่า 1 แสนล้านยูโรต่อปีในตลาดใกล้เคียง ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจมีศักยภาพการเติบโตในตลาดเพิ่มขึ้นสองเท่า จากในปัจจุบันมีมูลค่าตลาดสูงกว่า 1 แสนล้านยูโรสำหรับแต่ละหน่วยธุรกิจหลัก นอกจากนั้น ภายในช่วงกลางทศวรรษหน้า ไบเออร์มีแผนจะสร้างระบบการเกษตรปฏิรูปบนพื้นที่มากกว่า 400 ล้านเอเคอร์ โดยสร้างขึ้นจากผลิตภัณฑ์และบริการชั้นนำของไบเออร์
ภายในการประชุมสุดยอดนวัตกรรม 2566 จัดขึ้นที่นิวยอร์ก ได้มีการจัดแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการผสมผสานการวิจัยและพัฒนาด้านเมล็ดพันธุ์ คุณลักษณะพันธุ์พืช และผลิตภัณฑ์อารักขาพืช โดยเป็นการผนวกผลิตภัณฑ์และบริการแบบระบบองค์รวม ซึ่งนับเป็นจุดแข็งของบริษัทในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการ นอกจากนี้ยังสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในระยะยาวจากการผลักดันแผนการเติบโตเพื่อขับเคลื่อนระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูป
"เรากำลังทำให้เห็นถึงบทบาทของเราที่กว้างขึ้นในภาคการเกษตร ด้วยสุดยอดรูปแบบนวัตกรรมในอุตสาหกรรมและตำแหน่งผู้นำด้านเมล็ดพันธุ์ คุณลักษณะพันธุ์พืช และผลิตภัณฑ์อารักขาพืช ไบเออร์จึงมุ่งมั่นส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของเกษตรกรทั้งในด้านความมั่นคงทางอาหารและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง" Rodrigo Santos ประธานแผนกครอปซายน์และสมาชิกคณะกรรมการบริหารของไบเออร์ เอจีกล่าว "สำหรับไบเออร์ ระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูปเป็นการเพิ่มผลผลิตทางอาหารและผลประกอบการจากการทำการเกษตร ตลอดจนการบรรเทาปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง พร้อมไปกับการฟื้นฟูธรรมชาติ และเราจะส่งมอบนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่มุ่งเน้นระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูปเป็นหลัก นอกจากนั้นเรามองหาโอกาสในตลาดใหม่ๆ เพื่อช่วยให้เกษตรกรได้รับประโยชน์ทั้งด้านผลผลิต ผลประกอบการ และความยั่งยืน"
มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์และบริการที่ส่งเสริมระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูป
เกษตรกรทั่วโลกจะเข้าถึงนวัตกรรมชั้นนำที่ไม่เพียงช่วยเพิ่มผลผลิต แต่ยังจะช่วยฟื้นฟูดินและลดผลกระทบด้านสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นจากการทำการเกษตร โดยสามารถปรับให้เหมาะสมตามลักษณะของพืชได้ สำหรับพื้นที่การเกษตรในอนาคต ข้อมูลที่ได้จากพื้นที่ทำการเกษตรและปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้น จะมีความสำคัญต่อเกษตรกร เทียบเท่ากับ ปริมาณผลผลิตที่เกษตรกรผลิตได้ในแต่ละพื้นที่ ในอนาคตข้างหน้า ไบเออร์จะมุ่งเน้นการลงทุนในผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นรากฐานสำคัญสำหรับระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูปซึ่งรวมถึงผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ความเป็นอยู่ที่ดีทางสังคมและเศรษฐกิจของเกษตรกรและชุมชน การอนุรักษ์น้ำ การบรรเทาปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง สภาพดินที่ดีขึ้น ตลอดจนการอนุรักษ์และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ
ดังนั้นธุรกิจหลักของไบเออร์ ที่มีผลิตภัณฑ์อารักขาพืช เมล็ดพันธุ์ คุณลักษณะพันธุ์พืช และผลิตภัณฑ์ด้านดิจิทัลจะมีตำแหน่งทางการตลาดที่ดีที่สุดในการเติบโตและจะผลักดันการเติบโตที่สำคัญในทุกๆ ปี บริษัทกำลังลงทุนเพื่อเร่งส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการตามความต้องการของเกษตรกร เทคโนโลยีสู่การเปลี่ยนแปลงในระยะท้ายจะถูกรวมเข้าด้วยกันกับการปรับปรุงเมล็ดพันธุ์ทั่วโลก รวมถึงการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์และสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี
การดำเนินธุรกิจสู่แนวหน้าในอุตสาหกรรมจะนำมาซึ่งการปฏิรูปด้านการเกษตร
ในปี 2565 เราได้ดำเนินการ 15 โครงการด้านการเกษตร ได้แก่สารสำคัญในผลิตภัณฑ์อารักขาพืช คุณลักษณะพันธุ์พืช และโมเดลดิจิทัลใหม่ๆ ซึ่งไบเออร์ได้มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการในธุรกิจเมล็ดพันธุ์จนได้ผลิตภัณฑ์เชิงผสมผสานและเชิงประยุกต์ทางความหลากหลายใหม่ๆ 500 รายการ รวมถึงได้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการในธุรกิจผลิตภัณฑ์อารักขาพืช จนเปิดตัวสูตรผลิตภัณฑ์ใหม่ 10 สูตรและขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 250 รายการ การลงทุนในการวิจัยและพัฒนามูลค่า 2.6 พันล้านยูโรก่อนเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการพิเศษในปี 2565 ยังคงดำเนินต่อไปตามแผนดำเนินธุรกิจที่คาดว่าจะมียอดขายโดยประมาณกว่า 3 หมื่นล้านยูโร โดยครึ่งหนึ่งของยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาจากผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่
"วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนนำมาซึ่งการลงทุนแบบก้าวหน้า เป็นการลงทุนในแพลตฟอร์มนวัตกรรมทั้งหมด 5 ด้านของเรา ได้แก่ การปรับปรุงพันธุ์ เทคโนโลยีชีวภาพ เคมี ชีวภาพ และวิทยาการข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ แต่ละแพลตฟอร์มมีการผสานรวมนวัตกรรมเหล่านี้เพื่อช่วยให้เราสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นระบบเพื่อแก้ปัญหาความท้าทายที่เร่งด่วนที่สุดของพวกเรา" Dr. Robert Reiter หัวหน้าส่วนงานการวิจัยและพัฒนา แผนกครอปซายน์ของไบเออร์กล่าว "เกษตรกรต้องการพันธุ์พืชที่ดีที่สุดพร้อมด้วยลักษณะสายพันธุ์ที่ดีที่สุด รวมถึงต้องการโปรแกรมเพื่อการเพาะปลูกที่มีการอ้างอิงจากข้อมูล เพื่อให้สามารถวางแผนเรื่องเวลาและสถานที่ในการเพาะปลูกได้ นอกจากนี้ เกษตรกรต้องการผลิตภัณฑ์โมเลกุลเล็กเพื่อปกป้องรักษาพืชที่สร้างผลกระทบน้อยควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์และบริการทางชีวภาพสำหรับระยะปลายของฤดูเพาะปลูก รวมทั้งแอปพลิเคชันที่แม่นยำเพื่อปกป้องพืชผลของพวกเขาได้อย่างยั่งยืน เรามีผลงานเชิงลึกและผลงานที่เราภูมิใจเกี่ยวกับความสำเร็จในการเปลี่ยนรูปแบบนวัตกรรมเหล่านี้ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ได้จริงและมีมูลค่าสำหรับเกษตรกร"
การดำเนินด้านวิจัยและพัฒนาของไบเออร์ประกอบด้วยเทคโนโลยีที่น่าสนใจใหม่ๆ ดังนี้
รูปแบบนวัตกรรมต่างๆ ของไบเออร์จะขับเคลื่อนวิวัฒนาการทางการเกษตรโดยการจัดหาเครื่องมือ เทคโนโลยี และทางเลือกต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูปในอนาคตให้กับเกษตรกร ผลิตภัณฑ์เพื่อสายพันธุ์ของเมล็ดพันธุ์ที่มีความแม่นยำจะช่วยเร่งให้ได้มาซึ่งสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตตามลักษณะทางพันธุกรรมที่สำคัญ และจะเป็นการอารักขาพืชด้วยลักษณะพันธุ์ที่เปลี่ยนรูปแบบการจัดการ ซึ่งช่วยให้การทำฟาร์มแบบไม่ไถพรวนสามารถปรับปรุงสภาพดินได้ ไบเออร์จะสร้างอนาคตแห่งระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูป โดยการผสมผสานระหว่างโมเลกุลขนาดเล็กเชิงนวัตกรรมกับผลิตภัณฑ์และบริการทางชีวภาพที่ช่วยปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพและลดปัญหาสารตกค้าง รวมถึงการตรวจสอบการปรับปรุงดินผ่านเครื่องมือดิจิทัลและเทคโนโลยี
ไบเออร์กับการขยายไปสู่ตลาดเกษตรกรรมใกล้เคียงที่เข้าถึงได้แห่งใหม่
นอกเหนือจากธุรกิจหลักเหล่านี้แล้ว ไบเออร์ยังมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจไปยังโอกาสทางการตลาดใหม่ ดังนี้
Rodrigo Santos กล่าวเสริมว่า "ไบเออร์อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่จะผลักดันการเป็นผู้นำในระบบเกษตรกรรมเชิงปฏิรูป เนื่องจากเราให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เป้าหมายของเราคือการเปลี่ยนแปลงระบบเกษตรกรรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ยั่งยืนขึ้น และมีผลกระทบเชิงบวกสุทธิต่อสิ่งแวดล้อม"
บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจค้าส่งค้าปลีก 'แม็คโคร-โลตัส' เดินหน้าสนับสนุนเกษตรกรไทย ผ่านการรับซื้อปลากะพงคุณภาพจากแหล่งผลิตท้องถิ่นรวมกว่า 2.4 ล้านกิโลกรัม ตลอดทั้งปี เพื่อจำหน่ายที่แม็คโครทั่วประเทศ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ ซีพี แอ็กซ์ตร้า ในการสนับสนุนการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน ล่าสุด ซีพี แอ็กซ์ตร้า ได้ร่วมมือกับ กรมการค้าภายใน (DIT) ศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร (AFC) หอการค้าไทย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เยี่ยมชม
เมอร์เคิล แคปปิตอล แนะจับตาไตรมาส 3 สินทรัพย์ดิจิทัลรอฟื้นตัวจากสัญญาณลดดอกเบี้ย
—
เมอร์เคิล แคปปิตอล จัดสัมมนาพิเศษ "FED คงดอกเบี้ยตลอดครึ่งปีแรก เมื่อไห...
SME D Bank ทุ่ม 3,500 ลบ. จัด 2 สินเชื่อใหม่ เสริมแกร่งเอสเอ็มอี มีทุนสำรองหมุนเวียนใช้จ่าย ยืนหยัดและปรับตัวได้ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว
—
SME D Bank เคียงข้...
"MOSHI" คว้ารางวัลระดับโลก การันตีการเป็นบริษัทค้าปลีกที่ดีที่สุด จากนิตยสาร FinanceAsia ตอกย้ำศักยภาพดำเนินธุรกิจ
—
บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จ...
M Group ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ขับเคลื่อนสู่ยุคใหม่ของนวัตกรรม ความยั่งยืน และการแข่งขันระดับโลก
—
บริษัท M Group Holding (Thailand) หนึ่งในกล...
บี.กริม ร่วมมือ ศศินทร์ พัฒนาผู้บริหารรับมือโลกที่เปลี่ยนแปลงด้วยทักษะยุคใหม่และความโอบอ้อมอารี
—
บี.กริม เพาเวอร์ ผนึกความร่วมมือกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุ...
บมจ. เงินติดล้อ ติดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 สะท้อนการเติบโตอย่างมั่นคง และความแข็งแกร่ง ของโครงสร้างธุรกิจในรูปแบบ Holding Company
—
บริษัท เงินต...
ซีพีประกาศจุดยืน "องค์กรแห่งความหลากหลาย" เดินหน้ายกระดับนโยบาย DEI และสิทธิมนุษยชน สู่การเติบโตอย่างยั่งยืนตามมาตรฐานสากล
—
เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group)...
เลอโนโวเปิดตัวโซลูชันจัดเก็บข้อมูลรุ่นใหม่ ยกระดับประสิทธิภาพระบบ IT ให้ทันสมัย พร้อมรับมือความท้าทายในยุค AI
—
เลอโนโวเปิดตัวโซลูชันจัดเก็บข้อมูลรุ่นใหม่...
กรุงศรี จับมือ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เดินหน้าสู่อนาคตพลังงานยั่งยืนในไทย หนุนภาคธุรกิจลดคาร์บอนผ่านนวัตกรรม และโซลูชันการเงิน
—
กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา...