'บมจ. เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล' หรือ HENG หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ของประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ 'เฮงลิสซิ่ง' เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท เติบโต 144% YoY จากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการบริหารและการดำเนินงาน และการมุ่งลดต้นทุนทางการเงิน สะท้อนความสำเร็จในการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ส่งผลให้ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 65 ล้านบาท เติบโต 1,180% YoY เดินหน้าขยายพอร์ตสินเชื่อเกษตร ปรับกลยุทธ์มุ่งคุมคุณภาพเพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาว

นายวิชัย ศุภสาธิตกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ของประเทศไทยภายใต้แบรนด์ 'เฮงลิสซิ่ง' เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568 (เมษายน - มิถุนายน) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 144% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโต มาจากการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายอย่างมีวินัยในทุกมิติ ผ่านการลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างจริงจัง ปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในให้กระชับ รวมทั้งลดต้นทุนทางการเงิน ด้วยนำกระแสเงินสดที่ได้จากการชะลอการปล่อยสินเชื่อใหม่ไปชำระคืนหนี้เงินกู้ ทำให้ภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลง ประกอบกับการที่ทีมบริหารหนี้สามารถติดตามและจัดเก็บหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิต (ECL) ลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้บริษัทฯ มีกำไรสุทธิในงวดครึ่งปีแรก (มกราคม - มิถุนายน) ของปี 2568 อยู่ที่ 65 ล้านบาท เติบโต 1,180% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (YoY) สะท้อนผลการดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ และมุ่งสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว
ทั้งนี้ จากการมุ่งเน้นคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อใหม่ และควบคุมคุณภาพพอร์ต และการปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ ทำให้รายได้รวมปรับตัวลดลงตามขนาดพอร์ตสินเชื่อที่ลดลง ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากความตั้งใจของบริษัทฯ ที่จะชะลอการเติบโตเชิงปริมาณ และหันมาคัดกรองคุณภาพลูกหนี้อย่างเข้มงวด ด้วยการยกระดับกระบวนการพิจารณาสินเชื่อ (Double KYC) เพื่อให้ได้มาซึ่งลูกหนี้คุณภาพดีและลดความเสี่ยงในระยะยาว นอกจากนี้ จากการควบคุมคุณภาพลูกหนี้อย่างเข้มข้น รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และการบริหารจัดการสินทรัพย์รอการขายที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ลดลง เนื่องจากจำนวนรถยึดน้อยลงและราคาขายต่อของรถมือสองไม่ลดลงรุนแรงเท่าปีก่อน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมุ่งแสวงหาการเติบโตผ่านโอกาสใหม่ ๆ ควบคู่กับการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์ปรับพอร์ตสู่ความยั่งยืน ผ่านการมุ่งผลักดันสินเชื่อเกษตรเป็นเรือธงใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว โดยบริษัทฯ ได้เดินหน้าขยายพอร์ต "สินเชื่อเพื่อการเกษตร" อย่างเต็มกำลัง เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพและมีโอกาสขยายตัว โดยสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อใหม่ในกลุ่มนี้ ในครึ่งปีแรกของปี 2567 อยู่ที่ 52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 135% มาอยู่ที่ระดับ 122 ล้านบาท ในครึ่งปีปัจจุบัน ทำให้รายได้จากสินเชื่อเพื่อการเกษตรเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งบริษัทฯ จะยังคงมุ่งเน้นการเติบโตในตลาดนี้อย่างต่อเนื่องในครึ่งปีหลัง
"ผลประกอบการในไตรมาสนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ความสำเร็จของกลยุทธ์ที่เราได้วางไว้ HENG ตัดสินใจที่จะไม่เน้นการเติบโตของขนาดพอร์ตสินเชื่อในระยะสั้น แต่หันมาให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งจากภายใน ผ่านการควบคุมคุณภาพสินทรัพย์อย่างเข้มข้นและการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีวินัย การที่กำไรของเรายังคงเติบโตได้ดี แสดงให้เห็นว่าเรามาถูกทางแล้ว การปรับตัวในครั้งนี้จะสร้างรากฐานที่มั่นคงให้บริษัทฯ สามารถกลับมาเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนกว่าเดิม โดยมีสินเชื่อเพื่อการเกษตรเป็นหัวหอกสำคัญในอนาคต" นายวิชัย กล่าว