ไทยยูเนี่ยนจัดเต็ม โชว์ GPM สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 19.7% ดัน EPS เติบโต 18% ไตรมาส 2

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

เคาะจ่ายปันผลครึ่งปี 0.35 บาท/หุ้น พร้อมประกาศผนึกกำลังสองบิ๊กคอร์ป TU x มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น มั่นใจสามารถสร้างการเติบโตอุตสาหกรรมอาหารทะเลระดับโลกอย่างยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนจัดเต็ม โชว์ GPM สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 19.7% ดัน EPS เติบโต 18% ไตรมาส 2

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ประกาศผลประกอบการไตรมาสสองด้วยยอดขายรวมกว่า 33,389 ล้านบาท กำไรสุทธิปรับปรุงอยู่ที่ 1,506 ล้านบาท (ไม่รวม transformation costs) เพิ่มขึ้น 13.2 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน สะท้อนความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจและการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับแรงหนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงเป็นประวัติการณ์ และการบริหารต้นทุนอย่างมีวินัย ดันกำไรสุทธิต่อหุ้นเติบโต 18 เปอร์เซนต์ โดยบริษัทฯ ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในอัตรา 0.35 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราการจ่ายปันผลที่ 59 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ บริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ตอกย้ำทิศทางการดำเนินกลยุทธ์ในระยะยาวของไทยยูเนี่ยน ในฐานะผู้นำโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและโภชนาการเพื่อ สุขภาพจากท้องทะเล

ทั้งนี้ การที่บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 19.7 เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาส 2 นั้นได้ปัจจัยสนับสนุนจากการบริหารพอร์ตผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพ และต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ในขณะที่กำไร สุทธิตามที่ประกาศอยู่ที่ 1,273 ล้านบาท

สำหรับครึ่งแรกของปี 2568 กำไรสุทธิตามที่ปรับปรุงเพิ่มขึ้น 11.2 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 2,823 ล้านบาท และกำไรสุทธิตามที่ประกาศอยู่ที่ 2,292 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นในครึ่งปีแรกอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 19.3 เปอร์เซ็นต์

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจโลก และการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โปรเจกต์ทรานส์ฟอร์มเมชั่นของเรากำลังแสดงผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม เราได้ปรับเปลี่ยนองค์กรให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การมุ่งเน้นเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจหลักของเรา ช่วยสร้างการเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้นได้อย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการสร้างองค์กรที่แข็งแกร่งเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับอนาคตที่คาดเดาได้ยาก"

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาสสอง พบว่ายอดขายขยายตัวลดลง 0.7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อน จากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน 4.7 เปอร์เซ็นต์ และการชะลอตัวของยอดขายผลิตภัณฑ์แช่แข็งในสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ยอดขายในกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป อาหารสัตว์ และกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง นั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป มียอดขายรวม 16,597 ล้านบาท และปริมาณการขายยังคงทรงตัว อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้น 22 เปอร์เซ็นต์ จากราคาวัตถุดิบปลาที่ลดลง และความสำเร็จจากแคมเปญส่งเสริมการตลาดของแบรนด์ต่าง ๆ ของบริษัท

ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็ง มียอดขายรวม 10,034 ล้านบาท สืบเนื่องจากความต้องการกุ้งในตลาดสหรัฐฯ ที่ลดลง อย่างไรก็ดี กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์ยังคงสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นได้ในระดับที่น่าพอใจที่ 11.7 เปอร์เซ็นต์ ส่วนกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง มียอดขายรวม 4,387 ล้านบาท โดยปริมาณการขายเติบโต 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อน จากความต้องการของลูกค้ารายสำคัญในสหรัฐฯ อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ในระดับที่ดีที่ 25.6 เปอร์เซ็นต์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่า มียอดขายรวม 2,371 ล้านบาท โดยอัตรากำไรขั้นต้นยังคงความแข็งแกร่งที่ 26.3 เปอร์เซ็นต์ จากอัตรากำไรที่สูงขึ้นในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์ที่มาจากการสร้างมูลค่าเพิ่มให้วัตถุดิบเหลือใช้จากการผลิต

ส่วนกรณีที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยในอัตรา 19 เปอร์เซ็นต์ สำหรับสินค้าที่จัดส่งหลังวันที่ 7 สิงหาคม บริษัทได้เตรียมมาตรการรับมือภาษีดังกล่าว โดยมุ่งใช้ประโยชน์จากเครือข่ายการผลิตที่กระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งครอบคลุมฐานการผลิตใน 14 ประเทศ รวมทั้งสหรัฐอเมริกา เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของห่วงโซ่การผลิต และลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากมาตรการทางภาษี ซึ่งโรงงานของไทยยูเนี่ยนในประเทศไทย กานา และเซเชลส์ นั้นได้รับอัตราภาษีนำเข้าสินค้าไปยังสหรัฐฯ 19, 15 และ 10 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ทำให้มีความ สามารถในการแข่งขันที่ทัดเทียมหรือเหนือกว่าผู้ส่งออกรายใหญ่อื่น ๆ เช่น อินโดนีเซีย (19 เปอร์เซ็นต์) และ เวียดนาม (20 เปอร์เซ็นต์)

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 บริษัทฯ ยังได้ดำเนินโครงการซื้อหุ้นคืนเป็นครั้งที่ 4 เสร็จสมบูรณ์ โดยซื้อคืนหุ้นคิดเป็น 8.98 เปอร์เซ็นต์ของทุนชำระแล้ว สะท้อนเจตนารมณ์ของบริษัทในการสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว
นอกจากนี้ สองผู้นำอุตสาหกรรมอาหารระดับโลก TU และ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ได้มีการเข้าลงนามในสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ ซึ่งเป็นการต่อยอดความร่วมมือที่เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2534 เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรม ความยั่งยืน และความเป็นเลิศในระดับโลก ภายใต้สัญญาความร่วมมือดังกล่าว มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่นจะเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน TU จาก 6.19 เปอร์เซ็นต์ เป็น 20 เปอร์เซ็นต์ (ไม่นับรวมหุ้นซื้อคืน) ผ่านการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั่วไป

นายธีรพงศ์ กล่าวว่า "การจับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระหว่างไทยยูเนี่ยนและมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น ตั้งอยู่บนรากฐานของความไว้วางใจที่สั่งสมมายาวนานหลายทศวรรษ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งทางธุรกิจและวิสัยทัศน์ร่วมกันของทั้งสองบริษัท ในการขับเคลื่อนอนาคตของอุตสาหกรรมอาหารทะเลของโลก เราจะร่วมกันเร่งสร้างการเติบโต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืนให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลก เราเชื่อว่าความร่วมมือครั้งนี้จะสามารถสร้างคุณค่าให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย และตอกย้ำสถานะของไทยยูเนี่ยนในฐานะผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมอาหารทะเล"

ทั้งนี้ การจับมือเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของไทยยูเนี่ยน โดย
มิตซูบิชิยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่สี่ มีตัวแทนนั่งในคณะกรรมการบริษัทตามเดิม และไม่มีผลต่อโครงสร้างทีมผู้บริหารระดับสูงของไทยยูเนี่ยน

สำหรับการประสานความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยขับเคลื่อนใน 3 ปัจจัยหลัก คือ

  • การคว้าโอกาสในการสร้างการเติบโตจากความต้องการอาหารทะเลและโซลูชันด้านโภชนาการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก การผสานจุดแข็งของไทยยูเนี่ยนในฐานะผู้ผลิตอาหารทะเลแปรรูประดับโลก เข้ากับเครือข่ายการจัดหาและกระจายสินค้าที่แข็งแกร่งของมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงวัตถุดิบในต้นทุนที่แข่งขันได้ และเสริมความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน
  • สร้างการเติบโตอย่างเป็นรูปธรรมในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่ตลาดมีความต้องการสูง รวมทั้งการต่อยอดธุรกิจที่มีศักยภาพสูง เช่น อาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งล้วนสอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
  • ร่วมกันผลักดันเป้าหมายด้านความยั่งยืน ด้วยการประสานกลยุทธ์ SeaChange(R) 2030 ของไทยยูเนี่ยน เข้ากับมาตรฐานด้านความยั่งยืนระดับโลกของมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น เพื่อขับเคลื่อนความสำเร็จร่วมกัน ทั้งในด้านการจัดหาวัตถุดิบอย่างมีความรับผิดชอบ สวัสดิภาพแรงงาน และการรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อผู้คนและโลก

ข่าวมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น+ผลประกอบการไตรมาสวันนี้

"เอ็มซี ดิจิทัล เรียลตี้" เปิดตัวศูนย์ข้อมูลแห่งที่สี่ในโอซาก้า

ศูนย์ข้อมูลแบบเสรีแห่งนี้มอบความสามารถด้านไอทีสูงถึง 70 เมกะวัตต์ และการเชื่อมต่อทั่วโลกไปยังชุมชนข้อมูลที่ไม่หยุดนิ่งผ่าน PlatformDIGITALTM เอ็มซี ดิจิทัล เรียลตี้ (MC Digital Realty) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนแบบ 50/50 ระหว่างมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น (Mitsubishi Corporation) กับดิจิทัล เรียลตี้ (Digital Realty) เพื่อให้บริการโซลูชันศูนย์ข้อมูลเต็มรูปแบบในญี่ปุ่น ประกาศเปิดตัวศูนย์ข้อมูลแห่งที่สี่ "KIX13" อย่างเป็นทางการในวิทยาเขตศูนย์ข้อมูลโอซาก้าซึ่งมีพื้นที่รวม 23,000 ตารางเมตร อาคารสามชั้นที่

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำก... มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ประกาศแต่งตั้ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ — บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศแต่งตั้ง มร. เออิอิชิ โคอิโตะ ขึ้นดำร...

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประกาศให้... มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในสุลาเวสี — มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประกาศให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นเงินจำนวน 1 พันล้า...

“ดิจิทัล เรียลตี้” จับมือ “มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น” ตั้งบริษัทร่วมทุนในญี่ปุ่น

บริษัทร่วมทุนแห่งใหม่จะผสานชื่อเสียงระดับโลกและความเชี่ยวชาญด้านงานองค์กรในประเทศของมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น เข้ากับแพลตฟอร์มศูนย์ข้อมูลระดับโลกและประวัติการดำเนินงานแถวหน้าในอุตสาหกรรมของดิจิทัล เรียลตี้ ดิจิทัล เรียลตี้ ...

บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด แต่งตั้ง ... “ปนัดดา เจณณวาสิน” ผู้หญิงเปลี่ยนโลกค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น — บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด แต่งตั้ง "ปนัดดา เจณณวาสิน" ขึ้นนั่งแท่น "กรรมการรองผู้จัดการ" (E...

โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ท พัทยา ประกาศแต่งตั้งผู้จัดการแผนกจัดซื้อ

มร.อังเดร บลูฮาร์ท ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์มิราจบีชรีสอร์ท พัทยา ประกาศแต่งตั้ง ฉัฐสินี โชติช่วง เป็นผู้จัดการแผนกจัดซื้อ ของโรงแรม ตั้งแต่ 21 พฤษภาคม 2555 เป็นต้นไป ฉัฐสินี จบการศึกษาระดับปริญญาโท...

เจ็ทสตาร์ เจแปนเปิดตัวพันธมิตรทางธุรกิจใหม่

ต้อนรับเซ็นจูรี่ โตเกียว ลีสซิ่ง คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้ถือหุ้นรายที่ 4 เซ็นจูรี่ โตเกียว ลีสซิ่ง คอร์ปอเรชั่น เตรียมรับซื้อหุ้นจากมิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น การผนึกกำลังร่วมกันครั้งนี้ทำให้เจ็ทสตาร์ เจแปนสร้างสรรค์บริการใหม่สุดล้ำเพื่อมอบความคุ้มค่าเพิ่มขึ้นให้...

ภาพข่าว: ทียูเอฟ จัดประชุมใหญ่กรรมการบริษัท ประจำปี 2554

นายไกรสร จันศิริ ประธานกรรมการ บมจ. ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จัดประชุมคณะกรรมการของบริษัทเพื่อพิจารณาผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา พร้อมกับวางแนวทางการบริหารการจัดการธุรกิจในอนาคต โดยมีนายยาซูโอะ โกโต้ ประธานกรรมการบริหารและประธาน...