EXIM BANK ร่วมกับหอการค้ากัมพูชาส่งเสริมการค้าการลงทุนไทย-กัมพูชา ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

07 Feb 2024

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) และหอการค้ากัมพูชา (The Cambodia Chamber of Commerce : CCC) โดยมี ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK และเนก โอคนา คิท เม้ง (Neak Oknha. Kith Meng) ประธานหอการค้ากัมพูชา เป็นผู้ลงนาม โดยทั้งสองหน่วยงานจะแลกเปลี่ยนข้อมูลและบริการด้านข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน และการพัฒนาอุตสาหกรรม ตลอดจนกิจกรรมอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจผ่านช่องทางและเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนไทย-กัมพูชาและขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ณ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567

EXIM BANK ร่วมกับหอการค้ากัมพูชาส่งเสริมการค้าการลงทุนไทย-กัมพูชา ขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

การค้าระหว่างกัมพูชาและไทยมีมูลค่าสูงกว่า 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยเป็นคู่ค้าสำคัญของกัมพูชา นอกเหนือจากจีน สหรัฐฯ และเวียดนาม การส่งออกของไทยไปกัมพูชาในปี 2566 มีมูลค่า 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้าของไทยจากกัมพูชามีมูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กัมพูชาเป็นจุดหมายปลายทางการลงทุนที่สำคัญของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs เป็นผลมาจากนโยบายเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนจากต่างประเทศ ธุรกิจของไทยที่ดำเนินการในกัมพูชาครอบคลุมหลายภาคส่วน อาทิ อุตสาหกรรมเกษตร การผลิต ก่อสร้าง สื่อ การให้บริการสุขภาพ รวมทั้งภาคบริการต่าง ๆ นับตั้งแต่การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบาย Living with COVID-19 ในช่วงปลายปี 2564 ส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมของกัมพูชากลับมาขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ เห็นได้จากตัวเลข GDP ปี 2565 เติบโตกว่า 5% ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวเช่นเดียวกับปี 2566 ที่คาดว่า GDP จะเติบโตสูงในระดับกว่า 5% ทั้งนี้ EXIM BANK จะร่วมมือกับหอการค้ากัมพูชาในการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการไทยและกัมพูชา เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้แก่ผู้ประกอบการไทย

EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง มุ่งสู่เป้าหมาย "Green Development Bank" ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยในเวทีโลกในระยะยาว ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ และขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศไทยและกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ของไทย EXIM BANK ได้จัดตั้งสำนักงานผู้แทนใน CLMV ครบถ้วนทั้ง 4 ประเทศแล้ว โดยสำนักงานผู้แทนของ EXIM BANK ในกรุงพนมเปญเปิดดำเนินงานอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2562 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมประเทศไทย ทำงานร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนไทย-กัมพูชา

"ความร่วมมือระหว่างไทยกับกัมพูชาในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศอย่างไร้รอยต่อและเข้มข้นมากขึ้น โดยมีหมุดหมายเดียวกันที่จะเพิ่มมูลค่าการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การพัฒนาพื้นที่ชายแดน เศรษฐกิจสีเขียว และเศรษฐกิจดิจิทัล ที่จะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนตั้งแต่เศรษฐกิจฐานรากในชุมชนไปจนถึงระดับประเทศและโลกโดยรวม" ดร.รักษ์ กล่าว