"งีบหลับ"... กี่นาที ดีต่อสมองและร่างกาย

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

"งีบหลับ"... กี่นาที ดีต่อสมองและร่างกาย

"งีบหลับ"... กี่นาที ดีต่อสมองและร่างกาย

ใครเคยเป็นบ้างนอนเท่าไหร่ก็ยังง่วง นอนครบ 8 ชั่วโมงก็แล้ว นอนเร็วก็แล้วไม่ได้นอนดึกเลย ทั้งๆ ที่ก็นอนเต็มอิ่ม แต่ทำไมยังรู้สึกง่วงไม่สดชื่น ยิ่งช่วงกลางวันหลังจากที่ได้ทานอาหารเที่ยงไปแล้วยิ่งง่วง.. "งีบหลับ"... กี่นาที ดีต่อสมองและร่างกาย

ซึ่งหลายคนพยายามต่อสู้กับความง่วง ปลุกตัวเองให้ตื่นด้วยวิธีต่างๆ เช่น ดื่มกาแฟ ดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง ล้างหน้าล้างตา หรือลุกเดินเปลี่ยนอิริยาบถท่าทาง ฯลฯ เพื่อสลัดเจ้าความง่วงออกไปแต่เชื่อหรือไม่ว่า ถ้าคุณรู้สึกง่วงมาก การได้ "งีบหลับ" ถือเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ร่างกายกลับมาสดชื่นสามารถทำงานต่อได้ตลอดบ่ายจนถึงเลิกงานเลย แต่หากจะให้ได้ผลดีการงีบหลับก็ต้องอยู่ในระยะเวลาที่เหมาะสมด้วย...

การงีบหลับดีต่อสุขภาพอย่างไร?  และระหว่างวันควรงีบหลับกี่นาที? ถึงจะดีที่สุด มาดูกันครับ

ข้อดีของการงีบระหว่างวัน

  • ก่อให้เกิดการตื่นตัวทั้งด้านสมองและร่างกายในการทำงาน มีความกระตือรือร้น อาการเหนื่อยล้าต่างๆ จะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • ลดความเครียดหรือความหงุดหงิด เป็นการผ่อนคลายสมอง เพราะการหลับจะช่วยลดฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดความเครียดได้
  • ทำให้สมองมีประสิทธิภาพในการจำได้อย่างรวดเร็วเพิ่มขึ้น
  • การเรียนรู้สิ่งต่างๆ ทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่า 40% การทำงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์จะทำได้ดีมากขึ้น
  • สุขภาพโดยรวมดีขึ้น เนื่องจากการงีบระหว่างวันจะทำให้ร่างกายปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย และช่วยซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ได้ดีขึ้น

งีบกี่นาทีดีที่สุด

10-20 นาที เป็นคำตอบที่ดีที่สุดของการงีบหลับ เพราะการงีบในระยะเวลานี้จะทำให้ร่างกายตื่นตัว เพิ่มพลังสมอง ที่สำคัญปลุกง่าย เพราะร่างกายยังไม่เข้าสู่ภาวะหลับลึก เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วจะไม่เกิดอาการมึนงง เรียกว่าช่วยฟื้นฟูความอ่อนล้าได้ดีที่สุด

หากนอนนานกว่านั้นจะส่งผลเสียมากกว่า เช่น ถ้าใช้เวลา 30 นาที เมื่อตื่นนอนขึ้นมาจะมีอาการมึนงง แถมอาจจะมีอาการปวดหัวด้วยเพราะร่างกายเริ่มเข้าสู่ภาวะหลับลึก ส่วนการใช้เวลา 60-90 นาทีนั้นดูจะเป็นเวลาที่นานไปหน่อยหากจะมางีบหลับที่ทำงาน

เห็นไหมว่าการงีบหลับเพียงไม่กี่นาทีให้ประโยชน์กับเรามากมาย...ดังนั้นใครที่รู้สึกง่วง เหนื่อยล้า ลองงีบหลับช่วงพักเบรกดูก่อนแล้วค่อยลุยงานต่อรับรองว่าช่วยได้ครับ


ข่าวเครื่องดื่มชูกำลัง+เชื่อหรือไม่วันนี้

เสียงแห่งความเร็วของ สติงค์ เอเนอร์จี้ เครื่องดื่มชูกำลังจาก เป๊ปซี่โค ซิ่งสู่สนามแข่งขัน Formula 1

อาร์มิน ฟาน บูเรน ดีเจและโปรดิวเซอร์ระดับโลก ค้นพบเสียงของ 'สติงค์' พร้อมด้วย คุช ไมนี แชมป์ F2 โมนาโกกรังด์ปรีซ์ ประจำปี 2568 และ เจนสัน บัตตัน แชมป์โลก F1 ประจำปี 2552 ที่มาร่วมยืนยันถึง 'เสียง' ที่แฟนๆ ทั่วโลกต่างได้ยินในสนามแข่ง สติงค์ เอเนอร์จี้ (Sting Energy(R)) เครื่องดื่มชูกำลังสุดตื๊ดจาก เป๊ปซี่โค ก้าวเข้าสู่โลกแห่งความเร็วของการแข่งขันฟอร์มูล่าวัน (Formula 1) อย่างเป็นทางการในฐานะพันธมิตรเครื่องดื่มชูกำลัง ความร่วมมืออย่างเป็นทางการครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นจากเสียงที่กลายเป็นกระแสไวรัล

กรมทรัพยากรน้ำส่งมอบ "น้ำดื่มและเครื่องดื... กรมทรัพยากรน้ำ มอบน้ำดื่ม หนุนปฏิบัติการภารกิจกู้ภัยตึก สตง.ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหว — กรมทรัพยากรน้ำส่งมอบ "น้ำดื่มและเครื่องดื่มชูกำลัง" ให้แก่เจ้าหน้าที่...

ลองด้วยไหม? เอไอพัฒนาและชิมเครื่องดื่มชูกำลังที่คิดสูตรเอง

ลองนึกภาพปัญญาประดิษฐ์ ( AI) ที่ไม่เพียงแค่ออกแบบเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังคัดสรรส่วนผสมอย่างพิถีพิถัน ปรุงอย่างครบสูตร และแม้กระทั่งชิมเพื่อความสมบูรณ์แบบ ฟังดูคล้ายภาพยนตร์ไซไฟใช่ไหม เตรียมตัวให้พร้อมรับความประหลาดใจ ในการดำดิ่งสู่...

พีทีที สเตชั่น มอบโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะกลุ่... พีทีที สเตชั่น มอบโปรเอาใจลูกค้ารถใหญ่ เติมเต็มทุกการเดินทาง — พีทีที สเตชั่น มอบโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะกลุ่มลูกค้ารถใหญ่ เติมเต็มทุกการเดินทางด้วยพลังขับเคลื...

เอไอโชว์ล้ำ! พัฒนาและชิมรสชาติเครื่องดื่มชูกำลังได้ด้วยตัวเอง

ปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ ปฏิวัติวงการเครื่องดื่มชูกำลังทั่วโลก เพราะไม่เพียงสร้างสรรค์ส่วนผสมที่คิดว่าดีที่สุดเท่านั้น แต่ยังชิมรสชาติได้ด้วย เฮลล์ เอ็นเนอร์จี ( HELL ENERGY) ผู้ผลิตเครื่องดื่มชูกำลังจากฮังการี เปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลังชนิด...