การมีประจำเดือน เป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องเผชิญอยู่เป็นประจำ ในช่วงที่เป็นประจำเดือน ผู้หญิงส่วนใหญ่อาจมีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ขี้หนาว ปวดประจำเดือนเล็กน้อย เป็นต้น แต่อาการเหล่านี้มักจะไม่กระทบไปถึงการใช้ชีวิตประจำวัน และสามารถหายไปเองเมื่อประจำเดือนหมดลง แต่ก็มีผู้หญิงบางคนที่มักมีอาการผิดปกติ เช่น คัดหน้าอก ท้องเสีย เป็นไข้ ปวดศีรษะ ปวดตัว เป็นต้น อาการเหล่านี้มักปรากฏในทุก ๆ ช่วงที่มีรอบประจำเดือน ซึ่งอาการดังกล่าวล้วนแล้วแต่กระทบไปถึงชีวิตประจำวันทั้งสิ้น
มุมมองในทางการแพทย์แผนจีนได้มีการกล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการผิดปกติช่วงมีประจำเดือนของผู้หญิงเอาไว้ ดังนี้
1. อาการคัดหน้าอกช่วงมีประจำเดือน
จากทฤษฎีพื้นฐานแพทย์แผนจีน กล่าวว่า ตับเป็นอวัยวะที่กักเก็บเลือด คอยดูแลการไหลเวียนของชี่ไม่ให้ติดขัดเส้นลมปราณของตับเดินพาดผ่านชายโครงและหัวนม ดังนั้นคนที่โมโหง่ายชี่ตับมักติดขัด ชี่ตับไหลเวียนไม่ดี ส่งผลให้เกิดอาการคัดหน้าอกในช่วงที่ประจำเดือนมา หรือช่วงที่ประจำเดือนมาเป็นช่วงที่เลือดลงไปอยู่ที่เส้นลมปราณชงและเญิ่น เพื่อระบายออกเป็นประจำเดือน ทำให้เลือดที่เก็บกักที่ตับไม่เพียงพอ ตับจึงขาดเลือด ขาดการบำรุง ส่งผลทำให้เกิดอาการคัดหน้าอกขึ้น
ตำรับยาจีนที่ใช้ในการรักษา ตัวอย่างเช่น เซียวเหยาส่าน (???) อีก้วนเจียน (???) เป็นต้น
2. อาการปวดศีรษะช่วงมีประจำเดือน
สาเหตุที่มักทำให้มีอาการปวดศีรษะช่วงมีประจำเดือน คือ
ตำรับยาจีนที่ใช้ในการรักษา ตัวอย่างเช่น ปาเจินทั่ง (???)ทงเชี่ยวหัวเสวี่ยทัง (?????) เป็นต้น
3. อาการปวดตัวช่วงมีประจำเดือน
สาเหตุที่ทำให้มีอาการปวดตัวช่วงมีประจำเดือนเกิดจาก
ตำรับยาจีนที่ใช้ในการรักษา ตัวอย่างเช่น ตังกุยปู่เสวี่ยทัง(?????)เป็นต้น
4. อาการตัวร้อนช่วงมีประจำเดือน
อาการตัวร้อนช่วงมีประจำเดือนเกิดจากการที่ชี่ เลือด อิน หยาง ในร่างกายไม่สมดุล เลือดเป็นปัจจัยพื้นฐานของผู้หญิง ประจำเดือนเป็นเลือดในร่างกายที่ไหลออกมา เมื่อถึงช่วงมีประจำเดือนร่างกายจะสูญเสียเลือดและอิน ทำให้อินหยางในร่างกายเสียสมดุล หยางจึงค่อนจะมากกว่าอิน ร่างกายเกิดความร้อน
ตำรับยาจีนที่ใช้ในการรักษา ตัวอย่างเช่น ยาปู่จงอี้ชี่ทัง(?????)เสวี่ยฝู่จู๋อวีทัง (?????) เป็นต้น
5. อาการท้องเสียช่วงมีประจำเดือน
สาเหตุของอาการท้องเสียช่วงมีประจำเดือนมักเกิดจากการที่ม้ามและกระเพาะอาหารอ่อนแอ ม้ามมีหน้าที่นำอาหาร และน้ำที่แปรสภาพเป็นสารจำเป็น ดูดซึมและลำเลียงไปหล่อเลี้ยงทั่วร่างกาย ไตมีหน้าที่ในการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ทั้งสองอวัยวะมีความเกี่ยวข้องกับกระเพาะอาหาร ควบคุมการทำงานของระบบขับถ่าย ถ้าไตหยางไม่เพียงพอ ม้ามและกระเพาะอาหารทำงานผิดปกติ ย่อยอาหารไม่ดี มีความชื้นสะสมอยู่ในร่างกาย เมื่อประจำเดือนมาเลือดและชี่ไหลมารวมกันที่ส่วนล่างของร่างกาย ทำให้ไต ม้าม และกระเพาะอาหารอ่อนแอมากยิ่งขึ้น ไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายได้ เมื่อประจำเดือนมาจึงส่งผลให้ถ่ายเหลวอยู่เป็นประจำ
ตำรับยาจีนที่ใช้ในการรักษา ตัวอย่างเช่น เซินหลิงไป๋จู๋ส่าน(?????)เจี้ยนกู้ทัง(???)เป็นต้น
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit