วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.40 น. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะ พร้อมด้วย นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร และผู้บริหารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจำปี 2566 ณ ศูนย์ฝนหลวงหัวหิน อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเป็นการร่วมแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ โดยในปีนี้ครบรอบปีที่ 68 แห่งการก่อกำเนิดโครงการพระราชดำริฝนหลวง ภายในงานมีการจัดแสดงงานวิจัยโครงการฝนหลวง ได้แก่ โครงการวิจัยและพัฒนาการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการพ่นสารจากพื้นสู่ก้อนเมฆ หรือ Ground Based Generator Technology เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวงสำหรับพื้นที่เขตเงาฝนบริเวณภาคเหนือของประเทศ และโครงการวิจัยและพัฒนาจรวดดัดแปรสภาพอากาศ ที่ใช้เพื่อสนับสนุนการทำฝนหลวงในพื้นที่ที่เครื่องบินทำฝนหลวงเข้าถึงลำบาก นอกจากนี้ประธานในพิธีได้มีการมอบรางวัลแก่อาสาสมัครฝนหลวงดีเด่นระดับภูมิภาค ประจำปี 2566 จำนวน 7 รางวัล อีกด้วย
สำหรับความเป็นมาของวันพระบิดาแห่งฝนหลวง มีที่มานับตั้งแต่ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมเยียนราษฎรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 ทรงพบว่าราษฎรเดือดร้อน พืชผลทางการเกษตรเสียหายจากทั้งฝนแล้งและน้ำท่วม ทำให้ทรงเกิดแนวคิดในการแก้ปัญหาทุกข์ร้อนของราษฎรในขณะนั้นว่า "สมควรที่จะสร้างฝายหรือเขื่อนขนาดเล็ก (Check dams) และอ่างเก็บน้ำจำนวนมากขวางทางน้ำ เพื่อป้องกันหรือลดความรุนแรงการไหลบ่า และเก็บกักน้ำไว้ในฤดูแล้ง ซึ่งเป็นการบรรเทาสภาวะแห้งแล้งได้ทางหนึ่ง" ที่สำคัญทรงเกิดประกายความคิดด้วยความมั่นพระทัยว่าน่าจะนำกระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาช่วยให้เกิดฝนได้ นับเป็นต้นกำเนิดของแนวพระราชดำริที่ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจนเป็น "โครงการพระราชดำริฝนหลวง" ในปัจจุบัน
ในระยะเริ่มแรก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้สนามบินบ่อฝ้าย อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นฐานปฏิบัติการหลักในการวิจัย การค้นคว้าทดลองเพื่อพัฒนาขั้นตอนกรรมวิธีและเทคนิคในการปฏิบัติการฝนหลวงมาตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เป็นต้นมา และเสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพระราชกรณียกิจดังกล่าวด้วยพระองค์เอง ทั้งระหว่างที่ทรงแปรพระราชฐานมาประทับ ณ พระราชวังไกลกังวล หรือทรงบัญชาการมาจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐานผ่านข่ายวิทยุตำรวจ กรมการบินพาณิชย์จึงได้จัดอาคารท่าอากาศยานในขณะนั้นให้เป็นสถานที่ทรงงาน จึงเรียกกันว่า "ศาลาที่ประทับ" ตั้งแต่นั้นมา นับได้ว่าสถานที่นี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโครงการฝนหลวง ปัจจุบัน ศูนย์ฝนหลวงหัวหินมีสถานภาพพร้อมที่จะดำเนินการเป็นต้นแบบ ในภารกิจด้านระบบข้อมูลเทคโนโลยีสารสนเทศ ภารกิจพัฒนาเทคนิคเสริมเทคโนโลยี ภารกิจปฏิบัติการฝนหลวงพิเศษและฝนหลวงปกติ ภารกิจถ่ายทอดเทคโนโลยีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญและสาธิตการปฏิบัติการฝนหลวง การทำวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีฝนหลวง รวมไปถึงการวิจัยคุณภาพน้ำฝน นอกจากนี้ภายในหอเฉลิมพระเกียรติพระบิดาแห่งฝนหลวง มีการจัดแสดงนิทรรศการ ซึ่งเปิดบริการให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชม ในวันและเวลาราชการ อีกด้วย
"รมช.นเรศ" ลงพื้นที่เวียงป่าเป้า ตรวจแผนฟื้นฟูพื้นที่เกษตรเสียหายจากพายุยางิ
"รมว.อรรถกร"นำ กระทรวงเกษตรฯ ผนึกกำลังภาคเอกชน พัฒนา 'จุลสาหร่าย' สู่พลังงานสะอาด-นวัตกรรมอาหารสัตว์ ยกระดับทรัพยากรชีวภาพ เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ
มกอช. หนุนกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ขอนแก่น
"รมช.อัครา" ลุยพะเยาต่อเนื่อง! มอบนโยบายจัดทำการเกษตรแบบเป็นระบบ
กระทรวงเกษตรฯ เปิดประชุม "War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา" เตรียมมาตรการช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรอย่างเร่งด่วน
กระทรวงเกษตรฯ ตั้ง "War room ติดตามและแก้ไขสถานการณ์ด้านการเกษตร ชายแดนไทย-กัมพูชา"
"รมว.อรรถกร" นำ กระทรวงเกษตรฯ เปิดคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์ฯ จ.นครศรี ยกระดับบริการถึงมือเกษตรกร หนุนองค์ความรู้ เพิ่มรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ
กรมประมง…หนุนเกษตรกรเปลี่ยน "บ่อกุ้งร้าง" เพื่อสร้างรายได้ด้วยการเลี้ยง "ปูทะเล"