MAGURO เข้าเทรด 5 มิ.ย.นี้ มั่นใจ กระแสตอบรับดี 6 โบรก ให้ราคาเป้าหมายที่ 21.40-25.00 บาท สะท้อนพื้นฐานแกร่ง โอกาสเติบโตสูง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

บมจ.มากุโระ กรุ๊ป (MAGURO) ผู้นำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น-เกาหลี พร้อมเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันที่ 5 มิ.ย.นี้ ในหมวดเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (AGRO) โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า "MAGURO" มั่นใจกระแสตอบรับดีหลังนักลงทุนแห่จองหุ้น IPO 34 ล้านหุ้น อย่างท่วมท้นสะท้อนความเชื่อมั่นในพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และมีโอกาสเติบโตสูง

MAGURO เข้าเทรด 5 มิ.ย.นี้ มั่นใจ กระแสตอบรับดี 6 โบรก ให้ราคาเป้าหมายที่ 21.40-25.00 บาท สะท้อนพื้นฐานแกร่ง โอกาสเติบโตสูง

คุณสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ เปิดเผยว่า ในการเสนอขายหุ้นสามัญ ของ MAGURO จำนวนไม่เกิน 34,060,200 หุ้น ระหว่างวันที่ 28-30 พฤษภาคม ที่ผ่านมามีนักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีนักลงทุนสถาบัน 3 รายซึ่งมีความสนใจในหุ้นของ MAGURO และได้ติดต่อผู้ร่วมก่อตั้งทั้ง 4 ท่าน เพื่อซื้อหุ้นในส่วนที่เหลือจากการติด Silent Period รวมจำนวน 5.61 ล้านหุ้น ในราคาเดียวกับราคาที่เสนอขายแก่ประชาชนทั่วไป โดยจะดำเนินการซื้อ-ขายผ่านกระดาน Big Lot ในช่วงเปิดตลาดการซื้อขายวันแรก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ MAGURO ได้เป็นอย่างดี และการกำหนดราคา IPO ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 15.90 บาท ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสม โดยบทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำรวม 6 บริษัทหลักทรัพย์ ที่จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ให้มูลค่าเป้าหมายของ MAGURO ปี 2567 อยู่ที่ 21.40-25.00 บาท MAGURO เข้าเทรด 5 มิ.ย.นี้ มั่นใจ กระแสตอบรับดี 6 โบรก ให้ราคาเป้าหมายที่ 21.40-25.00 บาท สะท้อนพื้นฐานแกร่ง โอกาสเติบโตสูง

อีกทั้ง เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนในการเข้ามาซื้อขาย นักลงทุนสถาบันทั้ง 3 ราย ร่วมกับ Holistic Impact Pte. Ltd ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมที่ยังคงถือหุ้นในบริษัทฯ ยังได้ทำข้อตกลงไม่จำหน่ายหุ้นที่ตนถืออยู่เป็นเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ดังนั้นเมื่อนับรวมกับหุ้นที่ถูกติด Silent Period ตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แล้ว จะมีหุ้นที่ถูกห้ามขายรวมเป็นจำนวนกว่าร้อยละ 72.97 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ

คุณจิรยง อนุมานราชธน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจย์ แคปปิตอล แอดไวเซอรี จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยถึงความเชื่อมั่นว่า MAGURO จะเป็นหุ้นน้องใหม่ในตลาดฯ mai ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน เนื่องจากเป็นบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งทั้งทางด้านการเติบโตและฐานะทางการเงิน จากการบริหารธุรกิจด้วยความชี่ยวชาญและมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า อีกทั้งไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ทำให้สามารถต่อยอดทางธุรกิจได้เป็นอย่างดีในอนาคต

คุณเอกฤกษ์ แสงเสรีดำรง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน และพร้อมขยายการเติบโต ต่อยอดธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

โดยภายหลังการระดมทุนครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ ด้วยการเปิดสาขาใหม่ในปี 2567 ไม่น้อยกว่า 11 สาขาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งปรับปรุงสาขาเดิมและครัวกลาง ตลอดจนระบบ IT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และรองรับการขยายตัวของจำนวนสาขาของบริษัทฯ ในอนาคต รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ ขยายกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

"ผมมั่นใจว่าเราจะได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากนักลงทุน ด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ โดยในแง่ของการเป็นผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น-เกาหลี เราได้รับการยอมรับจากลูกค้ามายาวนานกว่า 9 ปี ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่อจากนี้บริษัทฯ จะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค ภายใต้ปรัชญา 'การให้มากกว่าที่ขอ หรือ Give More' ที่ได้ยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกับลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนผู้ถือหุ้น และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย เพื่อสร้างธุรกิจที่เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน สามารถต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนในระยะยาว"

บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO ประกอบธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นและเกาหลีระดับพรีเมียม-แมส (Premium Mass) ภายใต้ปรัชญา "การให้มากกว่าที่ขอ (Give More)" โดยณ วันที่ 30 เมษายน 2567 มีร้านอาหารภายในเครือทั้งหมด 3 แบรนด์ รวมจำนวน 27 สาขา ได้แก่ 1. ร้านซูชิและอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมี่ยม "MAGURO" (มากุโระ) จำนวน 14 สาขา 2. ร้านปิ้งย่างเกาหลีพรีเมียม "SSAMTHING TOGETHER" (ซัมติง ทูเก็ทเตอร์) จำนวน 6 สาขา และ 3. ร้านอาหารชาบูและสุกี้ยากี้สไตล์ญี่ปุ่นแบบต้นตำหรับ "HITORI SHABU" (ฮิโตริ ชาบู) จำนวน 7 สาขา ครอบคลุมในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้ง ยังมีธุรกิจรับจัดเลี้ยง ในรูปแบบของ Event Catering และ Office Lunchbox และมีบริการจัดส่งอาหารโดยตรง ภายใต้ชื่อ "MAGURO GO"

สำหรับผลการดำเนินงานใน ปี 2566 มีรายได้รวม 1,045.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.06% และมีกำไร 72.48 ล้านบาท เติบโตสูงถึง 131.12% จากปีก่อนหน้า โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40.00 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักสำรองต่าง ๆ


ข่าวo:member+o:finวันนี้

PwC Thailand warns of tougher tax audits as Thailand eyes OECD membership

BANGKOK, 22 October 2025 PwC Thailand warns that Thailand's tax and customs landscape is set to become more stringent, as regulatory bodies accelerate major legal reforms in pursuit of OECD membership. Authorities are also adopting advanced technologies and artificial intelligence (AI) to strengthen tax administration and close loopholes that enable modern forms of tax evasion. Niphan Srisukhumbowornchai, Tax and Legal Lead Partner at PwC Thailand, speaking at the 'Maximising Shareholder Value'

มูลค่าแบรนด์ของอลิอันซ์ เพิ่มขึ้น 20% เพิ... อลิอันซ์ ตอกย้ำตำแหน่งแบรนด์ประกันภัยที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก แตะ 28.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ — มูลค่าแบรนด์ของอลิอันซ์ เพิ่มขึ้น 20% เพิ่มขึ้นจาก 56 พันล้านดอ...

บริษัทหลักทรัพย์ เคพีเอ็ม จำกัด (บล.เคพีเ... บล.เคพีเอ็ม เผยความสำเร็จ STELLA คืนเงินหุ้นกู้ครบตามกำหนด — บริษัทหลักทรัพย์ เคพีเอ็ม จำกัด (บล.เคพีเอ็ม) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและผู้แทนผู้ถือหุ้น...