สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา (สคร.12 สงขลา) เตือนระวังโรคหัดในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง หลังพบผู้ป่วยโรคหัดเพิ่มขึ้น เด็กเล็กหากไม่ได้รับวัคซีน เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต เน้นย้ำ ผู้ปกครองนำบุตรหลานฉีดวัคซีนให้ครบตามเกณฑ์
นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ผู้ป่วยโรคหัดมีแนวโน้มสูงขึ้นในพื้นที่ที่มีความครอบคลุมของวัคซีนต่ำ โดยสถานการณ์โรคหัดในประเทศไทย (วันที่ 1 ม.ค. - 22 ก.พ. 2567) พบรายงานผู้ป่วย 140 ราย สำหรับในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 12 (วันที่ 1 ม.ค. - 24 ก.พ. 2567) พบผู้ป่วย 64 ราย สูงสุดในจังหวัดปัตตานี 58 ราย รองลงมา ยะลา 3 ราย และสงขลา 3 ราย พบผู้ป่วยสูงในช่วงอายุ 0 - 4 ปี และพบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด (ร้อยละ 71.9)
โรคหัด เป็นโรคติดเชื้อไวรัสหัด (Measles) ในระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยจะเกิดผื่นขึ้นตามผิวหนังพร้อมเป็นไข้ร่วมด้วย พบได้ทุกวัยและพบได้บ่อยในเด็กเล็ก อายุ 0 - 6 ปี โดยเฉพาะเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีนสามารถแพร่เชื้อและติดต่อกันได้ง่ายมาก ผ่านทางอากาศหรือการสัมผัสน้ำมูกและน้ำลายของผู้ป่วยโดยตรง
ผู้ป่วยโรคหัด จะเริ่มมีอาการไข้ หลังได้รับเชื้อประมาณ 10 - 12 วัน ในระยะเริ่มแรกจะมีอาการคล้ายไข้หวัด มักตัวร้อนและอาจมีไข้สูงถึง 40 องศาเซลเซียส มีน้ำมูกไหล ไอบ่อย เจ็บคอ ตาแดงเยิ้ม หลังจากนั้นประมาณ 3 - 5 วัน จะมีผื่นแดงขึ้นตามใบหน้า เหนือไรผม แล้วกระจายไปลำตัว แขน ขา บางรายอาจมีตุ่มแดงที่มีสีขาวตรงกลาง ขึ้นในกระพุ้งแก้ม ควรรีบไปพบแพทย์ หากมีภาวะรุนแรงและแทรกซ้อน เพื่อได้รับการรักษาทันท่วงที
"โรคหัดป้องกันได้ ด้วยการนำบุตรหลานไปฉีดวัคซีน MMR (Measles-Mumps-Rubella Vaccine) จำนวน 2 เข็ม โดย ฉีดเข็มแรก เมื่ออายุ 9 - 12 เดือน และ เข็มที่ 2 เมื่ออายุ 1 ปี 6 เดือน ซึ่ง วัคซีนดังกล่าว สามารถป้องกันทั้งโรคหัด คางทูม และหัดเยอรมัน"
สคร.12 สงขลา ห่วงใยบุตรหลานของพี่น้องประชาชน ที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนโรคหัด ควรพามาฉีดวัคซีนโดยด่วน ที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน ฟรี และหากเด็กในปกครอง มีไข้ ไอ ตาแดง และมีผื่นแดงบริเวณใบหน้าและร่างกาย ให้แยกเด็กออกไม่ให้สัมผัสกับเด็กอื่น เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ พร้อมยึดหลัก D-M-H เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อย ๆ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับโรคหัด สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422
ReGenMed ขึ้นแท่นบริษัทชั้นนำด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟูประจำปี 2025 จากการจัดอันดับของ Medical Tech Outlook
เจอจุดที่ปอดมีโอกาสเป็นมะเร็งกี่เปอร์เซ็นต์
ตากระตุก ใบหน้ากระตุก รักษาได้ด้วย "โบทูลินั่ม ท็อกซิน"
สมาคมศัลยกรรมและเวชศาสตร์ฯ (TCAS) จัดการการประชุม WCAM 2025
ซีสต์ที่รังไข่
ชีวาสุขวิทยาลัย พีไอเอ็ม ชวนร่วมสัมมนา "2026 Thailand Health and Wellness Trends By PIM" พลิกโฉมอนาคตบริการสุขภาพไร้ขีดจำกัด
MEDEZE เข้าตามหลักเกณฑ์รับรองมาตรฐาน "ธนาคารเซลล์"ขานรับประกาศ "ราชกิจจาฯ" เดินหน้าสู่ผู้นำธุรกิจสุขภาพแห่งอนาคต
สธ.ตั้งเป้า 3 กลุ่มวัยฟันดี "เด็ก-วัยทำงาน-ผู้สูงวัย" มุ่งสู่ 80 ปี มีฟันใช้งาน 20 ซี่ ลุยคัดกรองสุขภาพช่องปากให้ครบ 10 ล้านคน