LPP เตรียมพร้อมรับมือ ตั้งเครือข่ายพันธมิตรเฝ้าระวังเหตุน้ำท่วม บริหารจัดการความเสี่ยงให้ลูกบ้านผ่านศูนย์ปฏิบัติการ EOC

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

แอล พี พี จับตาเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมในโครงการที่บริหารจัดการ ดึงศูนย์  ปฏิบัติการฯ EOC (Emergency Operations Center) ตั้งการ์ดรับมือเหตุฉุกเฉินผ่าน "โครงข่ายพันธมิตรบรรเทาน้ำท่วม" พร้อมเข้มมาตรการเชิงป้องกันในโครงการที่พักอาศัย เพื่อความสะดวกและปลอดภัยสูงสุดของผู้อยู่อาศัย

LPP เตรียมพร้อมรับมือ ตั้งเครือข่ายพันธมิตรเฝ้าระวังเหตุน้ำท่วม บริหารจัดการความเสี่ยงให้ลูกบ้านผ่านศูนย์ปฏิบัติการ EOC

นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้      มาเนจเมนท์ จำกัด ผู้นำในธุรกิจบริหารจัดการโครงการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ทางภาคเหนือและมีสัญญาณที่จะไหลหลากลงมาภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครนั้น LPP ได้วางมาตรการรับมือและดูแลโครงการในความรับผิดชอบ โดยจัดตั้ง "โครงข่ายพันธมิตรบรรเทาน้ำท่วม" (Flood Response Alliance Network) ขึ้น เพื่อให้ความช่วยเหลือดูแลกันอย่างเร่งด่วน โดยได้เริ่มเตรียมการมาก่อนหน้านี้ ตามมาตรการ Preventive Maintenance หรือ การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน

ทั้งนี้ จากการรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ระบุว่าไทยเข้าสู่สภาวะ "ลานีญา" และจะต่อเนื่องไปถึงปี 2568 รวมถึงปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนเป็นประจำทุกปีในช่วงเดือน มิถุนายน-พฤศจิกายน ที่อาจจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมเฉลี่ยที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นที่ LPP ปัดฝุ่น "โครงข่ายพันธมิตรบรรเทาน้ำท่วม"  และปัจจุบันมีการเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์เหตุอุทกภัยที่เริ่มมีน้ำสะสมในหลายจังหวัดทางตอนเหนือ ที่มวลน้ำมีโอกาสไหลหลากลงมาที่ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร  ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้พักอาศัยที่อยู่บริเวณใกล้เคียงหรือริมแม่น้ำได้ตามประกาศของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปก) 

"โครงข่ายพันธมิตรบรรเทาน้ำท่วม" คือ การรวมกลุ่มโครงการที่อยู่ในพื้นที่ความเสี่ยงน้ำท่วมเข้าด้วยกันโดยใช้หลักพื้นที่ใกล้เคียงจับกลุ่มเป็นพันธมิตรกัน  เพื่อให้การสนับสนุนและช่วยเหลือในด้านอุปกรณ์รับมือเหตุน้ำท่วมระหว่างกันในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น เครื่องสูบน้ำ อุปกรณ์ปั๊มน้ำชนิดต่างๆ  และอุปกรณ์อื่นๆ   ซึ่งถึงแม้ว่าแต่ละโครงการจะมีอุปกรณ์เหล่านี้จัดเก็บในความดูแลและพร้อมใช้งานแต่เพื่อรองรับสถานการณ์ปกติ หากเกิดกรณีเหตุน้ำท่วมฉับพลันหรือน้ำท่วมสูงก็อาจไม่เพียงพอที่จะจัดการกับปัญหาได้ ซึ่งสมาชิกในเครือข่ายฯ จะสามารถยืมอุปกรณ์ระหว่างกันจากโครงการในโครงข่ายพันธมิตรฯ และจะได้รับความช่วยเหลือในทันที ไม่เสียเวลาในการจัดหาจัดซื้ออุปกรณ์และไม่กระทบต่องบประมาณค่าใช้จ่ายของโครงการ รวมถึงไม่ต้องจัดหาสถานที่เก็บดูแลรักษาอุปกรณ์เพิ่มเติมอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกโครงการ โดย LPP จะเป็นศูนย์กลางในการประเมินและบริหารสถานการณ์ผ่าน ศูนย์ปฏิบัติการเหตุฉุกเฉิน (Emergency Operations Center - EOC) ให้เป็นจุดรับแจ้งเหตุ ประสานงานและส่งกำลังคนลงพื้นที่ช่วยเหลือทั้งโครงการที่บริหารและพื้นที่ใกล้เคียง ภายใน 24 ชั่วโมง รวมถึงการประสานกับพันธมิตรในโครงข่ายเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหรือได้รับน้อยที่สุด

"LPP ได้กำหนดมาตรการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยทำการประเมินปัจจัยเสี่ยงและผลกระทบในทุกโครงการภายใต้การบริหารจัดการ เพื่อเฝ้าระวังและรับมือภาวะน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งผลการสำรวจในเบื้องต้นพบว่ามีโครงการที่อยู่ในพื้นที่มีความเสี่ยงสูงจำนวน 13 โครงการ  และมี 52 โครงการอยู่ในพื้นที่มีความเสี่ยงปานกลาง รวมจำนวนโครงการที่อยู่ในระดับความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังทั้งสิ้น 65 โครงการ จากทั้งหมดกว่า 260 โครงการที่ LPP ดูแลและได้รับการประเมินความเสี่ยง โดยทีมวิศวกร ทีมผู้มีประสบการณ์การบริหารจัดการน้ำท่วมในพื้นที่ตามมาตรการแต่ละโครงการ จึงได้กำหนดจัดตั้ง "โครงข่ายพันธมิตรบรรเทาน้ำท่วม"  ขึ้นเพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาดังกล่าว"

"อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันโครงการที่ LPP ดูแลยังไม่ได้รับผลกระทบใดๆ แต่เรายังคงให้การดูแลทุกโครงการอย่างเข้มงวดตามแนวปฏิบัติ  Preventive Maintenance หรือ การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน โดยฝ่ายวิศวกรรมส่วนกลาง (Engineering Center) ทำการตรวจสอบพื้นที่ที่มีความเสี่ยง ประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เพื่อวางแผนสำหรับการป้องกันน้ำท่วม และตรวจสอบความพร้อมของระบบป้องกันต่างๆ  อาทิ ปั๊มน้ำ เครื่องสูบน้ำ บำรุงรักษาระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์อื่นๆ ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ  รวมถึงทีมสำรวจจะทำการการตรวจสอบระดับน้ำ ตรวจสอบพื้นที่จุดรับน้ำ และปัจจัยเสี่ยงของพื้นที่โดยรอบโครงการอย่างสม่ำเสมอ  หากเกิดความผิดปกติหรือมีเหตุการณ์ฉุกเฉินก็จะสามารถรับมือและแก้ไขสถานกาณ์ได้ทันท่วงที ซึ่งจะสามารถลดความเสียหายให้แก่โครงการ รวมถึงการสื่อสารในช่องทางที่หลากหลายกับผู้จัดการอาคารเพื่อไม่ให้กระทบต่อการอยู่อาศัยภายในโครงการ  ช่วยสร้างความมั่นใจ อุ่นใจ ตามแนวคิด Smooth Your Living ที่เรายึดปฏิบัติ"  นายสุรวุฒิกล่าว


ข่าวสุรวุฒิ สุขเจริญสิน+จัดการความเสี่ยงวันนี้

LPN x LPP ย้ำจุดยืนผู้นำอสังหาฯ ยั่งยืน จับมือ OGGA CIRCULAR ผุดโปรเจ็กต์ "ขยะแลกของใช้ในบ้าน" ผ่านตู้จัดการขยะระบบ AI นำร่อง 4 โครงการที่พักอาศัย และอาคารสำนักงาน

LPN และ LPP ร่วมกับ OGGA CIRCULAR จัดกิจกรรม "ขยะแลกของใช้ในบ้าน" เพื่อส่งมอบและติดตั้งตู้จัดการขยะระบบ AI "TrashEX by OGGA" เป็นที่แรก ณ อาคารลุมพินีทาวเวอร์ ถนนพระรามสี่ โดยมีผู้บริหารร่วมกิจกรรม นำโดย นางสาวดารณี ฉัตรพิริยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด ร่วมด้วย นายนันธวัฒน์ วิทย์วัฒน์ดำรง ประธานโครงการ และ นางสาวธีรยาฏ์ วิทย์วัฒน์ดำรง หัวหน้าโครงการ

นายอภิชาติ เกษมกุลศิริ ประธานกรรมการบริหา... LPN และ LPP รวมใจส่งมอบเงินบริจาคสมทบทุนจุฬาฯ เยียวยาน้ำท่วม — นายอภิชาติ เกษมกุลศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) L...

นายอภิชาติ เกษมกุลศิริ ประธานกรรมการบริหา... LPN และ LPP รวมใจส่งมอบเงินบริจาคสมทบทุนจุฬาฯ เยียวยาน้ำท่วม — นายอภิชาติ เกษมกุลศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) L...