LPP ผู้บริหารจัดการโครงการอสังหาฯ กว่า 270 โครงการ เดินหน้ามาตรการเชิงรุกภายใต้แผนบริหารจัดการน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ พร้อมประสานหลายหน่วยงานเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำแบบเรียลไทม์ เพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เสริมความมั่นใจให้แก่ผู้อยู่อาศัยในทุกโครงการว่า จะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและปลอดภัยตลอดช่วงปลายฤดูฝน โดยเฉพาะ 9-18 ต.ค.นี้ จากเหตุไทยเผชิญกับฝนตกต่อเนื่องและระดับน้ำทะเลหนุนสูง ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด หรือ LPP เปิดเผยว่า LPP พร้อมรับมือกับความเสี่ยงจากภาวะน้ำท่วมและฝนตกหนัก ด้วยมาตรการเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน เพื่อให้สามารถบริหารจัดการสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยได้จัดตั้งทีมงานเฉพาะกิจเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อการบริหารจัดการและประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งทีมวิศวกรรมส่วนกลาง ฝ่ายบริหารจัดการอาคาร และศูนย์ปฏิบัติการเหตุฉุกเฉิน EOC (Emergency Operations Center) และสืบเนื่องจากพยากรณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาที่ระบุว่า ระหว่างวันที่ 9 - 18 ตุลาคมนี้ จะเป็นช่วงที่มีระดับน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งอาจส่งผลให้การระบายน้ำในเขตชั้นในของกรุงเทพฯ ทำได้ช้าลงจึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ในช่วงนี้ LPP จึงได้ทำการเฝ้าระวังและยกระดับมาตรการให้เข้มข้นกว่าเดิมด้วย
มาตรการสำคัญประกอบด้วยการ ประเมินความเสี่ยงน้ำท่วมรายโครงการโดยติดตามระดับน้ำและรายงานสถานะความเสี่ยงรายวันต่อศูนย์ EOC เพื่อจัดทำแผนรับมือเฉพาะพื้นที่ ตรวจสอบความพร้อมของระบบระบายน้ำและอุปกรณ์กั้นน้ำ ในทุกจุดเสี่ยง พร้อมลอกท่อและปรับปรุงระบบให้สามารถระบายน้ำได้เต็มประสิทธิภาพ รวมถึงการ ซักซ้อมแผนปฏิบัติการฉุกเฉิน เพื่อให้ทีมงานที่เกี่ยวข้องสามารถตอบสนองสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ LPP ยังได้มีการจัดตั้ง ทีมสนับสนุนเฉพาะกิจ ทำหน้าที่เป็นศูนย์อำนวยการกลางในการบริหารสถานการณ์ กำหนดแนวทางการสื่อสารและแผนตอบสนองเหตุการณ์ฉุกเฉินร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
นายสุรวุฒิ กล่าวว่า "LPP ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความสะดวกสบายของผู้อยู่อาศัยเป็นอันดับแรก โดยไม่เพียงดูแลภายในโครงการเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อชุมชนรอบข้างด้วย บริษัทจึงได้ยกระดับการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือปริมาณน้ำฝนและน้ำท่วม ทั้งด้านการเตรียมระบบการจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ การเตรียมแผนฉุกเฉินรับมือ และการสื่อสารทั้งภายในและภายนอกโครงการ เพื่อให้ทุกโครงการและชุมชนใกล้เคียงสามารถรับมือสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจ ผู้อยู่อาศัยทุกคนจึงสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยและอุ่นใจ"
นอกจากมาตรการภายในแล้ว LPP ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นและสำนักงานเขตในพื้นที่ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระดับน้ำและติดตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์ พร้อมเตรียมแผนการระบายน้ำร่วมกันในกรณีเกิดฝนตกหนัก รวมทั้งจัดตั้งจุดประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือโครงการและชุมชนโดยรอบได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งจะช่วยให้สถานการณ์น้ำค่อยๆ คลี่คลายลง อย่างไรก็ตาม LPP จะยังคงเดินหน้ามาตรการเฝ้าระวังและบริหารจัดการน้ำอย่างต่อเนื่องจนกว่าสภาพอากาศและระดับน้ำจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อให้ทุกโครงการและทุกครอบครัวสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ
"LPP มุ่งมั่นที่จะส่งมอบการดูแลและบริการที่ดีที่สุด เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยทุกท่านรู้สึกมั่นใจและปลอดภัยภายใต้การบริหารจัดการของเรา" นายสุรวุฒิกล่าวทิ้งท้าย
LPP เพิ่มพอร์ต Sole Agent รับบริหารงานขายและการตลาดโครงการหรู "The Urban Reserve" โดย เมฆา เรียลเอสเตท ส่งท้ายปี
LPN และ LPP รวมใจส่งมอบเงินบริจาคสมทบทุนจุฬาฯ เยียวยาน้ำท่วม
LPN และ LPP รวมใจส่งมอบเงินบริจาคสมทบทุนจุฬาฯ เยียวยาน้ำท่วม
LPP พัฒนา EOC Platform บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน เสริมขีดความสามารถในการบริหารจัดการแบบเรียลไทม์
LPP เตรียมพร้อมรับมือ ตั้งเครือข่ายพันธมิตรเฝ้าระวังเหตุน้ำท่วม บริหารจัดการความเสี่ยงให้ลูกบ้านผ่านศูนย์ปฏิบัติการ EOC
LPP ผนึกกำลัง ZLEEPCHARGE ติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในโครงการคอนโดฯ ยกระดับการอยู่อาศัยแก่ลูกบ้าน พร้อมผลักดันพลังงานสะอาดสู่สังคมไทย
LPP ขยายธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ให้ครบ 360 องศา คว้างานเช่าลงทุนพัฒนาและบริหารจัดการหอพัก U-Center จาก จุฬาฯ
LPP จัดแคมเปญ "7 Days No Smoke กล้าที่จะงด" พร้อมอาสาเป็นภาคีเครือข่ายสนับสนุน สสส.ร่วมสร้างสังคมปลอดสูบบุหรี่