สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมกับ สำนักงานสภาพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ร่วมระดมความเห็นและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการ ในเวทีเสวนา “การยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ” ครั้งที่ 9 : ทิศทางการ พัฒนาผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูงและการแพทย์แม่นยำในประเทศ สำหรับการวางแผนและออกแบบการจัดสรรงบประมาณด้านการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ภายใต้ กองทุน ววน. ในการขับเคลื่อนประเด็นผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) ซึ่งจะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้
รองศาสตราจารย์ ดร.พงศ์พันธ์ แก้วตาทิพย์ รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ สกสว. กล่าวว่า สกสว. ประสานความร่วมมือกับ 3 หน่วยงาน คือ สำนักงานสภาพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) และ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในการส่งเสริมและสนับสนุนการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศ ด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ซึ่งในความร่วมมือนี้เน้นอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) เพื่อเป็นเวทีเผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงช่องว่างความรู้ และเป็นเวทีที่เปิดรับฟังความเห็นประเด็นวิจัยสำคัญ และข้อเสนอในการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมฯ เพื่อนำข้อมูลไปทบทวนและจัดทำแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ของประเทศ และออกแบบการทำงานร่วมกับเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
ด้าน นางสาววรวรรณ พลิคามิน รองเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. กล่าวว่า ไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์มูลค่าสูง โดยมีกรอบแนวคิดการพัฒนาการเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ และสุขภาพมูลค่าสูง ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ Thailand Vision “IGNITE THAILAND” ประกอบด้วย 4 เรื่อง ได้แก่ 1. Medical services บริการตรวจสุขภาพ การแพทย์สมัยใหม่ และการแพทย์แม่นยำ 2. Wellness ธุรกิจสปา แพทย์แผนไทย การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ 3. Industries อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ ยา วัคซีน และสมุนไพร 4. Academic โครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ประกอบกับประเทศไทยมีจุดแข็งเรื่องการให้บริการทางการแพทย์ที่เป็นอันดับ 5 ของโลก ทั้งในเรื่องคุณภาพของสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานระดับสากล JCI รวมทั้งบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และราคาสมเหตุสมผล ซึ่งประเทศไทยยังมีศักยภาพในการผลิตผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ได้มาตรฐานออกสู่ตลาด เกิดการสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการและประเทศเพิ่มขึ้น ปัจจัยสำคัญต่อการขับเคลื่อนเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย คือ การบูรณาการดำเนินงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนที่หนุนเสริมการพัฒนาที่มีความเชื่อมโยงกันในลักษณะ Cross sector โดยเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนที่มีศักยภาพเป็นผู้ขับเคลื่อน ขณะที่ภาครัฐเป็นผู้สนับสนุนควบคุมและกำกับการดำเนินการ
ขณะที่ รองศาสตราจารย์ ดร.นพ.พงศกร ตันติลีปิกร ประธานคณะทำงานหน่วยบูรณาการประเด็นยุทธศาสตร์เพื่อ พัฒนา ววน. (SAT) ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการแพทย์ สกสว. กล่าวว่า แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพ ด้วยวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ในประเด็นมุ่งเน้นเรื่องผลิตภัณฑ์การแพทย์
ขั้นสูง (ATMPs) เป็นหนึ่งในแผนงานสำคัญ (Flagship) ของแผนด้าน ววน. เพื่อให้เกิดการสร้างมูลค่าการขายของผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) รวมถึงชีววัตถุ ที่พัฒนาและผลิตในประเทศไทย จำนวน 3,000 ล้านบาท ภายใน 5 ปี (2566 – 2570)
ด้าน ดร.ชัยยง โกยกุล คณะทำงาน SAT ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการแพทย์ สกสว. รายงานข้อมูล สถานการณ์ด้านผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) ทั้งในและต่างประเทศ พบว่า มูลค่าตลาดทั่วโลกของผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2575 จะมีอัตราการเติบโตถึง 18.3% (CAGR) หรือ 82.24 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ หากพิจารณาจากเส้นทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) ตั้งแต่การวิจัยพื้นฐานจนถึงการขึ้นทะเบียน ผลิตภัณฑ์ให้ได้ออกมาสู่ตลาดจะต้องมีการลงทุนประมาณ 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 48.03 พันล้านบาท และใช้เวลาพัฒนามากกว่า 10 ปี ในขณะนี้ประเทศไทยเล็งเห็นความสำคัญและสนับสนุนงบประมาณวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) ตั้งแต่การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานให้มีมาตรฐาน GMP และการพัฒนาผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) เช่น CAR T-cell, Mesenchymal stem cell เป็นต้น
ปัจจุบัน สถานการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) มีการใช้อยู่ 3 รูปแบบ ได้แก่ รูปแบบที่ 1 การผลิตใช้แบบผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ จากสถานที่ที่ได้มาตรฐานการรับรอง GMP ซึ่งมีกระบวนการตั้งแต่วิจัย พัฒนา และผลิต จนถึงการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กับทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รูปแบบที่ 2 การผลิตใช้แบบผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ จากสถานที่ที่ยังไม่ได้มาตรฐานการรับรอง GMP ซึ่งใช้ช่องว่าง มาตรา 13(2) ของพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ในการผลิตให้กับผู้ป่วย และรูปแบบที่ 3 การผลิตใช้ในโรงพยาบาล แบบ Hospital exemption ซึ่งในต่างประเทศ สถานที่ผลิตในโรงพยาบาลจะต้องได้รับการรับรอง GMP และผ่านการประเมินหลักฐานด้าน ผลิตภัณฑ์และอื่นๆ ก่อน
ถึงจะสามารถใช้ได้จริง ดังนั้น หากประเทศไทยมีการยกเว้นให้ใช้ผลิตภัณฑ์ ในรูปแบบที่ 2 อยู่ อาจจะทำให้โอกาสในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) ที่ได้มาตรฐานลดลง เนื่องจากไม่คุ้มค่ากับการลงทุน และประเทศไม่สามารถสร้างความสามารถในการแข่งขันได้อย่างแท้จริง
“จากข้อมูลการศึกษาได้มีข้อเสนอแนะต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) ดังนี้ 1. การมีนโยบาย สนับสนุนผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) สมัยใหม่ที่ได้มาตรฐานด้านคุณภาพและความปลอดภัยที่เป็นแนวทางการ พัฒนาอย่างยั่งยืน นำไปสู่การพัฒนากฎระเบียบที่ชัดเจนและไม่ขัดแย้งกัน 2. การมีแนวทางด้าน Reimbursement สำหรับ การสนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) และ 3. การบรรจุผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) เป็นวาระ แห่งชาติ เพื่อการขับเคลื่อนแบบ Top-down อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว”
นอกจากนี้ ในช่วงเสวนาหัวข้อ “Fireside Chat : How to Boost ATMPs Industry and Service in Thailand” ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนในประเด็นต่างๆ ดังนี้ ดร.กิตติพงษ์ เอื้อ
สุนทราชุน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิทยาศาสตร์ บริษัท เจเนพูติก ไบโอ จำกัด ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ CAR T-cell ในประเทศไทย สำหรับการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดลิมฟอยด์ (ALL) ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วง ทดสอบในมนุษย์ ระยะที่ 1 และเป็นผลิตภัณฑ์ ATMPs ตัวแรกของประเทศที่ได้ผ่านการอนุมัติ Investigational New Drug (IND) จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดร.วรกันต์ บูรพาธนะ หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีและนวัตกรรม บริษัท อินโน บิก (เอเซีย) จำกัด ได้แลกเปลี่ยนมุมมองจากภาคธุรกิจเกี่ยวกับโอกาสและความท้าทายของ
การพัฒนาและผลิต ATMPs ในประเทศไทย ซึ่งมองว่าการผลักดันให้ผลิตภัณฑ์ ATMPs ในรูปแบบการให้บริการ
ในสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน อาจจะเป็นโอกาสของประเทศไม่น้อยไปกว่าการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด ผศ.ดร.
ศุกฤกษ์ บวรภิญโญ อาจารย์และนวัตกรผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงมุมมองของนักพัฒนาและนวัตกรรมที่ต่อยอดงานวิจัยไปสู่อุตสาหกรรม ซึ่งแสดงให้เห็นการวิจัยตั้งแต่ต้นน้ำไปสู่ปลายน้ำ และการต่อยอดการใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยีการผลิตสู่การรักษาโรคต่าง ๆ และภก.มรกต ประกัสศิริพันธุ์ หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูงและชีววัตถุ กองยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึง บทบาทของ อย. ต่อการสนับสนุน ATMPs สู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ รวมถึงกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ ATMPs
ทั้งนี้ กิจกรรมในเวทีได้เปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและรับฟังประเด็นจากผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการลงทุนของภาคเอกชน ระบบการเข้าถึงบริการและผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศ การวิจัยทางคลินิกเพื่อมีข้อมูลเชิงประจักษ์ในการขึ้นทะเบียนการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน รวมไปถึงการเสนอประเด็นโจทย์วิจัย
ที่น่าสนใจแก่ สกสว. เพื่อนำไปทบทวนและจัดทำแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ของประเทศ เพื่อให้ประเทศเป็นแหล่งผลิตสำคัญของอาเซียนสำหรับผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (ATMPs) รวมถึงชีววัตถุ ที่ได้มาตรฐานเทียบเคียงกับสากล และจำหน่ายในต่างประเทศ หรือสามารถทดแทนการนำเข้า โดยการใช้ผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรม
ปตท.สผ. คว้ารางวัลสูงสุดจากเวที Climate Action Awards 2025 สะท้อนความโดดเด่นในการดำเนินงานด้าน Decarbonization
SAPPE ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน ผนึกกำลัง TIPMSE และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในงานรวมพลังขับเคลื่อน EPR เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ให้เป็นวัตถุดิบ
"นิปปอนเพนต์" แบรนด์สีหนึ่งเดียวที่เหนือชั้นกว่า คว้ารางวัลเชิดชูเกียรติสูงสุด "Climate Action Excellence" โดย ส.อ.ท. พิสูจน์ความตั้งใจ การันตีองค์กรผู้นำด้านความยั่งยืนในทุกมิติ
OR ได้รับรางวัล Climate Action Excellence ตอกย้ำการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยสู่อนาคตยั่งยืน
ส.อ.ท. จับมือ CBS-กสิกร-บพค. ยกระดับ SMEs ไทยสู่ SMART SMEs ด้วย Digital & AI
กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สอท. พร้อมดึงเทคโนโลยีเม็ดพลาสติกรีไซเคิล สนับสนุนอุตสาหกรรมไทยสู่ S-Curve หนุนทุกภาคส่วนนำพลาสติกใช้แล้วกลับมาเป็นวัตถุดิบครบวงจร
เบเยอร์คว้ารางวัล Climate Action Award ตอกย้ำผู้นำสีรักษ์โลกอันดับหนึ่ง มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero
TCMA คว้ารางวัล 'Outstanding Contribution' Climate Action Award 2025 ตอกย้ำบทบาทองค์กรศักยภาพ นำอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ขับเคลื่อนลดคาร์บอน