เคล็ดลับการดูแลบัญชีเงินฝากนิติบุคคลให้เกิดประโยชน์สูงสุด

สำหรับธุรกิจทุกขนาด บัญชีเงินฝากนิติบุคคลถือเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารจัดการทางการเงิน ดังนั้น การเลือกธนาคารที่เหมาะสมและการบริหารจัดการบัญชีอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน และบทความนี้จะมาบอกเคล็ดลับการดูแลบัญชีเงินฝากนิติบุคคลให้เกิดประโยชน์สูงสุด

บัญชีเงินฝากนิติบุคคลคืออะไร ?

บัญชีเงินฝากนิติบุคคล คือ บัญชีเงินฝากที่เปิดขึ้นเพื่อใช้สำหรับธุรกิจหรือองค์กรต่าง ๆ ซึ่งแตกต่างจากบัญชีเงินฝากบุคคลทั่วไป ตรงที่บัญชีเงินฝากนิติบุคคลจะมีเอกสารและขั้นตอนในการเปิดบัญชีที่แตกต่างกันตามประเภทของนิติบุคคล เช่น บริษัทจำกัด บริษัทมหาชน ห้างหุ้นส่วนจำกัด เป็นต้น

วิธีการเปิดบัญชีเงินฝากนิติบุคคล

หากเอกสารที่ใช้สำหรับการเปิดบัญชีเงินฝากบุคคลธรรมดา จะมีเพียงบัตรประชาชน แต่ในทางกลับกัน การเปิดบัญชีเงินฝากนิติบุคคลนั้นจำเป็นต้องใช้เอกสารที่มากกว่านั้น เพื่อแสดงหลักฐานความมีอยู่ของนิติบุคคลนั้น ๆ และระบุผู้ที่สามารถสั่งจ่ายและบริหารจัดการเงินในบัญชีนั้น ๆ ได้ เพื่อให้เกิดความรอบคอบมากที่สุด โดยมีขั้นตอนในการเปิดบัญชี ดังนี้

เตรียมเอกสาร : เตรียมเอกสารที่จำเป็นตามที่ธนาคารกำหนด เช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หนังสือมอบอำนาจ และบัตรประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม
เลือกธนาคาร : เลือกธนาคารที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจ พิจารณาจากอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมบริการ สาขาและช่องทางการทำธุรกรรมที่สะดวก
ยื่นเอกสาร : นำเอกสารที่เตรียมไว้ไปยื่น ณ ธนาคารที่เลือก พร้อมทั้งกรอกแบบฟอร์มการเปิดบัญชีตามที่ธนาคารกำหนด ซึ่งปัจจุบันบางธนาคารสามารถให้ยื่นเอกสารผ่านช่องทางออนไลน์ได้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่บริษัทมากที่สุด
รอการอนุมัติ : ธนาคารจะดำเนินการตรวจสอบเอกสารและอนุมัติการเปิดบัญชี ซึ่งอาจใช้เวลาประมาณ 1-2 วันทำการ โดยจะติดต่อกลับมาที่บริษัทหากมีประเด็นต้องแก้ไข หรือเมื่อพร้อมดำเนินการขั้นตอนต่อไป

การเลือกธนาคารที่ทำให้บัญชีเงินฝากนิติบุคคลคุ้มค่า

อัตราดอกเบี้ย : เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของธนาคารต่าง ๆ เพื่อเลือกธนาคารที่ให้อัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุด
ค่าธรรมเนียม : พิจารณาค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการเปิดบัญชี ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม และค่าธรรมเนียมรายเดือน เพื่อเลือกธนาคารที่มีค่าธรรมเนียมต่ำที่สุด
บริการเสริม : ตรวจสอบบริการเสริมต่าง ๆ ที่ธนาคารมีให้ เช่น การทำธุรกรรมออนไลน์ การโอนเงินระหว่างประเทศ การให้คำปรึกษาทางการเงิน
เปรียบเทียบข้อเสนอ : ก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี ควรเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลาย ๆ ธนาคาร เพื่อเลือกธนาคารที่ให้เงื่อนไขที่ดีที่สุด
สาขาและช่องทางการทำธุรกรรม : พิจารณาจำนวนสาขาและช่องทางการทำธุรกรรมที่สะดวก เช่น ATM, Internet Banking, Mobile Banking เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม
โปรโมชัน : ตรวจสอบโปรโมชันต่าง ๆ ที่ธนาคารจัดให้ เช่น โปรฯ สำหรับลูกค้าใหม่ หรือโปรฯ สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการหลายธุรกรรม
อ่านสัญญาอย่างละเอียด : อ่านสัญญาการเปิดบัญชีอย่างละเอียด เพื่อทำความเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของทั้งสองฝ่าย

เคล็ดลับการดูแลบัญชีเงินฝากนิติบุคคลให้เกิดประโยชน์สูงสุด

แยกบัญชี : แยกบัญชีเงินฝากออกเป็นหลายบัญชีตามวัตถุประสงค์ เช่น บัญชีเงินเดือน บัญชีค่าใช้จ่าย บัญชีเงินทุนหมุนเวียน เพื่อควบคุมการเงินของบริษัทให้ได้ง่ายขึ้น
ทำบัญชีอย่างสม่ำเสมอ : ทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายของบริษัทอย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามยอดเงินคงเหลือและวางแผนการเงินของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ใช้บริการ Internet Banking : ใช้บริการ Internet Banking เพื่อตรวจสอบยอดเงิน โอนเงิน และชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ : ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน เพื่อขอคำแนะนำในการบริหารจัดการบัญชีเงินฝากนิติบุคคลให้เหมาะสมกับธุรกิจ
เลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสม : เลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจ เช่น เงินฝากประจำ เงินฝากออมทรัพย์ หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ
ตรวจสอบยอดเงินและรายการเดินบัญชีเป็นประจำ : ตรวจสอบยอดเงินและรายการเดินบัญชีอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น โดยบางธนาคารอาจมีให้บริการสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยดีสำหรับธุรกิจที่เปิดบัญชีเงินฝากนิติบุคคลและมีประวัติการเดินบัญชีที่น่าเชื่อถือ

การดูแลบัญชีเงินฝากนิติบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ธุรกิจมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีขึ้น และสามารถวางแผนการเงินในอนาคตได้อย่างมั่นคง

เคล็ดลับการดูแลบัญชีเงินฝากนิติบุคคลให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ข่าวการบริหารจัดการ+บริหารจัดการวันนี้