PwC ประเทศไทย ลงทุน 9 ลบ. ปิดช่องว่างทักษะด้านดิจิทัลของบุคลากรภายในสองถึงสามปีข้างหน้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

เน้นเสริมสร้างทักษะด้าน AI และ Data analytics เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลตลาดและผลประกอบการของลูกค้า

PwC ประเทศไทย ลงทุน 9 ลบ. ปิดช่องว่างทักษะด้านดิจิทัลของบุคลากรภายในสองถึงสามปีข้างหน้า

PwC ประเทศไทย เดินหน้ายกระดับทักษะด้านดิจิทัลให้กับบุคลากรผ่านการลงทุนกว่า 9 ลบ. เพื่อปรับปรุงหลักสูตร digital upskilling ร่วมกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ชั้นนำ หวังปิดช่องว่างด้านทักษะดิจิทัลของหุ้นส่วนและพนักงานให้สำเร็จภายในสองถึงสามปีข้างหน้า เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนข้อมูลและเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างแท้จริง

นาย พิสิฐ ทางธนกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวว่า การพัฒนาทักษะของบุคลากรให้มีความพร้อมกับการทำงานในยุคที่ธุรกิจเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปสู่ดิจิทัล ถือเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของบริษัท โดยได้ตั้งงบลงทุนในช่วงระยะเวลาสี่ปี (ปี 2567 - 2571) สำหรับปรับปรุงหลักสูตรการยกระดับทักษะด้านดิจิทัล (digital upskilling) ประมาณ 9 ล้านบาทเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับหุ้นส่วนและพนักงานในการเผชิญกับความท้าทายและแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ จากการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีที่จะตามมาในอนาคต

"เราต้องการที่จะสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เป็น 'AI-first' โดยส่งเสริมให้บุคลากรทุกคนมีโอกาสในการเข้าถึงการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีแนวคิดที่เปิดกว้าง และมีความพร้อมที่จะปรับแนวคิดและวิธีการทำงานให้เกิดความคล่องตัว เพราะเราเชื่อว่า กระบวนการทำงานที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยข้อมูลและเทคโนโลยีที่ทันสมัยนั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้าของเราได้อย่างยั่งยืน" นาย พิสิฐ กล่าว ทั้งนี้ ข้อมูลจากรายงานผลสำรวจความหวังและความกังวลของกำลังแรงงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2567 ฉบับประเทศไทย ระบุว่า 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยกล่าวว่า พวกเขาต้องการที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและเครื่องมือใหม่ ๆ สำหรับการทำงาน โดย 75% คาดหวังว่า เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แบบรู้สร้าง (generative AI: GenAI) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน อีกทั้งเพิ่มความมั่นคงในหน้าที่การทำงานของพวกเขาในอนาคต (67%)

นาย พิสิฐ กล่าวต่อว่า PwC ประเทศไทย ได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ อาทิ Coursera, LinkedIn Learning และบริษัทเทคโนโลยี เช่น Microsoft เพื่อนำเสนอหลักสูตรออนไลน์ที่สำคัญ ๆ เช่น Machine Learning Specialisation โดยมหาวิทยาลัย Stanford, Generative AI for Business Leaders โดย LinkedIn หรือ Copilot for Microsoft 365 เป็นต้น เพื่อให้บุคลากรสามารถเรียนรู้เนื้อหาการฝึกอบรมที่มีคุณภาพสูงได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ข้อมูลและข้อแนะนำจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อสร้างเส้นทางการเรียนรู้เฉพาะตัว (personalised learning path) ที่จะช่วยยกระดับทักษะเฉพาะทางได้อย่างเหมาะสมให้กับตนเอง

ปิดช่องว่างทักษะดิจิทัลของบุคลากรให้ได้ภายในสองถึงสามปีข้างหน้า

นอกเหนือไปจากการยกระดับทักษะเฉพาะของบุคลากรในแต่ละสายงานแล้ว นาย พิสิฐ กล่าวว่า PwC ประเทศไทย ยังได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะด้าน AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง (data analytics) เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการประมวลข้อมูลเชิงลึกและผลประกอบการ เพิ่มประสิทธิภาพในการปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดของลูกค้าให้ตรงเป้าหมายมากขึ้น ไปจนถึงการคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต โดยในปีนี้บริษัทได้พัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมด้าน AI และดิจิทัลอย่างหลากหลายครอบคลุมบุคลากรทุกสายงานและทุกระดับตั้งแต่หุ้นส่วนไปจนถึง Associate ผ่านการฝึกอบรมที่มีทั้งรูปแบบในห้องเรียน ออนไลน์ ไปจนถึงการฝึกปฎิบัติงานไปพร้อมการทำงานจริง (on-the-job training) โดยมีเนื้อหาที่พัฒนาโดย PwC เองทั้งจากในและต่างประเทศ รวมถึงหลักสูตรจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก

ทั้งนี้ PwC ประเทศไทย ได้จัดหลักสูตรการยกระดับทักษะด้าน Gen AI และดิจิทัลให้กับบุคลากรจำนวนเกือบ 2,000 คนมาตั้งแต่ปี 2563 โดยจากการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาพบว่า มากกว่า 86% กล่าวว่า GenAI ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงานของพวกเขามากขึ้น และ 100% ตั้งใจที่จะใช้งานเทคโนโลยีนี้ต่อไป

"บริษัทมีตั้งเป้าหมายที่จะปิดช่องว่างทักษะด้านดิจิทัลของพนักงานให้ได้ โดยต้องการให้คนของเรามีทักษะและสามารถใช้งานเครื่องมือด้าน AI และดิจิทัลต่าง ๆ ได้อย่างเชี่ยวชาญภายในเวลาสองถึงสามปีข้างหน้า โดยเราได้ออกแบบการรับฟังความคิดเห็น การประเมินทักษะ และข้อมูลการใช้งานระบบต่าง ๆ เพื่อติดตามผลการพัฒนาทักษะของหุ้นส่วนและพนักงาน และจะได้นำผลลัพธ์ที่ได้มาปรับปรุงแผนงานอย่างต่อเนื่องต่อไป" นาย พิสิฐ กล่าว


ข่าวและเทคโนโลยี+ผลประกอบการวันนี้

ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง "WASH" และแบบคำขอเสนอขายไอพีโอ 105.88 ล้านหุ้น เข้าตลาดเอ็ม เอ ไอ ชูโมเดลธุรกิจลงทุน-ขยาย-บริหารเอง สร้างรายได้ประจำ ปักธงขยายสาขาทั่วประเทศ มุ่งสู่ผู้นำร้านสะดวกซักครบวงจรของไทย

"บริษัท ลอนดรี้ ยู จำกัด (มหาชน)" หรือ "WASH" หนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการร้านสะอาดซักครบวงจรชั้นนำของไทย ภายใต้แบรนด์ "WashXpress" เตรียมความพร้อมเสนอขายหุ้น IPO เข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หลังสำนักงาน ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่งแล้ว ชูจุดเด่นโมเดลธุรกิจที่แตกต่าง เน้นลงทุนสาขาของตนเองเป็นหลัก และขยายสู่บริการใหม่ เพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่อง ขณะที่ผลประกอบการปี 65-67 เติบโตอย่างก้าวกระโดด และบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ มุ่งขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี

บริษัท JARTON ผู้นำด้านระบบความปลอดภัยและ... JARTON เปิดตัว Black Series hardware โทนดำที่สะท้อนความหรูและความแข็งแรง พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษ — บริษัท JARTON ผู้นำด้านระบบความปลอดภัยและเทคโนโลยีอัจฉริ...

MSC จับมือ TERA ลงนามสัญญาความร่วมมือดำเน... MSC จับมือ TERA ลงนามสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ ด้าน AWS Public Cloud และ GenAI — MSC จับมือ TERA ลงนามสัญญาความร่วมมือดำเนินธุรกิจ เพื่อรองรับการเติบโตทั่...

ดร.โศรดา วัลภา รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาบ... วว. ร่วมกับ JILM ประเทศญี่ปุ่น เสริมแกร่งผู้ประกอบการด้านอลูมิเนียมอัลลอยมาตรฐานสากล — ดร.โศรดา วัลภา รองผู้ว่าการวิจัยและพัฒนาบริการอุตสาหกรรม สถาบันวิจั...

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโล... จากเกมสู่การเรียนรู้ คู่มือบอร์ดเกม "ทรัพย์สินทางปัญญา" พัฒนาทักษะการออกแบบและเทคโนโลยี — สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) พาใช้สื่อจัด...

เพื่อสนับสนุนการมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊... CPF ส่งผลิตภัณฑ์กลุ่มไข่ไก่สด ไข่ต้ม ไข่สมุนไพร และอาหารพร้อมทาน รับฉลากสิ่งแวดล้อม — เพื่อสนับสนุนการมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ต...

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโล... จันทรุปราคาเกิดขึ้นได้อย่างไร พาชั้นเรียนเข้าใจที่คลังสื่อการสอน สสวท. — สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) จัดเต็มเพื่อคุณครูพาใช้สื่อกา...