กรมอนามัย เผย 7 พื้นที่อับอากาศต้องระวัง แนะเจ้าของกิจการกำหนดมาตรการกำกับดูแลผู้ปฏิบัติงาน และตรวจวัดก๊าซพิษ และปริมาณออกซิเจนก่อนเข้าพื้นที่

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยถังน้ำมัน ถังเก็บสารเคมี บ่อบำบัดน้ำเสีย อุโมงค์ระบายน้ำ อุโมงค์รถไฟ ห้องใต้ดิน ไซโลเก็บเมล็ดพืช หรือสิ่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน เป็นพื้นที่อับอากาศต้องระวัง แนะผู้ประกอบกิจการ และผู้ปฏิบัติงาน ควรปฏิบัติตามข้อแนะนำ 8 ประการ เช่น การตรวจวัดก๊าซพิษ ตรวจระบบไฟฟ้า ก่อนเข้าปฏิบัติงาน เพื่อความปลอดภัย

กรมอนามัย เผย 7 พื้นที่อับอากาศต้องระวัง แนะเจ้าของกิจการกำหนดมาตรการกำกับดูแลผู้ปฏิบัติงาน และตรวจวัดก๊าซพิษ และปริมาณออกซิเจนก่อนเข้าพื้นที่

นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยถึงกรณีการเสียชีวิตของผู้ปฏิบัติงานในสถานประกอบกิจการผลิตปลาร้าในจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยคาดว่าอาจเกิดจากการได้รับก๊าซไข่เน่า หรือ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ ซึ่งเป็นก๊าซพิษที่ไม่มีสี กลิ่นคล้ายไข่เน่า และเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก อาการเบื้องต้น เมื่อสูดดมก๊าซไข่เน่าในระดับความเข้มข้นต่ำถึงปานกลาง จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตา ตาแดง น้ำตาไหล เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และมีปัญหาการหายใจ แต่หากได้รับในระดับความเข้มข้นสูงถึงสูงมาก จะสูญเสีย การรับรู้กลิ่น หมดสติ ปอดบวม ระบบหายใจล้มเหลว และอาจเสียชีวิตได้ โดยที่ความเข้มข้นระดับมากกว่า 200 ppm ไฮโดรเจนซัลไฟด์ จะยับยั้งขบวนการหายใจโดยใช้ออกซิเจนที่ระดับเซลล์ และไปทำปฏิกิริยากับฮีโมโกบินในเลือดอาจส่งผลให้เลือดเป็นสีเขียวได้ โดยในการปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงที่เป็นพื้นที่อับอากาศต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของสุขภาพและสุขอนามัยเป็นสำคัญ ตัวอย่างของพื้นที่อับอากาศ อาทิเช่น ถังน้ำมัน ถังเก็บสารเคมีบ่อบำบัดน้ำเสีย อุโมงค์ระบายน้ำ อุโมงค์รถไฟ ห้องใต้ดิน ไซโลเก็บเมล็ดพืช เจ้าของกิจการควรมีมาตรการและกำกับดูแลผู้ปฏิบัติงานให้ปฏิบัติตามข้อแนะนำสำคัญ 8 ประการ ดังนี้ 1) วางแผนการทำงานและการป้องกันอันตรายควบคุมดูแลผู้ปฏิบัติงานชี้แจงหน้าที่ วิธีทำงานการป้องกันอันตรายให้ผู้ที่ต้องเข้าไปทำงานในพื้นที่เสี่ยงทราบ2) ประเมินสุขภาพของเจ้าหน้าที่ที่ต้องลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่อับอากาศก่อน หากพบว่ามีอาการป่วย บาดเจ็บ หรือร่างกายอ่อนเพลีย ควรหลีกเลี่ยงการลงพื้นที่ปฏิบัติงาน และให้เปลี่ยนเป็นเจ้าหน้าที่อื่นที่มีความพร้อมของร่างกายแทน 3) ขณะปฏิบัติงานให้จัดทำป้าย "พื้นที่ที่อับอากาศ พื้นที่เสี่ยง พื้นที่อันตราย ห้ามเข้า" ติดไว้ที่บริเวณหน้าทางเข้า - ออก และต้องมีระบบการขออนุญาตก่อนเข้าทำงานทุกครั้ง 4) ตรวจสอบระบบไฟฟ้า อุปกรณ์ สวิตช์ไฟต่าง ๆ ให้ใช้งานได้ปกติ ไม่มีสายไฟขาดหรือชำรุด และควรมีระบบตัดไฟอัตโนมัติหากเกิดกรณีไฟฟ้าช็อต หรือไฟฟ้ารั่วในพื้นที่ทำงาน

นายแพทย์ธิติ กล่าวต่อไปว่า ประเด็นที่สำคัญ คือ 5) การตรวจวัดก๊าซพิษ ก๊าซติดไฟและปริมาณก๊าซออกซิเจนต้องอยู่ระหว่าง 19.5 - 23.5 เปอร์เซ็นต์ ก่อนลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่อับอากาศทุกครั้ง และต้องกำหนดระยะเวลาปฏิบัติงานต่อคนที่ชัดเจน เพื่อลดความเสี่ยงการเสียชีวิตหรือหมดสติในขณะปฏิบัติงาน 6) ต้องมีระบบหรือกลไกการแจ้งขอความช่วยเหลือกรณีเจ้าหน้าที่ประสบเหตุในพื้นที่อับอากาศ และต้องมีผู้ควบคุม และมีผู้ช่วยเหลืออยู่ประจำบริเวณทางเข้า - ทางออก ตลอดเวลาที่มีการทำงาน โดยผู้ควบคุม และผู้ช่วยเหลือต้องมีความรู้ในการป้องกันตนเอง ขณะลงไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุด้วย 7) จัดให้มีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล Personal Protective Equipment (PPE) อุปกรณ์ช่วยเหลือและช่วยชีวิตที่เหมาะสม และ 8) ผู้ที่จะต้องเข้าไปทำงานในที่อับอากาศมีลักษณะงานที่เสี่ยงต่อการได้รับหรือสัมผัสอันตรายจะต้องผ่านการอบรมความปลอดภัย ในการทำงานในที่อับอากาศ

"สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเจ้าพนักงานท้องถิ่นมีอำนาจตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในการพิจารณาอนุญาตในการประกอบกิจการประเภทดังกล่าว ควรต้องมีการกำกับ ติดตาม และตรวจสอบสถานประกอบกิจการให้เป็นไปตามมาตรฐานและถูกสุขลักษณะ ก่อนการออกใบอนุญาตและต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการทุกครั้ง" รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว


ข่าวกระทรวงสาธารณสุข+จังหวัดเพชรบูรณ์วันนี้

ผนึกกำลัง กรมอนามัย - เอกชน ร่วมดูแลสุขภาพช่องปาก สร้างรอยยิ้มเด็กไทย

วันนี้ (30 มิถุนายน 2568) กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือภายใต้โครงการพัฒนาวิชาการและโมเดลส่งเสริมสุขภาพช่องปาก : Sandbox จังหวัดเด็กฟันดี มุ่งสู่เป้าหมาย "เด็กไทยฟันดี ไม่มีฟันผุ" พร้อมทั้งปล่อยรถทันตกรรมเคลื่อนที่ Lion Smile Express โดยมี แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย พร้อมด้วย คุณชาติ จันทร์วิจิตร ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ดร. นายแพทย์ปองพล วรปาณิ รองอธิบดีกรมอนามัย และคุณสายพิณ ประจงพงศ์พันธุ์ กรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศ

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มอบรางวัลผลงานเครือข... สธ.เชิดชูผลงานเครือข่ายดีเด่นทั่วประเทศ สร้างคนไทยรอบรู้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ — ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มอบรางวัลผลงานเครือข่ายโดดเด่นดีเยี่ยม Best of the Best ในก...

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดกิจกรรมรณรง... กรมอนามัย ย้ำ "ทุกบ้าน ทุกครัวเรือน ต้องมีไอโอดีน" รณรงค์วันไอโอดีนแห่งชาติ — กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดกิจกรรมรณรงค์วันไอโอดีนแห่งชาติ หนุน ทุกบ้าน ท...

กระทรวงสาธารณสุข โดย กรมอนามัย จับมือ มูล... สธ.-มูลนิธิศูนย์นมแม่ฯ-สสส. ยกระดับนโยบาย"เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน"สู่ระดับชาติ — กระทรวงสาธารณสุข โดย กรมอนามัย จับมือ มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งป...

วันนี้ (20 มิถุนายน 2568) นายสราวุธ อ่อนล... รวมพลังสร้างรอยยิ้ม! สธ. - ท้องถิ่น - เอกชน ร่วมดูแลช่องปากผู้สูงวัยหนองปรง — วันนี้ (20 มิถุนายน 2568) นายสราวุธ อ่อนละมัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระ...

นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักก... กทม. สร้างภูมิคุ้มกันนักเรียนรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในสถานศึกษา — นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา (สนศ.) กทม. กล่าวถึงมาตรกา...

นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร (ที่3 จากซ้าย) ประ... BKGI ผนึกกรมวิทย์ฯ รับถ่ายทอดเทคโนโลยีเซลล์บำบัด ดันไทยสู่ศูนย์กลางการแพทย์ภูมิภาค — นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร (ที่3 จากซ้าย) ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แบงค...