ปักหมุดปี 73 เพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์อาหารมูลค่าสูงเป็น 2 เท่า หนุนเติบโตยั่งยืน
บมจ.ไทยวา (TWPC) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 กำไรจากการดำเนินงานหลัก 117 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ กำไรจากการดำเนินงานปกติ (Core EBIT) อยู่ที่ 171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.4% ตอกย้ำศักยภาพในการพลิกฟื้นด้วยผลกำไรที่ดีขึ้น และมีแนวโน้มธุรกิจที่สดใส ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกยังคงผันผวน สามารถปรับตัวได้อย่างแข็งแกร่งในฐานะหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมอาหาร พร้อมปักหมุดปี 73 เพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์อาหารมูลค่าสูงเป็น 2 เท่า ผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืน
นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) (TWPC) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นและกำไรจากการดำเนินงานหลักเพิ่มขึ้นอย่างดีเยี่ยม อันเป็นผลจากการวางแผนธุรกิจเชิงกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตมาตั้งแต่กลางปี 2567 โดยมียอดขายรวม 2,299 ล้านบาท และมี EBITDA 285 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกำไร 12% ของยอดขาย ส่วนกำไรจากการดำเนินงานหลัก 117 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ กำไรจากการดำเนินงานปกติ (Core EBIT) อยู่ที่ 171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
"ผลสำเร็จเหล่านี้เกิดจากการผลักดันกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีสัดส่วนกำไรสูง การบริหารจัดการต้นทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยธุรกิจอาหารของไทยวาเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทาน (Ready-to-Eat) ที่ได้รับความนิยมหลังจากเปิดตัว ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์หลักอื่น ๆ ในไทยและเวียดนามมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัทฯ ได้ผนึกกำลังกับ ฟูจิ นิฮอน คอร์ปอเรชัน เสริมความแข็งแกร่งในการขยายไปยังตลาดส่วนผสมอาหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก"
นอกจากนี้ ไทยวา กรุ๊ป ยังได้เปิดตัวโรดแมป " Thai Wah 2030" ซึ่งเป็นแผนทรานสฟอร์มองค์กรในระยะยาว ที่มีเป้าหมายหลักคือการสร้างการเติบโต พัฒนานวัตกรรม และดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมอาหารระดับโลก ผ่านการสร้างธุรกิจหลักให้แข็งแกร่ง การลงทุนในธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูง และดำเนินการตามแนวทางด้านความยั่งยืน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ในระดับสากล โดยนับตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ธุรกิจอาหาร ธุรกิจแป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม (High-Value Application หรือ HVA) ธุรกิจในประเทศเวียดนาม และผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทาน(Ready-to-Eat) ของไทยวา มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราเลข 2 หลักมาตลอด 5 ปี ในขณะเดียวกัน ไทยวายังคงให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและความยั่งยืน และการขยายพอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์อย่างหลากหลายเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น
สำหรับแผน Thai Wah 2030 สร้างการเติบโตที่ยั่งยืนด้วยอาหารและนวัตกรรม ไทยวาเดินหน้าพลิกโฉมองค์กรครั้งสำคัญ โดยขับเคลื่อนผ่านกลยุทธ์หลักใน 3 ด้าน ที่ตั้งเป้าไว้อย่างท้าทายภายในปี 2573 ได้แก่
เดินหน้าปรับพอร์ทโฟลิโอ ไทยวาตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนของผลิตภัณฑ์อาหาร และผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม ให้เป็น 2 เท่าภายในปี 2573 โดยจะเน้นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำยอดขายได้สูงที่สุด และขยายไปยังตลาดใหม่ๆ กลยุทธ์นี้ยังรวมถึงการเพิ่มสินค้าให้หลากหลายนอกเหนือจากวุ้นเส้น เช่น แผ่นแป้งข้าวเจ้า เส้นมันเทศ วุ้นเส้นสด วุ้นเส้นแห้ง ก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ (Bean sheet) ผลิตภัณฑ์พร้อมรับประทานแบบซอง เส้นหมี่สด เส้นหมี่แห้ง เส้นก๋วยเตี๋ยวออร์แกนิก รวมถึงผลิตภัณฑ์พร้อมปรุงและพร้อมรับประทานต่าง ๆ นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าในการเป็นผู้เล่นในตลาดอาหารเพื่อสุขภาพมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ Clean-label รวมถึงผลิตภัณฑ์ปราศจากกลูเตน และปลอด GMO เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ การเดินหน้าปรับพอร์ทโฟลิโอนี้ส่งผลให้ไทยวามี EBITDA และอัตรากำไรสุทธิที่ดีขึ้น จากการเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงและพรีเมียมมากขึ้น
รวมถึงมีแผนขยายสู่ตลาดศักยภาพสูง ไทยวากำลังมุ่งขยายธุรกิจไปยังภูมิภาคที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เช่น ตะวันออกกลาง ยุโรป เอเชียแปซิฟิก และจีน โดยตั้งเป้าที่จะเป็นผู้นำตลาด 1 ใน 3 ของกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักในตลาดเหล่านี้ให้ได้ภายในปี 2573 โดยจะสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมกับลูกค้า ผ่านการพัฒนานวัตกรรมและความร่วมมือต่างๆ ปัจจุบัน ไทยวามีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงเทพฯ และขยายธุรกิจไปในต่างประเทศ โดยมีสำนักงานขาย การตลาด การจัดจำหน่าย และซัพพลายเชน รวม 10 แห่ง ใน 7 ประเทศ เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วถึงและรวดเร็วยิ่งขึ้น
รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนและสัดส่วนผลกำไร ธุรกิจแป้งมันสำปะหลังซึ่งเป็นธุรกิจหลักของไทยวา ยังคงสร้างรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและขั้นตอนการดำเนินงาน โดยได้ริเริ่มโครงการต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มสัดส่วนกำไร เช่น การปรับปรุงต้นทุนในส่วนซัพพลายเชน การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต และการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ส่วนโมเดลของธุรกิจ HVA ของไทยวา มีการจัดการที่ดีตั้งแต่การจัดซื้อวัตถุดิบ ไปจนถึงการจัดจำหน่าย ซึ่งเครือข่ายการขายและการจัดจำหน่ายอาหาร B2B ของบริษัทฯ ถือเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชียแปซิฟิก โดยมีสำนักงานในอินเดีย อินโดนีเซีย และล่าสุดคือฟิลิปปินส์ โดยธุรกิจ HVA และโซลูชันแป้งมันสำปะหลังและส่วนประกอบอาหารที่ออกแบบได้ตามความต้องการของลูกค้า นับเป็นธุรกิจสำคัญที่สร้างการเติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันไทยวามีลูกค้า HVA มากกว่า 100 รายทั่วโลก
"ไทยวา ตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำด้านอาหารของเอเชีย ภายในปี 2573 โดยจะพัฒนานวัตกรรมควบคู่กับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในทุกด้านอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะผันผวน และมีเรื่องภาษีที่ต้องบริหารจัดการ แต่เราต้องเร่งปรับตัว เพิ่มความยืดหยุ่น และพร้อมตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ ไทยวาจะเดินหน้าพัฒนาเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารให้กับผู้บริโภคในเอเชีย และสร้างความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคนี้ ด้วยความแข็งแกร่งด้านการขาย การตลาด และการจัดจำหน่าย ทั้งในกลุ่มลูกค้า B2B และ B2C ภายใต้เป้าหมายที่เป็นเลิศ คือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้ได้มากกว่า 10 รายการในทุกปี"
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TWPC กล่าวอีกว่า แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจจะยังมีความท้าทาย แต่ไทยวายังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น บริษัทฯ จะเร่งพัฒนาสินค้าในกลุ่มอาหาร และดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุน ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มกำไร โดยตั้งเป้าว่าในปี 2569 จะมี EBITDA อย่างน้อย 1 พันล้านบาทต่อปี และต่อเนื่องในปีต่อๆ ไปจนถึง 2573 นอกจากนี้ ในปี 2567 ไทยวายังได้รับรางวัลหนึ่งในบริษัทที่น่าทำงานที่สุด จาก HR Asia ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ซึ่งพิสูจน์ถึงความใส่ใจในการดูแลสุขภาวะของพนักงานซึ่งเป็นส่วนสำคัญในความสำเร็จของไทยวาตลอดมา
CPANEL ส่งสัญญาณ Q2/68 เร่งส่งมอบงาน โครงการภาครัฐ โครงการอสังหาฯ แนวราบ คอนโด Low Rise รับรู้รายได้เต็มสูบ คว้างานใหม่เพิ่มมูลค่า 104.28 ล้านบาท ดัน Backlog แตะ 1,398.12ล้านบาท ชูจุดเด่นเทคโนโลยี Precast Earthquake Resistance ตอบโจทย์มาตรฐานความปลอดภัย ภายหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหว เดินหน้าประมูลงานโครงการรัฐขนาดกลาง-ใหญ่ และเอกชนเพิ่ม มั่นใจพลิกทำกำไร ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 รายได้รวม 38.24 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 15.26 ล้านบาท นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด
PIMO-ไพโม่ ร่วมงาน Opportunity Day นำเสนอผลงาน Q1/68
—
คุณสิริรัตน์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการและคุณปภัสร์ อิทธิโรจนกุล ผู้จัดการสายงานการผลิต บมจ.ไพโอ...
AURA โชว์ฟอร์ม Q1/68 กวาดรายได้ 8,863 ลบ. กำไรพุ่ง 45% นิวไฮต่อ เดินหน้าปั้น "ทองมาเงินไป" โตแรง ปัจจุบันพอร์ตอยู่ที่ 5,183 ลบ.
—
บมจ. ออโรร่า ดีไซน์ (AUR...
AMARC โชว์งบ Q1/2568 สุดปัง! รายได้พุ่ง 102.91 ลบ. โต 33.8% กำไรทะยาน 281.5% รับอานิสงส์ขยายบริการ-บุกตลาดภูมิภาค
—
AMARC รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี ...
ไฮเออร์ สมาร์ทโฮม โชว์ฟอร์มแกร่งสวนกระแส รายได้ Q1 ปี 68
—
ทะลุ 79.1 พันล้านหยวน (403.51 พันล้านบาท) โต 10.1% เดินหน้ากลยุทธ์ AI ขับเคลื่อนสู่อนาคต พร้อมย...
ETL คาด Q2 โตต่อเนื่อง ขนส่งทุเรียนชูโรง หลังกำไร Q1/68 โต 20% พร้อม Turnaround
—
บมจ.ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ หรือ ETL เผยกำไรไตรมาส 1/68 โต 20% หลัง...
SABINA เผยผลงานไตรมาสแรกปี 2568 รายได้รวม 845.1 ล้านบาท ยอมรับภาวะเศรษฐกิจฉุดกำลังซื้อ-มั่นใจ 9 เดือนหลังกลับมาเติบโตได้ตามเป้า
—
SABINA เผยผลประกอบการไตร...
ORN เปิดงบ Q1/68 รายได้รวม 438.70 ล้านบาท กำไรพุ่งทะยาน 270.93%
—
ORN เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2568 กวาดรายได้รวม 438.70 ล้านบาท โต 123.08% กำไรสุทธิ 38.64 ...