5 สารสกัดที่ควรมีในอาหารเสริมบำรุงตับ รู้ก่อนเลือกซื้อ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

สุขภาพตับ เป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนอาจมองข้าม โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การใช้ยาเป็นระยะเวลานาน หรือแม้แต่การพักผ่อนน้อย ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ตับทำงานหนักเกินไปและเกิดปัญหาตามมา ไม่ว่าจะเป็นภาวะไขมันพอกตับ ตับอักเสบ หรือแม้กระทั่งโรคตับแข็งในระยะยาว

5 สารสกัดที่ควรมีในอาหารเสริมบำรุงตับ รู้ก่อนเลือกซื้อ

หลายคนที่เริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพตับ จึงเริ่มมองหาอาหารเสริมบำรุงตับ เพื่อช่วยฟื้นฟูและป้องกันการทำงานของตับ ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่ดี แต่ก็ต้องเลือกอย่างมีสติ เพราะอาหารเสริมมีให้เลือกมากมาย และไม่ได้ทุกตัวจะให้ผลลัพธ์เท่ากัน การเลือกอาหารเสริมที่มี "สารสกัดสำคัญ" ที่ช่วยเสริมการทำงานของตับอย่างแท้จริง จึงเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างยิ่ง

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 5 สารสกัดที่ควรมีในอาหารเสริมบำรุงตับ ที่ได้รับการยอมรับจากงานวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพว่า "มีประโยชน์ต่อการบำรุงและฟื้นฟูการทำงานของตับ" หากคุณกำลังมองหาอาหารเสริมที่ช่วยดูแลตับของคุณ สารเหล่านี้ควรอยู่ในฉลากเสมอ!

1. สารสกัดจากมิลค์ทิสเซิล (Milk Thistle)

มิลค์ทิสเซิล หรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Silybum marianum เป็นสมุนไพรที่ใช้มานานกว่า 2,000 ปีเหมาะสำหรับเป็นอาหารเสริมบำรุงตับ สารสำคัญในมิลค์ทิสเซิลคือ ซิลิมาริน (Silymarin) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับที่ถูกทำลาย ลดการอักเสบ และทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันความเสียหายจากสารพิษ โดยเฉพาะในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำหรือรับประทานยาบางชนิดที่อาจส่งผลต่อตับ

2. ขมิ้นชัน (Turmeric)

ขมิ้นชันไม่เพียงแค่ช่วยลดอาการอักเสบทั่วไป แต่สารเคอร์คูมิน (Curcumin) ที่อยู่ในขมิ้นชัน ยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง เหมาะสำหรับเป็นอาหารเสริมบำรุงตับ เพราะช่วยส่งเสริมการขับสารพิษออกจากตับ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่พบว่าเคอร์คูมินสามารถลดไขมันพอกตับได้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงจากพฤติกรรมการกินหรือโรคอ้วน

3. อาร์ติโช๊ค (Artichoke Extract)

สารสกัดจากอาร์ติโช๊คอุดมไปด้วยไซนาริน (Cynarin) ซึ่งช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำดี และช่วยให้ตับสามารถขับของเสียได้ดีขึ้น ทั้งยังส่งเสริมระบบย่อยอาหารและลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย อาร์ติโช๊คจึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะตับไขมันพอกหรือระบบย่อยไม่ดี

4. แอล-คาร์นิทีน (L-Carnitine)

L-Carnitine เป็นกรดอะมิโนที่ช่วยลำเลียงกรดไขมันเข้าสู่ไมโตคอนเดรียของเซลล์ เพื่อเผาผลาญเป็นพลังงาน ช่วยลดการสะสมของไขมันในตับ และมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงของภาวะไขมันพอกตับที่ไม่เกิดจากแอลกอฮอล์ (NAFLD) อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูพลังงานในร่างกายให้ดีขึ้น

5. วิตามินบีรวม (Vitamin B Complex)

วิตามินบีรวม โดยเฉพาะ B1, B2, B6, B12 และโฟเลต ล้วนมีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญพลังงาน และการทำงานของตับ วิตามินบีช่วยลดสารพิษที่สะสมในร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ตับที่ถูกทำลายจากความเครียดหรือมลภาวะต่าง ๆ ได้อีกด้วย

การเลือกอาหารเสริมบำรุงตับไม่ควรพิจารณาแค่ราคาหรือแบรนด์เท่านั้น แต่ควรใส่ใจ "ส่วนประกอบ" ที่มีผลโดยตรงต่อการทำงานของตับ หากผลิตภัณฑ์มีสารสกัดจากธรรมชาติที่ได้กล่าวมา ไม่เพียงแต่จะช่วยฟื้นฟูตับจากความเหนื่อยล้าและสารพิษสะสม แต่ยังช่วยป้องกันโรคตับในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่าลืมว่า "ตับ" เป็นอวัยวะที่เงียบ ไม่ค่อยแสดงอาการผิดปกติชัดเจนในระยะแรก จึงควรเริ่มดูแลตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีในวันข้างหน้า


ข่าวดื่มแอลกอฮอล์+ไขมันพอกตับวันนี้

"ตับ" ของคุณยังแข็งแรงดีอยู่ไหม? มาเช็กกันเถอะ!

"ตับ" ของคุณยังแข็งแรงดีอยู่ไหม? มาเช็กกันเถอะ!สัญญาณเตือนว่าตับอาจมีปัญหา อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ตาเหลือง ปัสสาวะสีเข้ม ผิวแห้ง คัน ประจำเดือนมาไม่ปกติ หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างเหมาะสม! ภาวะตับอักเสบเรื้อรังอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ภาวะไขมันพอกตับ, ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ, ใช้ยาเกินความจำเป็น, ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ฯลฯ เมื่อตับอักเสบเรื้อรังเป็นเวลานาน อาจนำไปสู่ภาวะตับแข็ง มะเร็งตับได้

เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปี 2567 ก... อย่ามองข้าม! สุขภาพตับ ช่วงเทศกาลปีใหม่ "กิฟฟารีน" ชวนแคร์ "ตับ" แบบฉบับคนเป๊ะ! — เทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปี 2567 กำลังจะมาถึง เชื่อว่าหลายคนคงมีแ...

ผลวิจัยใหม่ชี้ ทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิดน้อย มีโอกาสเป็นโรคไขมันพอกตับมากกว่ากลุ่มอื่นถึง 4 เท่า

ผลการวิจัยใหม่ที่นำเสนอวันนี้ที่งานยูอีจี วีค (UEG Week) ประจำปี 2566 พบความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างน้ำหนักแรกเกิดกับการเกิดโรคไขมันพอกตับที่ไม่ได้เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ ...

ไขมันพอกตับคือภาวะไขมันสะสมในรูปแบบของไตร... อ่อนเพลียเรื้อรัง.. ต้องระวัง! ไขมันพอกตับ — ไขมันพอกตับคือภาวะไขมันสะสมในรูปแบบของไตรกลีเซอไรด์ในเซลล์ตับ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง...

"มะเร็งตับ" เป็นโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดเป... "มะเร็งตับ" อันตรายที่ผู้ชายต้องระวัง! — "มะเร็งตับ" เป็นโรคมะเร็งที่พบมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโรคมะเร็งที่เกิดในผู้ชายไทย พบได้ตั้งแต่อายุ 30-70 ปี...

โรคมะเร็งตับ มักพบได้บ่อยในเพศชายมากกว่าเ... ตับ เป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุดของเรา.. ให้โรงพยาบาลหัวเฉียวดูแลคุณ — โรคมะเร็งตับ มักพบได้บ่อยในเพศชายมากกว่าเพศหญิง และมีอัตราการเสียชีวิตสูง เกิดจา...

หลายคนอาจยังเข้าใจว่ามะเร็งตับ, ตับอักเสบ... กินของมันบ่อยๆ เสี่ยงเป็นมะเร็งตับได้ — หลายคนอาจยังเข้าใจว่ามะเร็งตับ, ตับอักเสบ หรือไขมันพอกตับ มักเกิดขึ้นเฉพาะคนที่ทานแอลกอฮอล์เป็นประจำเท่านั้น ...

ไขมันพอกตับ ถือเป็นอีกหนึ่งโรคที่พบได้บ่อ... ไขมันพอกตับ ภัยเงียบทำลายสุขภาพ — ไขมันพอกตับ ถือเป็นอีกหนึ่งโรคที่พบได้บ่อย สาเหตุเกิดจากพฤติกรรมการกิน เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ ส่งผลทำให้ตับทำงานได้ไม่...

ไขมันพอกตับคือภาวะไขมันสะสมในรูปแบบของไตร... อ่อนเพลียเรื้อรัง ต้องระวังไขมันพอกตับ — ไขมันพอกตับคือภาวะไขมันสะสมในรูปแบบของไตรกลีเซอไรด์ในเซลล์ตับ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง...