นายเจษฎา จันทรประภา ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ (สนน.) กทม. กล่าวถึงการยกระดับระบบเฝ้าระวังแจ้งเตือนและติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉพาะภัยจากน้ำท่วมว่า สนน. ได้บูรณาการความร่วมมือและประสานสำนักงานเขตทั้ง 50 สำนักงานเขต จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ ภายในสำนักงานเขต เพื่อเป็นศูนย์ให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุน้ำท่วมหรืออื่นๆ พร้อมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องสนับสนุนปฏิบัติการฯ เช่น จัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ รถยก รถดับเพลิง อุปกรณ์กู้ภัย เครื่องมือและอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย รถสายตรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือรับส่งประชาชนสำหรับจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมขังในระดับสูง รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้าช่วยเหลือประชาชนพร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจร นอกจากนี้ ได้บูรณาการความร่วมมือระหว่าง กทม. กับกรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำข้อตกลงและประชุมร่วมกับสำนักงานชลประทานที่ 11 กรมชลประทาน เตรียมความพร้อมบริหารจัดการน้ำ รวมทั้งประสานจังหวัดปริมณฑลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมทางหลวง เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้กับประชาชนได้ทันท่วงทีตลอดช่วงฤดูฝนปี 2568 สำหรับการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ติดตามสภาพอากาศ โดยใช้เรดาร์ตรวจและติดตามกลุ่มฝนและระบบ AI Nowcast คาดการณ์ฝนล่วงหน้า 3 ชั่วโมง เพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบแบบเรียลไทม์ พร้อมทั้งเปิดช่องทางการแจ้งเตือนข้อมูลฝนและสถานการณ์น้ำท่วมขังในพื้นที่กรุงเทพฯ ผ่านแฟลตฟอร์มต่าง ๆ ของ กทม. ให้ประชาชนได้รับทราบล่วงหน้าเพื่อวางแผน การเดินทางและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่วมขัง รวมถึงช่องทางแจ้งเหตุเพื่อขอรับความช่วยเหลือผ่านช่องทางเว็บไซต์ https://dds.bangkok.go.th/, https://pr-bangkok.com/, Facebook:@BKK.BEST X : @BKK_BEST โทร. 0 2248 5115 หรือแจ้งผ่านระบบ Traffy Fondue
นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) กทม. กล่าวว่า ในส่วนของการบริหารจัดการสาธารณภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ในภาวะปกติจะขับเคลื่อนการปฏิบัติและดำเนินการโดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย พ.ศ. 2550 และสอดคล้องกับแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2564-2570 ที่ผ่านมา กทม. ได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์สาธารณภัยที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ พร้อมประสานความร่วมมือและติดตามข้อมูลเพื่อการเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งมีข้อมูลการพยากรณ์อากาศระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว (ฤดูกาล) ในรูปแบบคำพยากรณ์ และการคาดการณ์โอกาสฝนตกในพื้นที่ กรมชลประทาน เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการน้ำในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา โดยให้ข้อมูลปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ กรมควบคุมมลพิษ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 และกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแจ้งเตือนภัยต่าง ๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ กทม. ได้นำข้อมูลจากหน่วยงานดังกล่าวมาแจ้งเตือนให้กับประชาชนได้รับทราบผ่านระบบ ต่าง ๆ อาทิ อินเทอร์เน็ต เว็บไซต์ อีเมล สื่อสังคมออนไลน์ แอปพลิเคชัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติทุกรูปแบบตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หากประชาชนประสบภัยน้ำท่วมขังสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านทางสายด่วน 199 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
กทม.เดินหน้าก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมชุมชนโรงสี-เร่งจัดการบ้านรุกล้ำเจ้าพระยา
กทม. แจงถนนรัชดาฯ - ซอยสุขุมวิท 24 สัญจรได้ปกติ หลังฝนตกหนัก-เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในพื้นที่
กทม. เฝ้าระวังน้ำเหนือ-น้ำหนุนจัดเรียงกระสอบทราย เร่งระบายน้ำ เตรียมพร้อมแผนรับมือทุกด้าน
กทม. เตรียมพร้อมรับมือ "พายุคัลแมกี" ระดมทุกหน่วยเร่งระบายน้ำ-จัดทีมช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชม.
กทม. เฝ้าระวังจุดเสี่ยง - ป้ายโฆษณา - ต้นไม้ใหญ่ เตรียมพร้อมหน่วย BEST ช่วยเหลือประชาชน