นายเพ็ชร ภุมมา ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กทม. กล่าวกรณีข้อสังเกตเกี่ยวกับการรื้อถอนอาคารต่อเติมบริเวณย่านสวนมะลิ เจ้าหน้าที่มาดำเนินการโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ทำให้เจ้าของอาคารไม่ได้ย้ายทรัพย์สินว่า การดำเนินการรื้อถอนอาคารเลขที่ 32, 34, 36 และ 38 ถนนยุคล 1 เป็นการดำเนินการตามคำสั่งให้รื้อถอนอาคาร ตามมาตรา 42 แห่ง พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งรื้อถอนอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก (ค.ส.ล.) ส่วนที่ดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งแต่ระดับเหนือพื้นชั้น ๕ (หลังคาชั้น 4 เดิม) ขึ้นไปออกทั้งหมดและรื้อถอนอาคารส่วนที่ดัดแปลงที่ด้านหลังอาคาร ทั้งนี้ ตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสูดได้พิพากษายืนตามศาลปกครองกลางให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวให้รื้อถอนอาคารให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับแต่วันวันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ต่อมาศาลปกครองกลางมีหมายแจ้งคำสั่งศาลให้ผู้อำนวยการเขตป้อมปราบศัตรูพ่ายดำเนินการรื้อถอนอาคารเลขที่ 32, 34, 36 และ 38 แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ในส่วนต่อเติมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง หากไม่ปฏิบัติให้เสร็จสิ้นภายในกำหนด ศาลปกครองจะไต่สวนเพื่อมีคำสั่งลงโทษ และแจ้งผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกฟ้องคดีต่อไป
สำหรับการเข้ารื้อถอนอาคารดังกล่าว สำนักงานเขตฯ ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยมีหนังสือถึงเจ้าของอาคารให้เร่งรัดรื้อถอนอาคารและแจ้งกำหนดวันเข้ารื้อถอนล่วงหน้าพร้อมปิดประกาศที่หน้าอาคารก่อน 7 วัน โดยปิดประกาศเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 68 รวมถึงมีหนังสือแจ้งให้ขนย้ายสิ่งของที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับคำสั่งให้รื้อถอน และแจ้งค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน ซึ่งทุกขั้นตอนเจ้าของอาคารได้รับหนังสือดังกล่าวทั้งหมดทางไปรษณีย์ตอบรับระหว่างวันที่ 16 - 24 เม.ย. 68
ส่วนการเข้ารื้อถอนอาคาร สำนักงานเขตฯ ได้ประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สถานีตำรวจนครบาล (สน.) พลับพลาไชย 1 การประปานครหลวง การไฟฟ้านครหลวง สำนักเทศกิจ และสำนักงานกฎหมายและคดี เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้ารื้อถอน พร้อมประเมินความเหมาะสมตามสภาพหน้างาน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ทั้งยังได้กำชับผู้รับจ้างให้จัดเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย พร้อมมาตรการป้องกันอันตรายระหว่างการดำเนินการ สำหรับอาคารอื่น ๆ ที่มีพื้นที่ติดต่อกัน สำนักงานเขตฯ จะตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียดเพื่อประกอบการพิจารณาให้ถูกต้องครบถ้วน เพื่อไม่ให้เกิดความไม่เป็นธรรมและกระทบสิทธิของผู้ถูกร้องเรียนในกรณีดังกล่าว
นางภาวิณี รุ่งทนต์กิจ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการ เพื่อแก้ไขปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ของ กทม. ว่า จากนโยบายตรวจสุขภาพ 1,000,000 คนของ กทม. ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 66 -19 พ.ค. 68 ดำเนินการไปแล้ว 690,889 ราย พบว่าประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานร้อยละ 21.94 และมีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวานร้อยละ 10.38 ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้น ปัจจัยเสี่ยงจากพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย และวิถีชีวิต โดย กทม. ได้ตรวจคัดกรองสุขภาพเชิงรุก
มท. 3 นำทีม กปภ. ปฏิบัติการ STEP TEST ลดน้ำสูญเสีย ยกระดับบริการประชาชน
—
นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) และคณะ พร้อมด้วยค...
ท็อปส์ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล จับมือ เอฟแอลเอส กรุ๊ป เปิดตัว 'EV TRUCK' รถพลังไฟฟ้าขนส่งของสด! ยกระดับกรีนโลจิสติกส์ช่วยกระจายสินค้าทั่วไทย
—
ตั้งเป้าลดคาร...
"QTC" หนึ่งใน 72 องค์กร ร่วมประกาศเจตนารมณ์เครือข่ายอนุรักษ์พลังงาน "Energy Beyond Standards 2025" กับ กระทรวงพลังงาน
—
เมื่อเร็วๆ นี้ นายพจน วงศ์คำ รองกร...
กทม. ขานรับนโยบาย ศธ. ยกเว้นแต่งชุดลูกเสือ-เนตรนารี-ยุวกาชาดโรงเรียนในสังกัด พร้อมจัดสวัสดิการ 20 รายการ
—
นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษ...
เขตดอนเมืองเร่งแก้ปัญหาสุนัขจรจัดบริเวณซอยช่างอากาศอุทิศ 5 แยก 2
—
นายสมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตดอนเมือง กทม. กล่าวถึงการแก้ปัญหาสุนัขจรจัด บริเวณ...
MGC-ASIA ดำเนินมาตรการเชิงรุก ตรวจสอบความปลอดภัย อาคารในเครือทั่วประเทศ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว
—
บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหา...