PwC เปิดตัวระบบปฏิบัติการตัวแทน AI เพื่อปฏิวัติเวิร์กโฟลว์ AI สำหรับองค์กร

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ระบบปฏิบัติการตัวแทนของ PwC เป็นศูนย์ควบคุม AI ขององค์กร ซึ่งเชื่อมต่อและปรับขนาดตัวแทนอัจฉริยะให้เข้ากับเวิร์กโฟลว์ที่พร้อมใช้งานทางธุรกิจได้อย่างราบรื่น เร็วกว่าวิธีการแบบเดิมถึง 10 เท่า

PwC เปิดตัวระบบปฏิบัติการตัวแทน AI เพื่อปฏิวัติเวิร์กโฟลว์ AI สำหรับองค์กร

PwC ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการตัวแทน (agent OS) ซึ่งได้รับการออกแบบมาสำหรับองค์กรธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเวิร์กโฟลว์ AI ยุคใหม่ และจัดการกระบวนการทางธุรกิจที่ซับซ้อนที่มีหลายเอเจนต์ในระดับที่ใหญ่ขึ้น โดย agent OS ของ PwC นำเสนอกรอบการทำงานที่สอดคล้องและสามารถปรับขนาดได้สำหรับการสร้าง จัดการ และการบูรณาการเอเจนต์ AI บนแพลตฟอร์ม เครื่องมือ และฟังก์ชันทางธุรกิจที่หลากหลาย ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถก้าวข้ามการทดลองใช้ AI และนำ AI มาใช้ในระดับองค์กรได้

องค์กรต่าง ๆ กำลังเผชิญกับความท้าทายที่สำคัญ นั่นคือ ตัวแทน AI กำลังได้รับการพัฒนาในหลายรูปแบบ ซึ่งบางส่วนเป็นฟีเจอร์ที่ฝังอยู่ในแพลตฟอร์ม บางส่วนเป็นแอปพลิเคชันแบบสแตนด์อโลน หรือบางส่วนเป็นตัวแทนที่มีความเชี่ยวชาญสูงที่สร้างขึ้นบนชุดพัฒนาซอฟต์แวร์ (software development kits: SDKs) ที่เป็นกรรมสิทธิ์หรือโอเพนซอร์ส อย่างไรก็ตาม เมื่อฟีเจอร์เหล่านี้ถูกฝังอยู่ ตัวแทนเหล่านี้มักประสบปัญหาในการสื่อสาร การทำงานร่วมกัน และการปรับขนาดให้มีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมองค์กรที่ซับซ้อน

ระบบปฏิบัติการตัวแทนของ PwC แตกต่างจากเครื่องมืออื่น ๆ ที่สนับสนุนระบบเอเจนต์ที่แยกส่วน โดยนำเสนอโครงสร้างการจัดการแบบรวมศูนย์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นทั้งระบบประสาทส่วนกลางและแผงควบคุมสำหรับ AI ในองค์กร ระบบนี้สามารถเชื่อมต่อเอเจนต์ AI จากแพลตฟอร์มหรือกรอบการทำงานต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น และรวมเข้ากับเวิร์กโฟลว์แบบโมดูลาร์ที่ปรับเปลี่ยนได้ ทั้งยังผสานรวมเข้ากับระบบสำคัญขององค์กร เช่น Anthropic, AWS, GitHub, Google Cloud, Microsoft Azure, OpenAI, Oracle, Salesforce, SAP, Workday และอื่น ๆ ได้อย่างลงตัว

ไม่เพียงเท่านี้ agent OS ของ PwC ได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนการสร้างเอเจนต์ AI ภายในองค์กร โดยใช้ประโยชน์จาก SDKs ของบริษัทภายนอกที่ผสานรวมอยู่ในระบบปฏิบัติการตัวแทนของ PwC หรือปรับแต่งเอเจนต์โดยใช้ข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์ขององค์กรเอง ซึ่งนำเสนอวิธีการที่เป็นหนึ่งเดียวในการเชื่อมต่อและจัดการเอเจนต์เหล่านี้ในระดับองค์กร ด้วยคลังเอเจนต์ AI ที่สร้างไว้ล่วงหน้าจำนวนมาก ควบคู่ไปกับความสามารถในการปรับแต่งที่ยืดหยุ่น ทำให้ระบบปฏิบัติการตัวแทนของ PwC สามารถช่วยให้องค์กรต่าง ๆ พัฒนา ปรับใช้ และขยายขนาดเวิร์กโฟลว์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมสร้างการตัดสินใจผ่านระบบการจัดการที่อยู่ระหว่างการจดสิทธิบัตร

อินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่ายด้วยการลากและวาง ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนผ่านภาษาธรรมชาติ และการแสดงภาพการไหลของข้อมูล ยังช่วยให้การสร้างเวิร์กโฟลว์สามารถเข้าถึงได้ทั้งผู้ใช้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค และผู้ใช้ทั่วไปในด้านธุรกิจ ทำให้การนำไปใช้ทั่วทั้งองค์กรเป็นไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการตัวแทนของ PwC ยังรองรับการปรับใช้งานที่ไม่จำกัดเฉพาะผู้ให้บริการระบบคลาวด์ โดยครอบคลุมถึงผู้ให้บริการรายใหญ่ต่าง ๆ เช่น AWS, Google Cloud, Microsoft Azure, Oracle Cloud Infrastructure และ Salesforce รวมถึงศูนย์ข้อมูลภายในองค์กร อีกทั้งยังมีความสามารถอันชาญฉลาดในการปรับเวิร์กโฟลว์ให้เข้ากับหลายภาษา ซึ่งช่วยให้มั่นใจถึงการผสานการดำเนินงานได้อย่างราบรื่นสำหรับองค์กรระดับโลก

ทั้งนี้ องค์กรต่าง ๆ มักเผชิญกับความท้าทายในด้านการทำงานร่วมกันและความสามารถในการปรับขนาด เมื่อผสาน AI เข้าไปในกระบวนการธุรกิจที่ซับซ้อน ระบบปฏิบัติการตัวแทนของ PwC ได้จัดการกับอุปสรรคเหล่านี้โดย:

  • นำเสนอกรอบการทำงานที่ยืดหยุ่นและเป็นหนึ่งเดียวเพื่อสร้าง ปรับแต่ง และจัดการตัวแทน AI และเครื่องมือข้ามแพลตฟอร์ม SDKs และสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ขององค์กร
  • สนับสนุนการผนวกรวมกับระบบองค์กร แพลตฟอร์ม แหล่งข้อมูล และเอเจนต์ที่มีอยู่
  • ยกระดับการกำกับดูแลและการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้าน AI ผ่านกรอบการจัดการความเสี่ยงและการกำกับดูแลแบบบูรณาการของ PwC
  • ส่งเสริมการทำงานร่วมกันของ AI ขั้นสูง ทำให้ตัวแทน AI สามารถทำงานร่วมกันและเรียนรู้ซึ่งกันและกันแบบเรียลไทม์เพื่อจัดการกับเวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนและครอบคลุมหลายหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ระบบปฏิบัติการตัวแทนของ PwC ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถสร้าง ปรับแต่ง และนำเวิร์กโฟลว์อัจฉริยะและแม่แบบตัวแทนมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การผนวกรวม AI และการเปลี่ยนแปลงในระดับองค์กรเป็นไปอย่างง่ายดาย เมื่อองค์กรต่าง ๆ พิจารณาวิธีการขยายขนาด AI ไปยังส่วนงานต่าง ๆ ระบบปฏิบัติการตัวแทนของ PwC ก็จะช่วยเปิดประตูสู่ความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ตัวอย่างเช่น:

  • ผู้อำนวยการฝ่ายโลจิสติกส์ของบริษัทผู้ผลิตระดับโลกแห่งหนึ่ง สามารถใช้ agent OS ของ PwC เพื่อประสานงานเอเจนต์ AI ที่ทำงานร่วมกับ SAP (สำหรับการคาดการณ์อุปสงค์), Oracle (สำหรับการจัดซื้อ) และ AWS (สำหรับการติดตามโลจิสติกส์แบบเรียลไทม์) ได้ โดยการเพิ่มเอเจนต์วิเคราะห์ความเสี่ยงแบบกำหนดเองและเอเจนต์ตรวจจับการหยุดชะงักของ PwC ผู้อำนวยการจึงสามารถลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อห่วงโซ่อุปทานได้อย่างเชิงรุก และการประสานงานระหว่างเอเจนต์ที่ซับซ้อนนี้ สามารถลดความล่าช้าในการจัดส่งได้ประมาณ 40%
  • หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการด้านการตลาดของแบรนด์ค้าปลีกระดับ Fortune 100 สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานแคมเปญได้ โดยการประสานงานเอเจนต์สร้างสรรค์จาก OpenAI, เอเจนต์ทดสอบจาก Google Cloud และเอเจนต์วิเคราะห์จาก Salesforce นอกจากนี้ เอเจนต์กำกับดูแลงบประมาณจาก Workday ยังช่วยให้มั่นใจได้ถึงความสอดคล้องทางการเงิน ด้วยระบบปฏิบัติการตัวแทนของ PwC ที่จัดการเอเจนต์เหล่านี้บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย อัตราการเปลี่ยนแปลงอาจเพิ่มขึ้นถึง 30% และระยะเวลาในการเปิดตัวแคมเปญอาจลดลงครึ่งหนึ่ง
  • ผู้จัดการด้านการปฏิบัติตามกฎระเบียบของธนาคารข้ามชาติแห่งหนึ่งสามารถทำให้เวิร์กโฟลว์ด้านกฎระเบียบเป็นไปโดยอัตโนมัติได้โดยใช้ระบบปฏิบัติการตัวแทนของ PwC ซึ่งจะผสานรวมเอเจนต์วิเคราะห์นโยบายจาก Anthropic และเอเจนต์ตรวจสอบเอกสารภายในที่ขับเคลื่อนโดย Microsoft Azure โดยเอเจนต์แบบกำหนดเองจะตีความกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับตรวจสอบว่ามาตรฐานของบริษัทสอดคล้องกัน การตั้งค่าแบบนี้สามารถลดระยะเวลาการตรวจสอบด้วยตนเองได้ประมาณ 70%

นอกเหนือจากแนวโน้มในอนาคตเหล่านี้ นี่คือตัวอย่างวิธีที่เราได้ช่วยลูกค้าผสานตัวแทน AI เข้ากับกลยุทธ์ด้านกำลังคนของพวกเขา:

  • บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำแห่งหนึ่งได้ปฏิวัติการมีส่วนร่วมกับลูกค้า โดยการนำศูนย์บริการลูกค้าแบบรวมทุกช่องทางมาไว้ในที่เดียว (omnichannel) ที่ขับเคลื่อนด้วยเอเจนต์ AI มาใช้ ระบบนี้ ซึ่งมีแบบจำลองการคาดการณ์ความตั้งใจ การสนทนาแบบปรับเปลี่ยนได้ และการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์ จึงสามารถลดระยะเวลาการโทรเฉลี่ยลงได้เกือบ 25% ลดการโอนสายได้มากถึง 60% และเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าประมาณ 10%
  • กลุ่มธุรกิจบริการที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ได้ปรับปรุงการจัดการมาตรฐานแบรนด์ทั่วทั้งเครือข่ายทั่วโลกของตน โดยการนำเวิร์กโฟลว์แบบ agentic มาใช้ภายในแพลตฟอร์มที่ทันสมัยซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI โดยปัจจุบันเอเจนต์อัจฉริยะได้ทำการอัปเดต อนุมัติ และติดตามการปฏิบัติตามข้อกำหนดโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการตรวจสอบลงได้มากถึง 94%
  • บริษัทด้านการดูแลสุขภาพระดับโลกแห่งหนึ่ง ได้เปลี่ยนแปลงการดูแลรักษาโรคมะเร็ง โดยการนำเวิร์กโฟลว์แบบ AI เชิงเอเจนต์มาใช้ในกระบวนการรักษาโรคมะเร็งต่าง ๆ เอเจนต์อัจฉริยะช่วยให้กระบวนการทางคลินิกและการปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยทำให้การดึงข้อมูล การทำให้เป็นมาตรฐาน และการสืบค้นเอกสารที่ไม่มีโครงสร้างเป็นไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งส่งผลให้การเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกทางคลินิกที่นำไปปฏิบัติได้จริงดีขึ้นประมาณ 50% ในการสนับสนุนการแพทย์แม่นยำและการวิจัยทางคลินิก และช่วยลดภาระงานด้านธุรการของเจ้าหน้าที่ลงเกือบ 30% ผ่านการค้นหาและสังเคราะห์เอกสารด้วย AI

นอกจากนี้ PwC ยังใช้ระบบปฏิบัติการตัวแทนภายในองค์กรของเราเอง โดยเสริมศักยภาพให้กับบุคลากรและต่อยอดจากพื้นฐานที่มีอยู่ในการใช้ AI เพื่อส่งมอบการเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการบริการภาษี การตรวจสอบบัญชี และการให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า ด้วยจำนวนเอเจนต์ AI มากกว่า 250 เอเจนต์ที่ถูกนำไปใช้งานในบริษัทของเรา เพื่อทำงานเฉพาะที่รวมเข้ากับเวิร์กโฟลว์ที่สร้างผลกระทบทางธุรกิจ เรากำลังเสริมสร้างความเป็นผู้นำของเราในการนำ AI ไปใช้งานจริงในวงกว้าง โดยระบบ agent OS ของ PwC มีบทบาทสำคัญในการเร่งและกำกับดูแลระบบนิเวศนี้ ซึ่งส่งเสริมทั้งประสิทธิภาพและการนำ AI ไปใช้งานอย่างมีความรับผิดชอบ เตรียมนำ agent OS มาใช้กับ PwC ประเทศไทย ในเดือนสิงหาคมนี้

ด้านนาย พิสิฐ ทางธนกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า "Agent OS ของ PwC สามารถปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพและสร้างผลกระทบอย่างกว้างขวางได้ ด้วยเหตุนี้ PwC ประเทศไทย จึงมีแผนที่จะนำ agent OS มาใช้โดยคาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้ เราเชื่อว่าระบบปฏิบัติการนี้จะช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับลูกค้าของเรา เพราะเทคโนโลยีนี้จะช่วยเสริมศักยภาพให้ลูกค้าทำงานได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น ตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้ไวขึ้น และสร้างมูลค่าเพิ่มใหม่ ๆ แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน"


ข่าวระบบปฏิบัติการ+การออกแบบวันนี้

การ์ทเนอร์เผยไตรมาสแรกปี 2568 ยอดจัดส่งพีซีทั่วโลกเพิ่มขึ้น 4.8%

การอัปเกรดระบบปฏิบัติการ Windows 11 และการเพิ่มสินค้าคงคลังเพื่อป้องกันผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ เป็นปัจจัยหนุนการเติบโต จากผลการวิเคราะห์เบื้องต้นของการ์ทเนอร์ พบว่าไตรมาสแรกของปี 2568 มียอดการจัดส่งคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือพีซีทั่วโลกรวม 59 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 4.8% จากไตรมาสแรกของปี 2567 ส่วนยอดจัดส่งพีซีในสหรัฐฯ ไตรมาสแรกปีนี้เติบโตขึ้น 12.6% แตะ 16 ล้านเครื่อง ความเห็นผู้เชี่ยวชาญ: Rishi Padhi ผู้อำนวยการวิจัยที่การ์ทเนอร์ กล่าวว่า "การเติบโตของตลาดพีซีในไตรมาสแรกปีนี้ มีแรงขับ

ด้วยแพลตฟอร์ม Low Code ที่ขับเคลื่อนด้วย ... OutSystems ยกระดับระบบสยามคูโบต้าเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมการเกษตร — ด้วยแพลตฟอร์ม Low Code ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ OutSystems สยามคูโบต้าสามารถพัฒนาแอปพลิ...

บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) ต... HIP เครื่องสแกนลายนิ้วมือรุ่น Ci690S สุดคุ้ม ฟังก์ชันครบจบในเครื่องเดียว — บมจ. เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) ตัวแทนผู้นำเข้าและจำหน่ายสินค้าไอทีที่ใ...

ซีพี แอ็กซ์ตร้า ยกระดับศักยภาพด้านดิจิทัล... ซีพี แอ็กซ์ตร้า ยกระดับศักยภาพด้านดิจิทัล ลงนามความร่วมมือกับเทนเซ็นต์ คลาวด์ — ซีพี แอ็กซ์ตร้า ยกระดับศักยภาพด้านดิจิทัล ลงนามความร่วมมือกับเทนเซ็นต์ คลา...

ภายในปี 2569 จะเหลือเพียง Al Laptops เป็น... การ์ทเนอร์คาดการณ์ ปี 2568 ยอดการจัดส่ง AI PCs ทั่วโลกจะคิดเป็น 43% ของยอดจัดส่ง PC ทั้งหมด — ภายในปี 2569 จะเหลือเพียง Al Laptops เป็นตัวเลือกเดียวของ La...