สทนช. ติดตามการบริหารจัดการน้ำกว๊านพะเยา พร้อมรับมืออุทกภัยตลอดฤดูฝนปีนี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

เลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่ จ.พะเยา ติดตามความก้าวหน้ามาตรการรับมือฤดูฝน ปี 68 และการบริหารจัดการน้ำกว๊านพะเยา หลังพบอ่างเก็บน้ำหลายแห่งในพื้นที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 70% เตรียมปรับแผนบริหารจัดการน้ำ เร่งพร่องน้ำล่วงหน้าเพื่อเพิ่มพื้นที่รับน้ำในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค. กำชับหน่วยงานเร่งสำรวจ ซ่อมแซมจุดเสี่ยงและกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมรับมืออุทกภัยตลอดฤดูฝนปีนี้

สทนช. ติดตามการบริหารจัดการน้ำกว๊านพะเยา พร้อมรับมืออุทกภัยตลอดฤดูฝนปีนี้

ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำกว๊านพะเยาและการเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย โดยมี นายบำรุง สังข์ขาว รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วย ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมทรัพยากรน้ำ กรมประมง กรมอุตุนิยมวิทยา กรมประชาสัมพันธ์ หน่วยงานท้องถิ่น เป็นต้น เข้าร่วมประชุม ณ โครงการชลประทานจังหวัดพะเยา อำเภอเมืองพะเยา หลังจากนั้น ลงพื้นที่ติดตามจุดเสี่ยงอุทกภัย ได้แก่ บริเวณโครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ, ประตูประมงกว๊านพะเยา อำเภอเมืองพะเยา และฝายแม่อิงลูกที่ 2 (ฝายดอกบัว) พร้อมระบบส่งน้ำ หมู่ที่ 6 ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมืองพะเยา ตามลำดับ

เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า จากการประชุมหารือร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ในวันนี้ เพื่อร่วมประเมินสถานการณ์น้ำ ปี 2568 พบว่า ในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคมนี้ จังหวัดพะเยามีแนวโน้มจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ปัจจุบันจังหวัดพะเยา มีอ่างเก็บน้ำรวม 456 แห่ง มีปริมาตรน้ำรวม 87.13 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือคิดเป็น 49% ของความจุเก็บกัก โดยมีอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กหลายแห่งที่ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์มากกว่า 70% ได้แก่ อ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำ อ่างเก็บน้ำแม่ใจ อ่างเก็บน้ำแม่จุน อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ตุ้ม อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำแวน และอ่างเก็บน้ำแม่นาเรือ นอกจากนี้ กว๊านพะเยา มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 19.8 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 36% ของความจุเก็บกัก ซึ่งคาดการณ์ว่าช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม จะมีปริมาณน้ำไหลเข้ากว๊านพะเยา ประมาณ 400 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้กว๊านพะเยาจะมีปริมาณน้ำเกินความจุเก็บกัก จึงจำเป็นต้องเร่งให้ทบทวนและปรับแผนการบริหารจัดการน้ำพร่องน้ำของอ่างเก็บน้ำต่างๆ และกว๊านพะเยา โดยการเร่งระบายน้ำเพื่อให้มีพื้นที่ว่างเพียงพอสำหรับรองรับน้ำหลากช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม พร้อมรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้น

"ปัจจุบันแหล่งน้ำบริเวณกว๊านพะเยา ถึงแม้จะมีระดับน้ำต่ำกว่าระดับน้ำเก็บกักก็ตาม เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเร่งพร่องน้ำออกจากกว๊านพะเยา รวมทั้งหนองเล็งทราย อ่างเก็บน้ำขนาดกลางและขนาดเล็กในพื้นที่จังหวัดพะเยา เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำอิงยังมีปริมาณไม่มาก เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับปริมาณน้ำในช่วงที่เกิดฝนตกหนัก ทำให้สามารถช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ท้ายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเป็นการบริหารจัดการน้ำร่วมกันในภาพรวม จากหนองเล็งทราย กว๊านพะเยา ซึ่งเป็นต้นน้ำของแม่น้ำอิง จากนั้นน้ำจากกว๊านพะเยาจะไหลลงสู่แม่น้ำอิง ผ่านอำเภอต่างๆ ในจังหวัดพะเยาและจังหวัดเชียงราย ตามลำดับ ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย การบริหารจัดการน้ำดังกล่าว นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนริมกว๊านพะเยาที่จะไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีน้ำล้นตลิ่งแล้ว ยังจะเป็นการช่วยลดผลกระทบให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงรายที่อยู่บริเวณท้ายน้ำแม่น้ำอิงได้อีกด้วย ทั้งนี้อ่างเก็บน้ำและประตูระบายน้ำจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในช่วงฤดูฝน เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยให้เหลือน้อยที่สุด และเพื่อให้ช่วงต้นฤดูแล้ง ณ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 จะสามารถเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำหรืออ่างเก็บน้ำไว้ให้มากที่สุดหรือเต็มความจุเก็บกัก เพื่อสามารถใช้ได้อย่างเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้งถัดไปด้วย" เลขาธิการ สทนช. กล่าว

เลขาธิการ สทนช. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับจังหวัดพะเยาได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัย ตาม 9 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2568 อย่างดีเยี่ยมแล้ว ทั้งเรื่องของการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ การจัดเตรียมพื้นที่สำหรับศูนย์พักพิง ซึ่งเป็นการดำเนินการเชิงรุกในการเตรียมแผนอพยพสำหรับกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ เด็กหรือผู้สูงอายุ ให้ออกจากพื้นที่เสี่ยงมายังศูนย์พักพิงก่อน รวมทั้งด้านเครื่องจักรเครื่องมือในพื้นที่ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ได้ให้คำแนะนำเรื่องการซ่อมแซมสถานีโทรมาตรและอาคารชลศาสตร์ที่ยังไม่พร้อมใช้งาน โดยให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วเพื่อให้ทันก่อนเกิดฝนตกหนัก รวมทั้งการติดตั้งจุดสถานีตรวจวัดน้ำเพิ่มเติม โดย สทนช. ได้ประสานสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) เพื่อติดตั้งสถานีตรวจวัดน้ำบริเวณพื้นที่ต้นน้ำเพื่อให้มีข้อมูลเพิ่มเติมในการแจ้งเตือนภัยให้กับประชาชนได้ทันสถานการณ์ สำหรับสิ่งกีดขวางทางน้ำของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ได้มีการเปิดช่องเพื่อระบายน้ำเรียบร้อยแล้ว พร้อมรับมือฤดูฝนปีนี้ ทั้งนี้ สทนช. จะประสานจังหวัดและหน่วยงานต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อสนับสนุนข้อมูลด้านวิชาการในการชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อให้สามารถดำเนินการในเชิงป้องกันได้ล่วงหน้า และสามารถลดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ข่าวสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ+สำนักงานทรัพยากรน้ำวันนี้

สทนช. จับมือเขื่อนภูมิพล ปรับลดการระบายน้ำบรรเทาท่วมภาคกลาง

สทนช. ประชุมด่วนวางแผนปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล หลังคาดฝนภาคเหนือจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นวันพรุ่งนี้ จาก 55 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เหลือ 50 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน และวันถัดไปปรับลดอีกเหลือ 45 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เพื่อลดมวลน้ำที่ไหลลงสู่ภาคกลาง วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2568) นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและวางแผนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนภูมิพล โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ

สทนช. ระดมทุกหน่วยเดินหน้าคลี่คลายพื้นที่ท่วมขังหลังฝนตอนบนลดลง

เตรียมปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา พร้อมจับตาฝนตกหนักต่อเนื่องภาคใต้ สทนช. หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นชอบปรับลดการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เหลือ 10 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน พร้อมเตรียมทยอยปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อช่วย...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

สทนช. เปิดศูนย์ส่วนหน้าฯ "ลุ่มน้ำยม-น่าน" จับมือทุกหน่วย คุมจราจรน้ำจากเหนือสู่เจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน

สทนช. เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยลุ่มน้ำยม-น่าน ระดมทุกหน่วยจัดการจราจรน้ำที่ไหลจากภาคเหนือก่อนลงสู่อ่าวไทย โดยไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ...

สทนช. ติดตามการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก พร้อมรับมืออุทกภัยปีนี้

สทนช. บูรณาการหน่วยงานประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าชั่วคราวฯ ลุ่มน้ำโขงเหนือ เร่งติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก การก่อสร้างพนังกั้นน้ำ และการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ รับมืออุทกภัยปีนี้ พร้อมชู "จ....