สวทช. และ IRD ต่ออายุความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ ร่วมขับเคลื่อนการวิจัยด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ภูมิอากาศ และการศึกษาสิ่งแวดล้อม

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส (IRD) ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ฉบับใหม่ ครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี เพื่อเดินหน้าสานต่อความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และการศึกษาเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน โดยพิธีลงนามได้รับเกียรติจากผู้แทนระดับสูงของทั้ง สวทช. IRD และสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย ซึ่งสะท้อนถึงความร่วมมืออันแน่นแฟ้นด้านวิทยาศาสตร์ระหว่างสองประเทศ เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบสนองต่อความท้าทายระดับโลกในยุคปัจจุบัน

สวทช. และ IRD ต่ออายุความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ ร่วมขับเคลื่อนการวิจัยด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ภูมิอากาศ และการศึกษาสิ่งแวดล้อม

ดร.สมบุญ สหสิทธิวัฒน์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า "บันทึกข้อตกลงนี้เป็นกรอบความร่วมมือระหว่างปี พ.ศ. 2568 - 2573 มุ่งเน้นการวิจัยด้านความหลากหลายทางชีวภาพ การกักเก็บคาร์บอน การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมผ่านเทคโนโลยีโลกเสมือน และสาขาอื่น ๆ เป็นการต่อยอดจากความสำเร็จของโครงการความร่วมมือที่ริเริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงความร่วมมือระหว่างพันธมิตรด้านวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความรับผิดชอบร่วมกันของเราต่อโลกและชนรุ่นหลัง โดย สวทช. และ IRD มุ่งมั่นที่จะสร้างองค์ความรู้ พัฒนาเครื่องมือ เทคโนโลยี และทรัพยากรบุคคล เพื่อสนับสนุนและขับเคลื่อนสู่เป้าหมายความยั่งยืนทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก" สวทช. และ IRD ต่ออายุความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ ร่วมขับเคลื่อนการวิจัยด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ภูมิอากาศ และการศึกษาสิ่งแวดล้อม

นายฌิล เปกาซู (Mr. Gilles Pecassou) รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IRD กล่าวเสริมว่า "ประเทศไทยเป็นพันธมิตรยุทธศาสตร์ที่สำคัญของ IRD ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี 2560 เราได้ร่วมมือกับ สวทช. ในโครงการต่าง ๆ ที่ประสบความสำเร็จและได้รับการสนับสนุนจากแหล่งทุนระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียง การต่ออายุบันทึกข้อตกลงในครั้งนี้เป็นเครื่องสะท้อนถึงความไว้วางใจและวิสัยทัศน์ร่วมกันในการผลักดันงานวิจัยสหวิทยาการ ส่งเสริมนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ และสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมผ่านนวัตกรรมและการศึกษาที่เปิดกว้าง"

นางลีส ตาลโบต์ บาเร (Mrs. Lise Talbot- Barre) ที่ปรึกษาฝ่ายวัฒนธรรมและความร่วมมือ สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย กล่าวว่า "ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ถือเป็นรากฐานสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ฝรั่งเศส บันทึกข้อตกลงฉบับนี้ไม่เพียงเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่าง สวทช. และ IRD หากยังสะท้อนถึงสายใยมิตรภาพอันยาวนานระหว่างสองประเทศ ซึ่งยึดโยงกันด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรม และเจตจำนงร่วมในการขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน"

ความสำเร็จจากโครงการความร่วมมือระหว่าง 2 สถาบันในระยะแรก ได้แก่

  • BIMOMS (Biodiversity Modelling at Multiple Scale) - จากระบบนิเวศท้องถิ่นสู่การเปลี่ยนแปลงระดับภูมิภาค

โครงการ JEAI BIMOMS (พ.ศ. 2565-2567) ภายใต้โครงการ Young Teams Associated with IRD ทีมวิจัยนำโดยนักวิจัยไทยรุ่นใหม่ที่เชี่ยวชาญในด้านการสร้างแบบจำลองระบบนิเวศ ตั้งแต่พลวัตความหลากหลายทางชีวภาพในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ไปจนถึงรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของป่าไม้และการใช้ที่ดินในระดับภูมิภาค ผ่านการบูรณาการข้อมูลภาคสนาม ภาพถ่ายดาวเทียม เครื่องมือระดับโมเลกุล และ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ความสำเร็จของโครงการจะได้รับการสานต่อภายใต้ MOU ฉบับใหม่นี้ด้วยการขยายแบบจำลองข้อมูล ไปยังการใช้โดรนติดตามความหลากหลายทางชีวภาพ และการบูรณาการสู่ยุทธศาสตร์ด้านภูมิอากาศในระดับภูมิภาคต่อไป

  • SIMPLE (Sustainability Issue Metaverse for Building Participatory Learning Environments)- เมตาเวิร์สเพื่อการเรียนรู้และสร้างความตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อม

โครงการ SIMPLE เป็นโครงการร่วมวิจัยระหว่างหน่วยงานวิจัย 3 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส เวียดนาม และไทย โดยผสานเทคโนโลยีการเรียนรู้ผ่านโลกเสมือนจริง (AR/VR) เข้ากับการเรียนรู้เพื่อสร้างความตระหนักในด้านการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพให้กับเยาวชนไทย โดยกิจกรรมนำร่องชื่อ "BiodiVRestorer: Immersive VR Experience for Biodiversity Restoration" ได้เข้าถึงนักเรียนมัธยมศึกษากว่า 219 คน จาก 21 โรงเรียน ในเขตกรุงเทพฯ จังหวัดปทุมธานี และเชียงใหม่

ผลการสำรวจพบว่า นักเรียนมีความเข้าใจในประเด็นความหลากหลายทางชีวภาพเพิ่มขึ้น และจดจำเนื้อหาได้ในระยะยาว ครูผู้สอนระบุว่าเทคโนโลยีนี้ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้เรียนและการมีส่วนร่วมของนักเรียนในชั้นเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในระยะถัดไปทีมวิจัย SIMPLE จะพัฒนาเครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อพร้อมจัดทำหลักสูตรฉบับสมบูรณ์สำหรับเผยแพร่ภายในต้นปี พ.ศ. 2569

  • NATURAL FORESTORE - Capture and Storage of Carbon in Natural Tropical Forests การดูดซับและการกักเก็บคาร์บอนในป่าเขตร้อนตามธรรมชาติ

NATURAL FORESTORE ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิ BNP Paribas เป็นโครงการวิจัยสหวิทยาการที่มุ่งศึกษาการกักเก็บคาร์บอนในป่าเขตร้อนธรรมชาติ โดยบูรณาการองค์ความรู้จากหลากหลายสาขา ทั้งเมตาจีโนมิกส์ การสำรวจระยะไกล ปัญญาประดิษฐ์ และการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน ควบคู่กับมิติทางสังคมและนโยบายสิ่งแวดล้อม สู่เป้าหมายการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนเพื่อการการรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโลก

โครงการเริ่มดำเนินงานในปี พ.ศ. 2567 ในพื้นที่ศึกษาป่าอนุรักษ์ที่หลากหลาย 3 แห่งในประเทศไทย และอีก 1 แห่งใน สปป.ลาว พื้นที่เหล่านี้ถูกคัดเลือกมาอย่างพิถีพิถันเพื่อเป็น "ห้องปฏิบัติการธรรมชาติ" ที่เป็นตัวแทนของสภาพป่าที่แตกต่างกัน ทั้งในด้านภูมิประเทศ ชนิดพรรณไม้ ระยะการฟื้นตัวของป่าและประวัติการใช้ที่ดินที่หลากหลาย ความหลากหลายของพื้นที่ศึกษาเช่นนี้ทำให้โครงการสามารถรวบรวมข้อมูลที่ครอบคลุมและรอบด้าน นำไปสู่การสร้างองค์ความรู้เชิงลึกที่สามารถอธิบายปัจจัยและกระบวนการที่ส่งผลต่อการกักเก็บคาร์บอนในป่าเขตร้อนได้อย่างถ่องแท้

การวิจัยนี้ขับเคลื่อนด้วยการนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาประยุกต์ใช้ อาทิ เมตาจีโนมิกส์ เพื่อทำความเข้าใจบทบาทของจุลินทรีย์ใต้ดิน การสำรวจระยะไกลด้วยดาวเทียมและ Lidar เพื่อวิเคราะห์โครงสร้างป่าเหนือพื้นดิน ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) เพื่อประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่และระบุแนวโน้ม รวมถึงการวิเคราะห์ การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดิน ผลลัพธ์ที่ได้คือ แบบจำลองการประเมินการกักเก็บคาร์บอนในป่าเขตร้อนที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนและกำหนดนโยบายเพื่อการอนุรักษ์และบริหารจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้ NATURAL FORESTORE ยังสนับสนุนการติดตามและอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพตาม "ดัชนีความหลากหลายทางชีวภาพ" ของสหประชาชาติ ซึ่งสะท้อนการบูรณาการความรู้ด้านนิเวศวิทยา ชีววิทยา สังคมเศรษฐศาสตร์ และนโยบายสาธารณะ เพื่อสร้างทางออกที่ยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน


ข่าวสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนา+วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีวันนี้

รายงาน Whitepaper ฉบับใหม่เผยศักยภาพ AI ในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมการผลิต หนุนไทยก้าวสู่ยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0

รายงาน whitepaper ฉบับใหม่ที่เผยแพร่ในวันนี้ ได้เผยให้เห็นว่าปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 ซึ่งมุ่งยกระดับเศรษฐกิจไทยจากการพึ่งพาการผลิตแบบดั้งเดิม ไปสู่การขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง อย่างไรก็ตาม รายงาน whitepaper ซึ่งจัดทำโดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ) (ETDA) ภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) และ SAP ผู้นำตลาดด้านซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร ชี้ให้

The Active Thai PBS จับมือ TDRI และภาคีฯ ... The Active Thai PBS จับมือ TDRI "ปั้นนักสื่อสารรุ่นใหม่" ร่วมสะท้อนแง่มุมด้านพลังงาน — The Active Thai PBS จับมือ TDRI และภาคีฯ ปั้นนักสื่อสารรุ่นใหม่ สะท...

Thai PBS World เปิดเวทีสาธารณะ 'AI และอนา... ไทยพีบีเอส จัดงาน Thai PBS World Forum เตรียมพร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงสื่อยุค AI — Thai PBS World เปิดเวทีสาธารณะ 'AI และอนาคตของห้องข่าว' เตรียมพร้อมรับ...

การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Developme... "BCG" เคลื่อนโอกาสใหม่ "เอสเอ็มอี" เกาะเทรนด์โลก ดันธุรกิจโตยั่งยืน — การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development -SD) แม้จะเป็นเป้าหมายที่ดีงาม แต่เมื่อล...

การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Developme... "BCG" เคลื่อนโอกาสใหม่ "เอสเอ็มอี" เกาะเทรนด์โลก ดันธุรกิจโตยั่งยืน — การพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development -SD) แม้จะเป็นเป้าหมายที่ดีงาม แต่เมื่อล...