โครงการส่งเสริมอาชีพประมง เพิ่มมูลค่าสัตว์น้ำ หนุนสร้างรายได้เกษตรกร

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานโครงการส่งเสริมอาชีพประมง ซึ่งมีกรมประมงเป็นเจ้าภาพ เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญภายใต้แผน แม่บทย่อย ระบบนิเวศการเกษตร มีเป้าหมายมุ่งเน้นให้เกิดการปรับตัวและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรต่อหน่วย ไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ผ่านการถ่ายทอดความรู้และส่งเสริมอาชีพด้านการประมงแก่เกษตรกรในพื้นที่ สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ได้กำหนดเป้าหมาย 4,110 ราย พื้นที่ 77 จังหวัด

โครงการส่งเสริมอาชีพประมง เพิ่มมูลค่าสัตว์น้ำ หนุนสร้างรายได้เกษตรกร

ในการนี้ สศก. ได้ติดตามผลการดำเนินการ 6 เดือน (ตุลาคม 2567 - มีนาคม 2568) ภาพรวมทั้งประเทศ มีผลสำเร็จของการดำเนินงานโครงการแล้ว ร้อยละ 57.50 พร้อมกันนี้ลงพื้นที่ได้ติดตามกิจกรรมพัฒนาศักยภาพเกษตรกร สู่ Smart Farmer ในกิจกรรมส่งเสริมและบริหารจัดการทรัพยากรประมงในพื้นที่ลุ่มน้ำพรมแดน กิจกรรมส่งเสริม การเพาะเลี้ยงและพัฒนาธุรกิจสัตว์น้ำเศรษฐกิจ และกิจกรรมส่งเสริมเกษตรเชิงรุกด้านการประมง (Zoning by Agri Map) ในพื้นที่ 5 จังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร เชียงใหม่ และกำแพงเพชร พบว่า สามารถส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพให้กับเกษตรกรสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย โดยถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกรได้ 460 ราย ครบตามเป้าหมาย แบ่งเป็นส่งเสริมความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อส่งเสริมเกษตรเชิงรุกด้านการประมง (Zoning by Agri Map) 150 ราย ส่งเสริมและบริหารจัดการทรัพยากรประมงในพื้นที่ลุ่มน้ำพรมแดน 200 ราย และพัฒนาศักยภาพเกษตรกรสู่ Smart Farmer และ Young Smart Farmer 110 ราย สนับสนุนปัจจัยการผลิตให้เกษตรกรแล้ว ได้แก่ ลูกพันธุ์ปลากินพืชขนาด ตั้งแต่ 3 - 5 เซนติเมตร อาหารเม็ด วัสดุสำหรับปรับสภาพน้ำ เช่น ปูนขาว จุลินทรีย์ และวัสดุสำหรับทำปุ๋ยหมักเพื่อสร้างอาหารธรรมชาติในบ่อ

นอกจากนี้ สศก. ยังมีการติดตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ทั้ง 5 จังหวัด ปี 2567 พบว่า ในภาพรวมเกษตรกร ได้รับการส่งเสริมให้ความรู้ และสนับสนุนปัจจัยการผลิต โดยเกษตรกรร้อยละ 89.02 นำความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ ได้แก่ วิธีการเลี้ยงปลา การบำบัดน้ำเสียโดยใช้ปูนขาว การทำจุลินทรีย์ การสร้างแหล่งอาหารธรรมชาติจากวัสดุธรรมชาติเพื่อลดต้นทุนอาหารเม็ด เช่น มูลสัตว์ แหนแดง หญ้า แกลบ ฟางข้าว และต้นกล้วย และเกษตรกร ร้อยละ 83.53 นำปัจจัยการผลิตไปใช้ประโยชน์แล้ว อย่างไรก็ตาม อีกร้อยละ 16.47 ยังไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์ เนื่องจากเกษตรกร เพิ่งปล่อยลูกพันธุ์ปลา ซึ่งยังเติบโตไม่เต็มที่ ไม่สามารถจับมาบริโภคหรือจำหน่ายได้

ด้านการปรับเปลี่ยนพื้นที่ทำการเกษตร ภายใต้กิจกรรมส่งเสริมเกษตรเชิงรุกด้านการประมง (Zoning by Agri Map) เพื่อส่งเสริมเกษตรกรให้มีการเลี้ยงสัตว์น้ำในพื้นที่ไม่เหมาะสมกับการทำนาข้าว หันมาทดลองปรับเปลี่ยนกิจกรรม เป็นการเลี้ยงสัตว์น้ำแทน พบว่า เกษตรกรร้อยละ 35.85 ได้ปรับเปลี่ยนจากการปลูกข้าวไปเลี้ยงสัตว์น้ำเพียงบางส่วน โดยการลดพื้นที่ปลูกข้าวไปจัดทำบ่อเพื่อเลี้ยงสัตว์น้ำ เฉลี่ยรายละ 1 ไร่ ส่วนเกษตรกรร้อยละ 64.15 ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม เนื่องจาก มีบ่อปลาในพื้นที่ทำนา และเลี้ยงปลาธรรมชาติอยู่ก่อนแล้ว ส่วนใหญ่เกษตรกรร้อยละ 82.54 เลี้ยงสัตว์น้ำ และจับสัตว์น้ำไว้สำหรับบริโภคในครัวเรือน ขณะที่ร้อยละ 34.92 จับเพื่อจำหน่าย ทำให้มีรายได้เสริมเพิ่มขึ้นอีกทางหนึ่ง โดยก่อนเข้าร่วมโครงการ คือ ปี 2566 เกษตรกรจำหน่ายสัตว์น้ำได้ราคาเฉลี่ย 66.56 บาทต่อกิโลกรัม ต่อมาปี 2567 สามารถจำหน่ายได้ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 71.50 บาทต่อกิโลกรัม (เพิ่มขึ้น 4.94 บาทต่อกิโลกรัม หรือร้อยละ 7.42) เนื่องจากพันธุ์ปลากดหลวงที่ได้รับการส่งเสริมมีราคาจำหน่ายสูงกว่าปลาชนิดเดิมที่เกษตรกรเคยเลี้ยง ส่งผลให้เกษตรกรมีมูลค่าสัตว์น้ำเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 191.74 บาทต่อปี หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.86

ทั้งนี้ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการยังคงต้องการให้มีการสนับสนุนองค์ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลี้ยงสัตว์น้ำ การสร้างอาหารธรรมชาติ การป้องกันและควบคุมโรคสัตว์น้ำ แนะนำวิธีการเลี้ยงพันธุ์ปลาที่สนับสนุน เช่น ปลากดหลวง ตลอดจนสนับสนุนพ่อแม่พันธุ์ปลาที่แข็งแรง รวมถึงลูกพันธุ์ปลาที่มีขนาดใหญ่ขึ้น (ประมาณ 3 - 5 เซนติเมตร) แทนขนาดเล็กเพียง 1 - 2 เซนติเมตร เนื่องจากขนาดเล็กมีอัตราการรอดต่ำ ถูกปลาใหญ่ในบ่อกินได้ง่าย ใช้เวลาเลี้ยงนาน และสนับสนุนพันธุ์ปลาที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะพันธุ์ปลาที่ได้รับความนิยมในตลาด เช่น ปลาหมอ ปลาสลิด ปลานิล และปลาช่อน โดย สศก. จะมีการติดตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานโครงการ ปี 2568 อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ กับเกษตรกรต่อไป


ข่าวสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร+กระทรวงเกษตรและสหกรณ์วันนี้

รัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ ประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการจัดที่ดินทำกินในเขตปฏิรูปที่ดิน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี

นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนงานการดำเนินการจัดที่ดินทำกินในเขตปฏิรูปที่ดิน พื้นที่ หมู่ที่ 10 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กรมส่งเสริมการเกษตร กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน กรมปศุสัตว์ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เข้าร่วม ณ ห้องประชุม 134 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อจัดที่ดินให้เกษตรกร โดยเน้นการทำเกษตรมูลค่าสูง การส่งเสริมการพัฒนาอาชีพ

นางสาวอุษา โทณผลิน ผู้อำนวยการสำนักงานเศร... สศท.3 หนุนสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น 'สับปะรดท่าอุเทน' GI ขึ้นแท่นผลไม้เศรษฐกิจเด่น จ.นครพนม — นางสาวอุษา โทณผลิน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่...

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงา... 3 ปี ผลสำเร็จแปลงใหญ่ทุเรียนหนองโสน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้วรวมกว่า 23.79 ล้านบาท — นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กร...

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกร... ไทย - จีน จับมือสร้างความสัมพันธ์ พร้อมเปิดตลาดสินค้าด้านการเกษตร — ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกั...

นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงา... โครงการส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตรในระดับชุมชนสร้างอาชีพมั่นคง ต่อยอดมูลค่าผลิตผลทางการเกษตร — นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร...

นางสาวกาญจนา ขวัญเมือง รองเลขาธิการสำนักง... ไทยส่งเสริมบทบาทสตรีในภาคเกษตร ผลักดันความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการ ในเวที CFS ครั้งที่ 51 — นางสาวกาญจนา ขวัญเมือง รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ...

สศก. ติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินด... สศก. ติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา — สศก. ติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดา แหล่งน้ำขนาดใหญ่ เพื่อเกษตรกรรม และระบบนิเวศครบครัน นายฉันทานนท์...

นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศ... สศก. ขึ้นรับรางวัล 'Excellent Open Data Hub' หน่วยงานเปิดเผยชุดข้อมูลเปิดภาครัฐ โครงการ DIGI DATA AWARDS — นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจ...