TEGH ยืนยัน! ไม่ได้รับผลกระทบสหรัฐฯ ขึ้นภาษีส่งออกยางแท่ง ชี้เป็นสินค้าในรายการที่ได้รับยกเว้นการเก็บภาษีเพิ่มเติม ลุยขยายตลาดอินเดีย-จีน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) ยืนยัน มาตรการ "Reciprocal Tariffs" ของสหรัฐฯ ไม่ส่งผลกระทบการส่งออกยางแท่งของบริษัท เพราะอยู่ในรายการสินค้าที่ได้รับการยกเว้นจากการเก็บภาษีเพิ่มเติม ฟากแม่ทัพหญิง "สินีนุช โกกนุทาภรณ์" ระบุบริษัทฯ ไม่ได้พึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งเพียงอย่างเดียว ล่าสุดเดินหน้ารุกขยายตลาดอินเดีย-จีน

TEGH ยืนยัน! ไม่ได้รับผลกระทบสหรัฐฯ ขึ้นภาษีส่งออกยางแท่ง ชี้เป็นสินค้าในรายการที่ได้รับยกเว้นการเก็บภาษีเพิ่มเติม ลุยขยายตลาดอินเดีย-จีน

นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ และน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และผู้นำด้านการผลิตพลังงานทดแทนประเภทพลังงานชีวภาพและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจรรายใหญ่ในพื้นที่ EEC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยืนยันว่า มาตรการ "Reciprocal Tariffs" ของสหรัฐอเมริกาที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เมษายน 2568 นี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้ายางพาราของ TEGH โดยเฉพาะยางแท่ง (Technically Specified Natural Rubber - TSNR) ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้าหลักที่ส่งไปยังตลาดสหรัฐฯ

ทั้งนี้ อ้างอิงข้อมูลจากประกาศอย่างเป็นทางการของทำเนียบขาวสหรัฐฯ (White House) ที่ระบุในคำสั่งประธานาธิบดี (Executive Order) ลงวันที่ 2 เมษายน 2568 และภาคผนวกที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถสรุปได้ ดังนี้ สินค้ายางล้อรถยนต์จะมีรายชื่ออยู่ในสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ "Reciprocal Tariffs" แต่ สินค้า Harmonized Tariff Schedule of the United States (HTSUS) Code 40011000 และ 40012200 ซึ่งครอบคลุมยางพาราในรูปแบบน้ำยางธรรมชาติ (Natural Rubber Latex) และยางแท่ง (Technically Specified Natural Rubber - TSNR) ซึ่งอยู่ในรายการสินค้าที่ได้รับการยกเว้นจากการเก็บภาษีเพิ่มเติมตามคำสั่งฯ (อ้างอิง Annex II) และ สหรัฐฯ ยังคงไว้ซึ่งสถานะการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้ายางแท่ง และยังไม่มีการจัดเก็บภาษีเพิ่มเติม

ขณะที่ทางบริษัทฯ มีการวิเคราะห์ความเสี่ยงและมีแผนกระจายความเสี่ยงแล้วตั้งแต่แรก โดยบริษัทฯ มีฐานลูกค้าผู้ผลิตยางล้อรถยนต์กระจายอยู่ทุกทวีปทั่วโลกซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ และ ณ ปัจจุบันยังมีแผนที่จะรุกขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศอินเดียและจีนมากขึ้น

"ยืนยันว่า การส่งออกสินค้ายางแท่งของบริษัทฯ ไปยังสหรัฐฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตราการขึ้นภาษี "Reciprocal Tariffs" ในครั้งนี้แต่อย่างใด เนื่องจากยางแท่งเป็นอยู่ในรายชื่อสินค้าที่ได้รับการยกเว้น และเรามีฐานลูกค้าทั่วทุกทวีป ขณะเดียวกัน อุปสงค์ของ EUDR ที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลดีต่อผลบริษัทในปีนี้ทั้งในเชิงของปริมาณขายและอัตรากำไร ส่วนธุรกิจปาล์มน้ำมันจะสามารถเทิร์นอะราวด์ได้ในปีนี้จากปัจจัยการลงทุนเครื่องจักรไปในปี 2567 และผลผลิตปาล์มที่จะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจะสภาวะเอลนีโญ รวมถึงสายพลังงานที่จะเติบโตได้ตามแผนในปีนี้ เราจึงมั่นใจในศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน" กรรมการผู้จัดการ TEGH กล่าวในที่สุด


ข่าวไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์+ไทยอีสเทิร์นวันนี้

TEGH ผงาด! ติดอันดับ Fortune Southeast Asia 500 ปี 2025 เป็นครั้งแรก สะท้อนศักยภาพการเติบโตอย่างมั่นคง บนพื้นฐานความยั่งยืนและความรับผิดชอบ

บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Fortune Southeast Asia 500 ประจำปี 2025 ในอันดับที่ 461 เป็นครั้งแรก จากนิตยสารชั้นนำระดับโลก Fortune ซึ่งคัดเลือก 500 บริษัทที่มีรายได้สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของ TEGH ในการเติบโตทางธุรกิจ ควบคู่การดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบ และมุ่งสู่ความยั่งยืนในทุกมิติ นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH เปิดเผยว่า "การได้รับคัดเลือก

บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ประกาศแป... TEGH ประกาศแปรสภาพ "TEBP" ขึ้นแท่น บ.มหาชน เดินหน้าเข้าตลาด mai เสริมทัพธุรกิจสร้างการเติบโต — บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ประกาศแปรสภาพบริษัทย่อย คื...