เปิดเป้าหมายดีพร้อมกับการพัฒนาอุตสาหกรรมสายแฟชั่น หนุน "ซอฟต์พาวเวอร์ไทย" พร้อมเผยความสำเร็จแบรนด์ INTHAI กับการใช้เสน่ห์ "ลวดลายไทย" มัดใจผู้บริโภค
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) มุ่งเน้นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศ ผ่านการยกระดับศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ระดับสากล เดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยสู่ "ซอฟต์พาวเวอร์" พร้อมเผย 3 เทรนด์แฟชั่นโลกที่ผู้ประกอบการไทยสามารถนำไปปรับใช้เสริมโอกาสทางธุรกิจ ได้แก่ การเปลี่ยนผ่านจาก Fast Fashion สู่ Slow Fashion และความยั่งยืน งานฝีมือที่สะท้อนความหรูหราที่เรียบง่าย และการเชื่อมโยงแฟชั่นกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ทั้งนี้ ในปี 2568 ที่ผ่านมากรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้ผลักดันโครงการพัฒนาผู้ประกอบการจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังได้โชว์ความสำเร็จของผู้ประกอบการที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม แบรนด์ INTHAI ประสบความสำเร็จจากการใช้ลวดลายความเป็นไทย เข้าถึงตลาดและผู้บริโภค
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของ นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม มีแนวทางส่งเสริมอุตสาหกรรมแฟชั่น ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย
มีมูลค่าการส่งออกราว 2.2 แสนล้านบาท และเกิดการจ้างงานราว 7.5 แสนคน แต่ด้วยสถานการณ์ความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้อุตสาหกรรมนี้กำลังเผชิญกับโจทย์ท้าทายสำคัญ สะท้อนจากข้อมูลของสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ ที่พบว่าในช่วงปี 2568 อุตสาหกรรมแฟชั่น
ของไทยและทั่วโลก ยังต้องเผชิญแรงกดดันรอบด้าน ทั้งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง ต้นทุนแรงงานสูง ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวดขึ้นจากประเทศคู่ค้า การปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางการค้าโลก และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ดีพร้อมมองเห็นโอกาสที่จะสร้างมูลค่าเพิ่ม และเพิ่มศักยภาพใหม่ที่สอดคล้องกับแนวโน้มโลก โดยมุ่งดำเนินงานเชิงรุกผ่านนโยบาย "ดีพร้อมคอมมูนิตี้ ที่นี่มีแต่ให้" ตามกลยุทธ์ 4 ให้ 1 ปฏิรูป คือ ให้ทักษะใหม่ให้เครื่องมือทันสมัย ให้โอกาสโตไกล ให้ธุรกิจไทยที่ดีคู่ชุมชน และปฏิรูปดีพร้อมสู่องค์กรที่ทันสมัย ตามกลไกซอฟต์พาวเวอร์ ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมด้วยการ "สร้างสรรค์และต่อยอด" ให้เกิดเสน่ห์ คุณค่า และเพิ่มมูลค่า "โน้มน้าว" ให้เกิดการยอมรับ เปิดใจ และต้องมีการ "เผยแพร่" ให้เป็นที่รู้จัก โดยมีเป้าหมายพัฒนาทักษะบุคลากรในอุตสาหกรรมแฟชั่น ให้มีองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ พร้อมส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางแฟชั่นโลกที่ขับเคลื่อนด้วยอัตลักษณ์ความเป็นไทยอย่างแท้จริง โดยในปี 2568 มีการดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแฟชั่นทำให้เกิดการพัฒนาธุรกิจและผู้ประกอบการมากกว่า 129 ราย อาทิ
- กิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand สาขาอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย ภายใต้โครงการส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าแฟชั่นจากทุนทางวัฒนธรรมไทยสู่สากล (Fashion Identity) ด้วยการใช้ซอฟต์พาวเวอร์ผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นและดีไซน์ร่วมสมัย มุ่งสร้างแบรนด์ที่มีอัตลักษณ์และมาตรฐานสากล ลดการพึ่งพา OEM สู่การสร้างแบรนด์ไทยที่ยั่งยืน พร้อมขยายโอกาสการตลาด เชื่อมโยงเครือข่ายแฟชั่น และผลักดันเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์
- กิจกรรมพัฒนาบุคลากรในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายไทย ภายใต้โครงการพัฒนาและเชื่อมโยงเครือข่ายบุคลากรอุตสาหกรรมแฟชั่น (Fashion Alliance) มุ่งพัฒนาและและสร้างทักษะที่จำเป็น เพื่อยกระดับศักยภาพผู้เริ่มต้นทำธุรกิจด้านแฟชั่นสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ตั้งแต่การบริหารจัดการ การเขียนและวางแผนธุรกิจ การสร้างโมเดลธุรกิจ รวมถึงการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการออกแบบและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงเชื่อมโยงเครือข่ายและสามารถสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำหรับจัดตั้งและยกระดับธุรกิจแฟชั่น ตามนโยบาย "หนึ่งครอบครัว หนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ (OFOS)"
แม้ตลาดโดยรวมจะมีความท้าทาย แต่ยังมีโอกาสสำคัญที่ผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์ได้เพื่อพลิกวิกฤตเป็นโอกาส จากตลาดแฟชั่นในไทยที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มเสื้อผ้าสตรีที่มีมูลค่าตลาดสูงถึงกว่า 12,000 ล้านบาท
ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งดีพร้อมได้เห็นโอกาสสำคัญที่จะพัฒนาผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังพร้อมเชื่อมโยงความเป็นซอฟต์พาวเวอร์กลุ่มแฟชั่นไทยกับเทรนด์ที่สำคัญในอนาคต ได้แก่
- การเปลี่ยนผ่านจาก Fast Fashion สู่ Slow Fashion และความยั่งยืน ผู้ประกอบการควรมุ่งเน้นการผลิตและการสื่อสารด้านความยั่งยืนให้มากขึ้น จากเดิมที่เน้นการผลิตจำนวนมาก หรือบางกระบวนการที่สร้างผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ การใช้เส้นใยธรรมชาติท้องถิ่น การขับเคลื่อนการออกแบบเชิงหมุนเวียน การรีไซเคิล นำวัสดุเหลือใช้กลับมาเพิ่มมูลค่า ซึ่งไม่เพียงช่วยลดของเสียและลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของอุตสาหกรรม แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสให้แบรนด์ไทยก้าวสู่เวทีโลกในฐานะแฟชั่นที่เป็นมิตรต่อโลก ควบคู่กับการต่อยอด Soft Power ให้แฟชั่นไทยกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรับผิดชอบและความสร้างสรรค์ในระดับภูมิภาคและระดับโลก
- งานฝีมือที่สะท้อนความหรูหราที่เรียบง่าย (Quiet Luxury) โดยเทรนด์แฟชั่นระดับโลกกำลังหันมาสนใจความเรียบง่ายที่มีคุณภาพและเริ่มให้คุณค่ากับการเลือกใช้วัสดุที่พรีเมียม งานตัดเย็บประณีต และดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา แนวโน้มนี้ช่วยเปิดโอกาสให้แบรนด์ไทยที่มีความชำนาญด้านหัตถกรรม เช่น ผ้าไหมไทย ผ้าครามมีโอกาสเข้าสู่ตลาดโลก และทำให้แฟชั่นไทยสามารถสร้างจุดขายที่แตกต่างและยั่งยืนในระยะยาว เป็นต้น
- การเชื่อมโยงแฟชั่นกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ผลิตภัณฑ์แฟชั่นไทย เช่น ผ้าไหม หรือเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่สะท้อนอัตลักษณ์ท้องถิ่น สามารถเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวไทยในเชิง Soft Power ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือสื่อสารวัฒนธรรมให้ผู้บริโภคได้เห็นรากเหง้าความเป็นไทยผ่านดีไซน์และเรื่องเล่า และมีบทบาทสำคัญต่อการรักษาไว้ซึ่งความยั่งยืนของวัฒนธรรม และเศรษฐกิจของชุมชน
ด้านนางสาวอารียา บุญช่วยแล้ว ผู้ก่อตั้งแบรนด์ INTHAI ที่ได้รับการสนับสนุนจากดีพร้อมในโครงการ Fashion Hero Brand และโครงการ DIPROM Thai Designer Lab เล่าว่า "INTHAI" เกิดขึ้นจากความหลงใหลในศิลปะและหัตถกรรมไทยที่มีเสน่ห์และความประณีตไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่บ่อยครั้งถูกมองว่าเป็นเรื่องโบราณและเข้าถึงยาก จึงอยากทำให้งานศิลปะและหัตถกรรมไทย "อิน" กับยุคสมัยมากขึ้น ด้วยการหยิบแรงบันดาลใจจากหัตถกรรมไทยใกล้ตัว เช่น ลายคราม เบญจรงค์ และชามตราไก่ มาถ่ายทอดในเชิงสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ทั้งเสื้อผ้า ผ้าพันคอ และเครื่องประดับ ที่สวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ผู้ที่ชื่นชอบงานดีไซน์ที่แตกต่างและไม่ซ้ำใคร ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์ ทั้งคนรุ่นใหม่ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยทำงาน นักท่องเที่ยว และผู้ที่รักงานคราฟต์ไทย ได้สัมผัสและภาคภูมิใจกับมรดกทางวัฒนธรรมไทยผ่านการเล่าเรื่องที่ร่วมสมัย เป็นจุดเด่นสำคัญของแบรนด์ที่สามารถผสมผสาน "ความเก่าแก่" กับ "ความร่วมสมัย" ได้อย่างลงตัว โดยไม่หยิบลวดลายไทยมาใช้งานตรง ๆ แต่เลือกที่จะ re-design และสร้างสรรค์ใหม่ให้เข้ากับแฟชั่นสากล ทุกชิ้นงานยังใส่ใจคุณภาพและความประณีต เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าสิ่งที่ได้รับคือผลงานที่คุ้มค่าและมีเอกลักษณ์ การที่เรามีจุดยืนชัดเจนทำให้ผู้คนจดจำแบรนด์ได้ง่าย ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการเติบโต
"ผู้ซื้อสินค้าหลายคนมองว่าสินค้าของ "INTHAI" ไม่ใช่แค่เครื่องประดับ แต่เป็น "งานศิลปะที่สวมใส่ได้จริง" สิ่งนี้ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ทำให้สามารถตั้งราคาที่สะท้อนทั้งคุณภาพและเรื่องราวของชิ้นงานได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักกว้างขึ้น สร้างยอดขายและฐานลูกค้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะตลาดแฟชั่นไทยที่ต่อยอดจากวัฒนธรรมยังมีโอกาสมหาศาลทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นซอฟต์พาวเวอร์ที่สามารถ "ขายเรื่องราวและความเป็นไทย" สู่สายตาคนทั่วโลกได้ หากนำเสนอในรูปแบบที่ร่วมสมัยและสอดคล้องกับวิถีชีวิตปัจจุบัน จะช่วยสร้างรายได้ สร้างภาพลักษณ์ และเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น การได้รับการสนับสนุนจาก ดีพร้อม ช่วยลดข้อจำกัดที่ผู้ประกอบการรายเล็กต้องเจอ เช่น การเข้าถึงตลาดต่างประเทศ การจัดการธุรกิจ หรือค่าใช้จ่ายในการออกบูธ อีกทั้งยังเสริมจุดแข็งให้เราผ่านการอบรม การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการสร้างเครือข่ายธุรกิจ สิ่งเหล่านี้ทำให้ INTHAI เติบโตอย่างมั่นคงและมีทิศทาง ที่สำคัญ ดีพร้อม ยังเป็นเหมือนสะพานที่เชื่อมไปสู่โอกาสใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้แบรนด์ไทยสามารถยืนหยัดและแข่งขันได้จริงในเวทีโลก"
"รมว.เอกนัฏ" โชว์ "ดีพร้อม" หนุนซอฟต์พาวเวอร์แฟชั่นไทย ในงาน ShowPow ต้อนรับปีใหม่ ส่งเสริมอัตลักษณ์ท้องถิ่น นำภูมิปัญญาไทยสู่สากล
"ดีพร้อม" ผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ ส่งเสริมสินค้าแฟชั่นไทย ตามนโยบาย "รมว.เอกนัฏ" ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ เสริมแกร่งศักยภาพผู้ประกอบการสู่ระดับสากล
"ธนกร" ประกาศ "พักหนี้-ดีพร้อม" ยกต้น : ยกดอก อัตโนมัติ 4 เดือน ช่วยลูกหนี้ SME น้ำท่วมภาคใต้ เร่งเพิ่มสภาพคล่องผ่านสินเชื่อ "เงินง่าย ฟื้นใต้ ช่วยภัยพิบัติ" ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน
"พลอยลภัสร์" เปิดตัวภาพยนตร์ "สำรับ สลับศตวรรษ My Century" ผนึกพลังสร้างสรรค์ ถ่ายทอดเสน่ห์อาหารไทย ผ่านภาพยนตร์ก้าวไกลสู่เวทีสากล
"ดีพร้อม" โชว์ความสำเร็จสร้าง Hidden Gems ยกระดับร้านอาหารเชฟชุมชนฯ ตอกย้ำเสน่ห์อาหารไทย รังสรรค์ 93 เมนู เชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม คาดสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 140 ล้านบาท
เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ ประเทศไทย และ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมฉลองครบรอบ 10 ปี
กระทรวงอุตฯ ชูผลสำเร็จ 1 ทศวรรษ "Angel Fund" ดีพร้อม-เดลต้า ปั้น "ผู้ประกอบการอัจฉริยะ" 237 ราย สร้างมูลค่าเศรษฐกิจทะลุ 1,000 ล้านบาท พร้อมรุก 3 กลยุทธ์ใหม่ ดันดีพเทคดาวรุ่งสู่ตลาดอุตสาหกรรม
"ธนกร" สั่งการ "ดีพร้อม" Quick Big Win อัดฉีดสินเชื่อ "เงินไว by DIPROM" ดอกเบี้ย 50 สตางค์ กระตุ้นสั้น โค้งสุดท้ายปลายปี ดีมานด์พุ่ง!! 30%